เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า

เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า 

 

ผู้เขียน หัวข้อ: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา  (อ่าน 13613 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nonglak kulwaikowit

  • Meeting2
  • Jr. Member
  • *
  • กระทู้: 32
ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2010 เวลา 08:43 น. »
รบกวนเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่มีประสบการณ์แนะนำด้วยนะคะ

ลูกชายตอนนี้อายุ 2.3 ขวบ ค่ะ เพิ่งทราบว่าเป็นลมชักเนื่องจากไปชักที่โรงเรียน จริง ๆ น้องเคยแสดงอาการแล้วแต่คุณแม่ไม่ทราบ เนื่องจากน้องจะชักแบบเหม่อ นิ่ง ค่ะ ประกอบกับคุณแม่ไม่เคยคิดว่าลูกจะเป็น (ไม่มีประวัติในครอบครัว) รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว อ่านประสบการณ์ชักจากแม่ ๆ ท่านอื่น ก็เลยคอยระวังแต่ตอนลูกมีไข้สูง

อาการของลูกที่พบครั้งแรก ตอนประมาณ 2 ขวบ (3-4 เดือนที่แล้ว) ตอนแรกลูกไม่มีอาการป่วยเลยค่ะ พาไปถ่ายรูปที่สตูเพื่อน ลูกก็วิ่งเล่นปกติ เข้าๆ ออกๆ ห้องแอร์ พอตกเที่ยงรู้สึกตัวลูกเริ่มรุ่ม ๆ แต่ก็คุยเล่นร่าเริงปกติ อยู่ ๆ ก็มีอาการนิ่ง ถาม ตอบ ก็ไม่ตอบ (ปกติเค้าจะพูดเก่งค่ะ ถามตอบได้ตลอด) อาการเป็นแบบเหมือน สวิสต์ เปิด ปิด เลยค่ะ คุยอยู่ดี ๆ ก็เป็น ตอนแรกก็ตกใจ เค้ามีอาการหน้าตา ปกติ แต่ตาลอย อ่อนแรงเล็กน้อย มีน้ำลายเยอะไหลออกมา ตอนแรก ก็ตกใจค่ะ ขึ้นรถมานั่งสักพัก เค้าก็พูดขึ้นมา คิดว่าประมาณ 5 นาที นะคะ บวกเวลาซึมอีกสักพัก กลับมาก็ไม่สบาย อาเจียร เราก็เอะใจ แต่ไม่ได้ไปหาหมออะไร ค่ะ คิดว่าเค้าคงรู้สึกไม่สบายตัวก็เลยนิ่งไป หลังจากนั้นก็เป็นไข้อยู่ 3 วันก็หายเป็นปกติ

มาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาชักครั้งที่ 2 (เท่าที่เห็นนะคะ) แต่คิดว่าน่าจะแค่ 2 ครั้ง ลูกไม่มีอาการอะไร ไปโรงเรียน ปกติ (แต่ตอนกลางคืนงอแง คิดว่าน่าจะเริ่มเจ็บคอ) คุณครูให้ว่ายน้ำ ตอนสาย ๆ พอมาตอนบ่ายเค้าก็มีอาการ เท่าที่ถามอาการ มีอาการคล้าย ๆ กันคือ นิ่ง เหม่อ อ่อนแรง แต่ครั้งนี้คุณครูบอกว่ามีอาการปากเขียว กัดนิ้วคุณครู (ครูเอานิ้วแหย่เข้าปากลูก) เป็นสักพักก็หาย คุณครูส่ง รพ. ใกล้ ๆ รร. สรุปคือลูกมักจะมีอาการชักตอนที่กำลังเริ่มจะไม่สบายค่ะ แต่ไม่ได้ทุกครั้งนะคะ ไม่เข้าใจการเกิดอาการเหมือนกันค่ะ

จากนั้นคุณแม่ก็ย้ายมาที่พญาไท 3 ค่ะ ลูกมีอาการคอ และปากมีหนอง ก็อยู่ รพ. 3 วัน ไข้สูง ไม่มีอาการชักเพิ่มอีก พร้อมกับ ตรวจคลื่นสมอง เพิ่งทราบผลเมื่อวานค่ะ คุณหมอสรวิศ อ่านผลบอกว่าลูกผิดปกติ เป็นแบบบางส่วน เป็นที่สมองด้านหน้าขวา พอคุยเสร็จแม่ก็ร้องไห้เลยค่ะ สงสารลูกมาก เคยเข้ามาอ่านที่นี่ก่อนทราบ ก็กลัวเรื่องทานยา กลัวเรื่องผลข้างเคียงมากค่ะ ยาที่คุณหมอให้ทานคือ Depakine ชนิดน้ำ ทานครั้งละ 0.25 cc 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นให้ทาน 0.5 cc รบกวนสอบถามคำถามนะคะ


1. จำเป็นที่จะต้องมีการตรวจซ้ำ (second opinion) รึเปล่าค่ะ กลัวว่าลูกไม่ได้เป็น แต่ให้ทานยา
2. รบกวนแนะนำหมอที่เชี่ยวชาญให้หน่อยค่ะ
3. เคยมีว่าเป็นแล้วหายหรือเปล่าค่ะ พอดีมีเพื่อนเค้าเป็น ทานยามา 2 ปี กลับไปตรวจซ้ำก็ไม่หาย
4. จากการทานยาจริง ผลที่ได้น่ากลัวรึเปล่าค่ะ ตับน้องจะรับได้หรือเปล่าก็ไม่ทราบค่ะ

ขอบคุณมากๆ ล่วนหน้านะคะ


ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2010 เวลา 11:33 น. »
1. จำเป็นที่จะต้องมีการตรวจซ้ำ (second opinion) รึเปล่าค่ะ กลัวว่าลูกไม่ได้เป็น แต่ให้ทานยา
2. รบกวนแนะนำหมอที่เชี่ยวชาญให้หน่อยค่ะ
3. เคยมีว่าเป็นแล้วหายหรือเปล่าค่ะ พอดีมีเพื่อนเค้าเป็น ทานยามา 2 ปี กลับไปตรวจซ้ำก็ไม่หาย
4. จากการทานยาจริง ผลที่ได้น่ากลัวรึเปล่าค่ะ ตับน้องจะรับได้หรือเปล่าก็ไม่ทราบค่ะ
4. จากการทานยาจริง ผลที่ได้น่ากลัวรึเปล่าค่ะ ตับน้องจะรับได้หรือเปล่าก็ไม่ทราบค่ะ
เมื่อก่อนตัวเองก็เคยกังวล ถามเภสัช เขาตอบว่า "ตัวเราต้องรักษาอาการเฉพาะหน้าก่อน อนาคตยังมองไม่เห็น"


3. เคยมีว่าเป็นแล้วหายหรือเปล่าค่ะ พอดีมีเพื่อนเค้าเป็น ทานยามา 2 ปี กลับไปตรวจซ้ำก็ไม่หาย
มีทั้งหายและไม่หายค่ะ แล้วแต่คน ส่วนตัวเอง หายไปแล้ว 3 ปี กลับมาชักใหม่
พอไปปรึกษาจิตแพทย์รักษาอาการซึมเศร้า(ทราบมาว่า แม่เป็นมะเร็ง ก็เลยเครียดมาก) ก็หายชักค่ะ นับมา ตอนนี้ก็ราวๆ ปี กว่า ที่ไม่ชักค่ะ

ส่วนอื่นๆ คงต้องให้คุณพ่อแม่ ท่านอื่น ที่เชี่ยวชาญเลี้ยงลูกเล็ก มาตอบให้ค่ะ
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

ออฟไลน์ jelly

  • Meeting
  • จอมพลัง
  • *
  • กระทู้: 487
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2010 เวลา 18:18 น. »
สวัสดีครับคุณ nongluk ผมหมูพ่อน้องเยลลี่ครับ

เอาคร่าวๆก่อนนะครับ
1.คงไม่ต้องทำซ้ำถ้าตรวจ eeg แล้วจอคลื่นชักก็คงชัวร์แล้วครับ ของเยลลี่หลังจากเริ่มทานยาประมาณ 2 อาทิตย์หมอนัดมาตรวจ eeg ซ้ำ เพื่อดูว่าหลังจากทานยาคลื่นสมองดีขึ้นมั๊ย แล้วก็ตรวจมาเรื่อยๆครับ มกรา 54 จะเป็นการทำ eeg ครั้งที่ 6 แล้วครับ
2.แนะนำหมอกุมารเวชด้าน neuro ก็คุณหมอมนตรี แสงภัทราชัย รพ กรุงเทพครับ ถ้าไม่สะดวก เดวรอเพื่อนๆท่านอื่นมาแนะนำครับ
3. ใจเย็นๆครับ คงมีทั้งเคสที่หายเป็นปกรติ และก็อาจมีเคสที่ต้องดูแลกันนานหน่อยครับ ขึ้นอยู่กับเราจะปรับตัวรับมือใช้ชีวิตอยู่กับมันยังไงครับ
4.เด็กแต่ละคนมี side effcet ของยาแต่ละชนิดไม่เหมือนกันครับ ยังไง หมอจะสั่งตรวจค่าตับ sgot sgpt ammonia เป็นระยะอยู่แล้วครับ ตลอดช่วงของการทานยา
depakine เรียกว่าเป็นยาสามัญของโรคลมชักเลยครับ side effect น้อยครับ ที่หมอเคยบอกคือ ทำให้ทานจุครับ  ;D
เอาคร่าวๆก่อนนะครับ ลูกสาวผม รักษามา 1 ปีครึ่งแล้วครับ ตอนนี้อายุ3.4 ขวบครับ

ขอให้โชคดีเจอหมอเก่งๆครับ จะได้หายเร็วๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2010 เวลา 18:20 น. โดย jelly »
โรคลมชัก Infantile sapsms
Diagnosed IS 10 June 2009
รักษาด้วย Sabril+Dapakine
Seizure free since 11 June 2009
Meds free since 1 Sept 2011
Dr.มนตรี แสงภัทราชัย
รพ.กรุงเทพ

ออฟไลน์ popja

  • Administrator
  • จอมพลัง
  • *****
  • กระทู้: 871
  • น้องวินลูกพ่อป๊อปแม่โบว์
    • แบ่งปันความรู้โรคลมชัก
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2010 เวลา 21:03 น. »
สวัสดีครับคุณNonglak kulwaikowit 

ผมป๊อปพ่อน้องเทรนด์ครับ
อาการเปิดปิดสวิต (ที่บ้านก็เรียกอย่างนี้เหมือนกัน) น้องเทรนด์เคยมีอาการแบบนั้นครับ
บางทีกำลังเล่นอยู่แล้วก็ค้างไปแป๊ปนึง เหมือนเหม่อนิ่งไปเฉยๆ ไม่ตอบสนอง บางทีก็ 30 วินาทีบ้าง 1 นาทีบ้าง แต่ไม่เคยเกิน 2 นาทีครับ
ของน้องเทรนด์มีอาการปากเขียวด้วย ต้องให้ อ๊อกซิเจน

เท่าที่อ่านมา คิดว่า อาการเหมือน้องเทรนด์ตอนชักแบบเหม่อนิ่ง ยังไงถ้าไม่แน่ใจลองตรวจซ้ำอีกได้ครับ จะได้สบายใจ
และควรรีบหน่อยน๊ะครับ เพราะถ้าเป็นบ่อยๆจะไม่ดีครับ

เรื่องตับ คุณหมอตรวจเป็นระยะๆอยู่แล้วครับคิดว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้

ยังไงเป็นกำลังใจให้คุมชักได้และเจอหมอเก่งๆครับ สู้ๆ


 
สู้สู้

ออฟไลน์ Nonglak kulwaikowit

  • Meeting2
  • Jr. Member
  • *
  • กระทู้: 32
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2010 เวลา 22:58 น. »
ขอบคุณ คุณThanks คุณหมู และคุณป๊อปมากเลยค่ะ ตอนนี้ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดค่ะ ยังไม่กล้าให้น้องทานยาเลยค่ะ ไปพบหมอมาเมื่อวันเสาร์ กะว่าจะให้เริ่มทานยาพรุ่งนี้ (วันจันทร์)ค่ะ ใจหนึ่งก็อยากตรวจซ้ำ แต่ก็สงสารลูกค่ะ กลัว รพ.ไปหมดแล้ว น้องเทรนด์มีอาการคล้ายโฮชิ เลยอยากจะสอบถามคุณป๊อปคร่าวๆ ว่าน้องมีอาการยังไงค่ะ มีโอกาสที่ลูกชายจะเป็นมากขึ้นรึเปล่า ปกติแก่จะเป็นก่อนที่จะไม่สบาย แต่ไม่ทุกครั้งนะคะ ต้องขอโทษนะคะ คุณป๊อปอาจจะเคยเล่าแล้ว พอดีตอนนี้รีบอ่านก็เลยไล่อ่านได้นิดเดียวค่ะ แล้วเรื่อง อ๊อกซิเจน จำเป็นต้องมีติดบ้าน หรือติดตัว (ไม่ทราบมีหรือเปล่า) เอาไว้เลยรึเปล่าค่ะ

รบกวนถามคุณหมูด้วยค่ะว่า ตอนนี้คลื่นน้องเยลลี่เป็นยังไงบ้างค่ะ หลังจาก 2 ปีสามารถหยุดยาได้เลยหรือเปล่าค่ะ ของก้อยคุณหมอนัดตรวจเลือดอีกทีปลาย มค.เลยค่ะ ไม่ได้พูดถึงการตรวจ eeg ซ้ำเลย การนัดคุณหมอมนตรียากหรือเปล่าค่ะ คิดว่าอาจจะไปปรึกษาคุณหมอค่ะ ในกรณีนี้ต้องขอผลการตรวจจากที่เก่าไปหรือเปล่าค่ะ หรือคุณหมอจะให้ทำใหม่เลย

ตอนนี้รักษาอยู่กับคุณหมอ สรวิศ วีรวรรณ ค่ะ ที่พญาไท 3 ปกติหมอประจำอยู่ศิริราช (ทางด้านประสาท) ค่ะ ควรจะยังไงดีค่ะ รักษาต่อเนื่องหรือพอหมอที่เชี่ยวชาญเลยดีค่ะ

ปัจจุบันนี้พัฒนาการลูกเหมือนเด็กทั่วๆ ไปค่ะ พูดคุยได้ปกติ ซนร่าเริง ถามตอบเก่งค่ะ การเป็นโรคนี้จะทำให้ถดถอยทุกกรณีเลยรึเปล่าค่ะ (ไม่รู้คำถามฟังดูตลกหรือเปล่าค่ะ) และควรมีแนวทางต่อไปยังไงดีค่ะ ตอนนี้เรื่องกลุ้มอีกเรื่องคือให้ลูกเข้าเรียนแล้วค่ะ (เนื่องจากไม่ทราบก่อนว่าลูกมีโรคประจำตัว) เสียดายค่ำเทอมค่ะ จำเป็นต้องหยุดเรียนเลยหรือเปล่าค่ะ เพราะไปเรียนก็เสี่ยงต่อการป่วยบ่อยๆ ที่คุณแม่คิดว่าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการชักอะค่ะ

สุดท้ายติดใจเรื่องการทานยาค่ะ คิดว่าการทานจะมีผลได้ผลเสียดีกว่าการไม่ทานหรือเปล่า กลัวเรื่อง side effect เรื่องเลือด และตับ หรือถ้าไม่ทานยาแต่ระวังเรื่องการเจ็บป่วยพอจะเป็นไปได้หรือเปล่าค่ะ ตอนที่ไปถามคุณหมอ คุณหมอก็บอกว่าแล้วแต่เราว่าจะทานหรือไม่อย่างไร ก็เลยลังเลนิดนึงอะค่ะ

ขอบคุณทุกท่าน ทุกคำปรึกษาล่วงหน้านะคะ

ก้อยแม่น้องโฮชิ


ออฟไลน์ Nonglak kulwaikowit

  • Meeting2
  • Jr. Member
  • *
  • กระทู้: 32
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2010 เวลา 23:47 น. »
ไปไล่อ่านเรื่องน้องเยลลี่แล้วค่ะ ดีใจจังเลยค่ะ น้องโฮชิก็เรียนที่ เด่นหล้า เพชรเกษม เหมือนกันค่ะ ตลกเรื่องที่คุณหมอให้ปรับพฤติกรรมอะค่ะ คุณพ่อน้องโฮชิก็ถามค่ะว่าร้องไห้ทำให้ลูกชักหรือเปล่า คุณหมอเด็กเหมือนรู้ทัน ก็เลยบอกว่าไม่เกี่ยวกันค่ะ ย้ำว่าให้เลี้ยงเหมือนเด็กปกติทั่วไป นี่ก็กะว่าจะไปแจ้งคุณครูไว้ เพราะอาจจะต้องฝากเรื่องทานยา โฮชิไม่มีปัญหาเรื่องการเดินค่ะ ก็กะจะบอกให้คุณครูแค่คอยดูเค้าถึ่หน่อย อาจจะให้นั่งในที่ ๆ เห็นได้ชัดเจน และคอยระวังเมื่อมีอาการค่ะ

พรุ่งนี้ว่าจะโทรนัดที่ รพ.กรุงเทพ ดูค่ะ คุณหมูเป็นแรงบันดาลใจ ตอนนี้เลยค่ะ อยากให้ลูกหายเป็นปกติ น่ารักเหมือนน้องเยลลี่

ขอให้ผลบุญจากการให้คำปรึกษาเป็นวิทยาทานของคุณหมู ส่งผลให้น้องเยลลี่หายเป็นปกติ 100 เปอร์เซ็น เลยค่ะ

แต่แปลกใจค่ะ น้องโฮชิชักวันจันทร์ ตรวจ eeg วันพุธ ทั้งที่ไม่มีอาการชัก แต่ก็ยังพบคลื่นชัดเจนอยู่เลยค่ะ

ถ้ามีโอกาสอาจจะหวังว่าจะได้เจอน้องเยลลี่ที่โรงเรียนนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

 

ออฟไลน์ Nonglak kulwaikowit

  • Meeting2
  • Jr. Member
  • *
  • กระทู้: 32
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2010 เวลา 00:34 น. »
น้องเทรนด์หล่อ + น่ารักมาก

ออฟไลน์ Nonglak kulwaikowit

  • Meeting2
  • Jr. Member
  • *
  • กระทู้: 32
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2010 เวลา 00:39 น. »
น้องเทรนด์ หล่อ + น่ารักมากๆ เลยค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณพ่อ คุณแม่ นะคะ น้องโชคดีมากค่ะ ที่มีคุณพ่อคุณแม่ที่เข้มแข็ง ใส่ใจและ รักเค้ามากก  ขอให้น้องมีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับนะคะ ดูแล้วน้องดูปกติมาก ๆ เลยค่ะ แถมหล่อด้วยค่ะ คุณพ่อ สู้สู้นะคะ เข้าใจถึงหัวอกคนเป็นพ่อแม่เลยค่ะ ถ้าแลกสุขภาพลูกได้ก็คงจะทำ ขอให้มีปาฎิหารย์ในทุก ๆ วันนะคะ

ออฟไลน์ popja

  • Administrator
  • จอมพลัง
  • *****
  • กระทู้: 871
  • น้องวินลูกพ่อป๊อปแม่โบว์
    • แบ่งปันความรู้โรคลมชัก
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2010 เวลา 07:52 น. »
เรื่องการรักษา ถ้ายังไม่แน่ใจแนวทางการรักษา รีบไปพบคุณหมอมนตรีที่คุณหมูแนะนำให้เร็วที่สุดน๊ะครับ
เพราะถ้ารอนานไป ยังไม่ได้ทานยาคุมชักอาจจะมีอาการมากขึ้น ปล่อยไว้ไม่ดีครับ
เพราะทุกครั้งที่น้องเทรนด์ชัก แกจะถอยหลังไปครับ ไม่มากก็น้อย

อาการน้องเทรนด์ชักครั้งแรกตอน 4 เดือน เป็นชักกระตุกทั้งตัว ครั้งที่ 2-4 เป็นตอน 8 เดือน นอน รพ.อยู่เดือนกว่าๆ ตอนนั้นทานยาเยอะมาก
อาการช่วง 8 เดือน แรกๆ ก็ชักเกร็งทั้งตัว พอหลังๆเริ่มเปลี่ยนอาการชักเป็นแบบเหม่อ (อาการชักเปลี่ยนได้ครับ ถ้ายังคุมไม่ได้)
คืออย่างที่คุณ Nonglak บอกว่า ปิดสวิตนั่นแหละครับ แกจะเหม่อ หน้าซีด ปากม่วงปากเขียว คือขาดอ๊อกซิเจนครับ
บางครั้งก็เหม่ออย่างเดียวปากไม่ม่วงก็มี อาการก็คือ ทำอะไรอยู่แกก็นิ่งไปเฉย(ปิดสวิต) ซักพักก็เริ่มรู้สึกตัว
ยังไงต้องลองสังเกตดูว่ามีปากม่วงบ้างหรือเปล่า ถ้าใช่ คงต้องรีบเร่งพบคุณหมอเพื่อรักษาได้เร็วขึ้น
ที่บ้านผมซื้อถังอ๊อกซิเจนติดไว้ เพราะช่วงที่ชักแบบขาดอ๊อกซิเจนนี่แหละครับ ผมกับแฟนก็เลยตัดสินใจซื้อติดบ้านไว้เลย
หลังจากหยุดชักช่วง 8 เดือนไป น้องก็มีอาการ สำลักง่าย คือประมาณว่าระบบภายใจแกไม่แข็งแรงเลย
ทานนมก็สำลักง่าย ตัวก็อ่อน (เข้าใจว่ายังชักข้างในอยู่ แต่เราไม่รู้)
จนมาชักอีกครั้งตอนช่วง 11 เดือน เป็นเหมือนเดิมคือเหม่อนิ่ง หน้าซีด ปากม่วง ช่วงนี้ก็ดูแกหนักมากเหมือนกัน
admit อยู่ประมาณ 10 กว่าวัน จนทานอาหารคุมชัก ketogenic diet ร่วมกับทานยา น้องจึงเริ่มแข็งแรงขึ้น
(อาหารคุมชัก ช่วยคุม 50% อีก 50% ต้องใช้ยาคุม เพราะน้องทานยาหลายตัวแต่ก็ยังคงมีชักอยู่ จึงใช้อาหารคุมชักช่วยด้วยครับ)
ช่วงชักที่ผ่านมา แกชักโดยไม่มีไข้ครับ

ล่าสุดพึ่งจะมาชักเมื่อวันพ่อพอดี แกติดเชื้อไวรัส มีไข้สูง อาการชั้กเป็นแบบเกร็งกระตุกทั้งตัว admit ไป อาทิตย์พอดี (ตอนหลังออกผื่น คงเป็นส่าไข้ครับ)
เป็นครั้งแรกที่มีไข้แล้วชัก ต่อไปต้องระวังเรื่องไข้แล้วหละครับ

ผมถามคุณหมอว่า ชักแบบไหนแรงกว่ากัน คุณหมอว่า ชักเกร็งกระตุกทั้งตัว แรงกว่าแบบเหม่อ แต่ก็ไม่ดีทั้ง 2 อย่าง
แบบทั้งตัว คลื่นจะออกมาทั่ว ส่วนแบบเหม่อจะออกมาเฉพาะจุดครับ

ตอนนี้น้องเทรนด์ก็อยู่ช่วงปรับยาอยู่

น้องเทรนด์จะมีคลื่นชักออกมาตอนหลับ ตอนเคลิ้ม คือหลับเมื่อไหร่แกจะมีอาการกระตุกแขนขา ตาส่ายไปส่ายมา
คุณหมอว่า อาการอย่างนี้ เป็นบ่อยไม่ดี ตอนนี้ก็ปรับยาอยู่ครับ

พัฒนาการลูกคุณ Nonglak ดูดีน๊ะครับ ยังไงรีบพบคุณหมอเร็วหน่อยน๊ะครับ
เดี๋ยวคงได้เจอน้องเยลลี่ที่โรงเรียน ได้เพื่อนใหม่แล้ว

การไม่ชักแต่มีคลื่น เป็นไปได้ครับ

น้องเทรนด์ด้านการรับรู้ผมว่าดูดีครับ แต่ด้านกล้ามเนื้อจะมีปัญหา

ขอให้คุณ Nonglak ได้เจอคุณหมอเก่งๆครับ
สู้ๆ
ขอบคุณกำลังใจน๊ะครับ แบ่งกำลังใจให้กันและกัน

สู้สู้

ออฟไลน์ kedy

  • Meeting2
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 174
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2010 เวลา 15:29 น. »
สวัสดีค่ะ ชื่อเกด แม่น้องเอินเอินค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก แต่น่าจะรู้จักกันที่อื่นเนอะ ลูกจะได้ไม่เป็นโรคนี้

ตามที่อ่านคุณหมอสรวิศ ก็รักษาน้องๆในเว็บบนี้อยู่ ก็รักษาอาการได้ดีนะค่ะ ลูกสาวรักษาที่ศิริราชเหมือนกันค่ะ กับอ.สุรชัย ตอนนี้ก็คุมชักได้ค่ะ แต่เราต้องระวังหลายๆอย่างประกอบด้วยค่ะ ทั้งเรื่องไข้ ตัวกระตุ้นต่างๆ ลูกสาวจะเป็นชักเกร็งทั้งตัวค่ะ คล้ายๆน้องแทรนด์ค่ะ แต่ไม่เหม่อ พอหยุดชักพัฒนาการก็ปกติดี ส่วนน้องโฮชิ พัฒนาการเลยไปเยอะแล้วถือว่าโชคดีมากๆ ลูกสาวยังมีพูดช้าบ้างเพราะตอนชัก กำลังหัดพูดพอดีค่ะ

1. จำเป็นที่จะต้องมีการตรวจซ้ำ (second opinion) รึเปล่าค่ะ กลัวว่าลูกไม่ได้เป็น แต่ให้ทานยา
-----จริงๆแล้วถ้าหมอตรวจเจอคลื่น คงต้องทานยาน่ะค่ะ อย่างลูกสาว ตรวจ MRI,EEG น้ำไขสันหลัง ไม่เจอสาเหตุ ยังต้องทานยาเลยค่ะ ไม่อยากให้ลูกชักค่ะ น่ากลัวค่ะ

2. รบกวนแนะนำหมอที่เชี่ยวชาญให้หน่อยค่ะ
-----อ.สรวิศ ก็เป็นหมอระบบประสาทโดยตรงนะค่ะ และไปรักษาที่รพ.พญาไท น่าจะสะดวกกว่า ลูกสาวรักษาคลีนิคปกติค่ะ ไปหาวันพฤหัส หมอก็ดูแลดี แต่หากจะลองไปหาหมอที่อื่น ก็ได้ค่ะเพื่อความสบายใจ ตอนลูกสาวชักยังไม่หยุด ก็อยากไปหาที่อื่น แต่ก็มีหลายคนบอกว่าที่เดิมดีอยู่แล้ว จะได้ต่อเนื่องค่ะ

3. เคยมีว่าเป็นแล้วหายหรือเปล่าค่ะ พอดีมีเพื่อนเค้าเป็น ทานยามา 2 ปี กลับไปตรวจซ้ำก็ไม่หาย
-----เรื่องนี้ก็ติดอยู่ในใจเหมือนกันค่ะ เพราะลูกสาวเป็นแบบไม่ทราบสาเหตุ คงแล้วแต่ดวงแล้วหล่ะค่ะ บางคนหาย ยังชักซ้ำ

4. จากการทานยาจริง ผลที่ได้น่ากลัวรึเปล่าค่ะ ตับน้องจะรับได้หรือเปล่าก็ไม่ทราบค่ะ
-----เรื่องกินยา หมอก็จะนัดตรวจเรื่องค่าตับตลอดน่ะค่ะ ยังไงลองดูก่อนมั๊ย กินเพื่อไม่ให้มีอาการดีกว่าน่ะค่ะ

ยังไงเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ ตอนลูกเราชักครั้งแรก เราก็แทบบ้าค่ะ หาข้อมูลทุกอย่างๆ ตอนนี้ก็เน้นทำบุญ ขอให้เค้าหายจากโรคนี้ค่ะ สู้ๆนะค่ะ

ออฟไลน์ Jen

  • Meeting
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 144
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2010 เวลา 18:17 น. »
สวัสดีครับ ผมเจนครับ เพื่อนๆ ตอบไปหลายคนแล้ว แต่อยากเล่าประสบการณ์เรื่องการเริ่มยาที่เคยเจอมา

อาการเริ่มชักของน้องคล้ายๆ กับลูกชายผม คือมักชักตอนไม่สบาย ไข้ไม่ต้องสูงมาก แต่พอชักแล้วไข้ไปต่ออีก
ไม่ได้เป็นบ่อย แต่ทุกครั้งที่มีไข้มักจะชัก ห่างประมาณ 1-3 เดือน ตามประสาเด็กเริ่มไปโรงเรียน
อาการชักเป็นแบบกระตุกทั้งตัว เกร็ง หน้าตา ปากเขียว น้ำลายไหล

เข้าในคุณเลยเรื่องไม่อยากให้เริ่มยา เพราะเป็นเหมือนกัน ผมเริ่มหาหมอตอนลูกชักได้ 3 ครั้งแต่ยังไม่เริ่มยา เพราะตรวจหาคลื่นไม่เจอ
จนกระทั่งชักครั้งที่ 6 ไปตรวจคลื่นถึงเจอ แต่หมอยังบอกว่าถ้ายังไม่อยากเริ่มยา ให้ดูอาการไปก่อนอีกสักครั้งก็ยังได้ จนกระทั่งชักอีกครั้งที่ 8
ตัดสินใจเลยว่าต้องให้ยาในการรักษา กินยาแล้วไม่ได้หายเลย กินมาปีกว่า ก็ยังต้องปรับยาอยู่เพราะเมื่อไม่สบายก็ยังมีชัก แต่โชคดีที่พัฒนาการ OK

ถ้าน้องเป็นเฉพาะตอนไม่สบาย ก็แสดงว่าไม่น่าจะถี่มาก จะลองหาความเห็นที่สองหรือตัดสินใจหาข้อมูลก่อนผมว่าได้เหมือนกัน
Depakine เป็นยาหลัก กินง่ายแม้รสชาติไม่ดีเพราะปริมาณมันน้อย มีผลกระทบกับตับแน่นอน แต่ยังไงเมื่อกินก็ต้องไปเจาะเลือดตรวจระดับยาเป็นระยะ
ซึ่งก็สามารถตรวจหาค่าเอนไซด์เพื่อดูการทำงานของตับไปด้วย เพื่อเปลี่ยนแปลงยาหรือวิธีการหากค่าตับไม่ดี

ออฟไลน์ Nonglak kulwaikowit

  • Meeting2
  • Jr. Member
  • *
  • กระทู้: 32
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2010 เวลา 20:44 น. »
ขอบคุณ คุณป๊อป คุณเจน และคุณเกด มากเลยนะคะ ตอนนี้ได้นัด คุณหมอมนตรี แล้วค่ะ พุธบ่าย วันนี้มีปรึกษาพี่ที่ทำงานท่านหนึ่ง ลูกสาวชักตอน 7 ขวบ ชักรุนแรงค่ะ ประมาณว่านอนก็ยังชัก พี่เค้าเล่าว่าคุณหมออัดยาจนลูกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา พอฟื้นขึ้นมาก็ผิดปกติไปเลยค่ะ ทั้งที่ก่อนชักยังเล่นตีแบตอยู่ พี่เค้ามีการศึกษานะค่ะ แต่แนะนำ และสนับสนุนให้ก้อยหาแพทย์ทางเลือก (หมอจีน หรือ หมอแมะ) นะคะ ตอนนี้เค้าก็ไม่ได้หาหมอแผนปัจจุบันแล้ว เค้าเล่าว่าพอทานยาน้องก็มีผลข้างเคียง อ่อนแรง ซึม ไม่เหมือนเดิมค่ะ ถ้าย้อนได้เค้าคงมาแนวหมอจีนตั้งแต่แรก พี่เค้าบอกว่ายาจีนจะช่วยปรับสมดุลในร่างกาย เป็นการแก้ที่ต้นเหตุค่ะ ไม่เหมือนยาแผนปัจจุบัน ที่รักษาปลายเหตุ กดอาการ

ยิ่งฟังยิ่งอ่านก็ยิ่งเครียดค่ะ คิดไปสารพัดค่ะ ตอนนี้ก็ยังสับสนอยู่ว่าจะไปแนวไหนดีค่ะ มีท่านไหนเคยมีประสบการณ์ แพทย์จีนบ้างหรือเปล่าค่ะ

ตอนนี้ที่แย่น่าจะเป็นแม่ค่ะ เล่าเรื่องลูก คิดถึงลูกก็ร้องไห้ เข้าใจ และเห็นใจหัวอกพ่อแม่ในนี้ได้อย่างดีเลยค่ะ ตอนนี้นอกจากหาหมอแล้วก็อยากไหว้พระทำบุญค่ะ ปกติก็คิดอยากทำนะคะ แต่ไม่เคยให้ความสำคัญก่อนเลย

ไว้วันพุธพบคุณหมอแล้วจะมา update นะคะ

ขอบคุณทุกท่านค่ะ สู้สู้กันนะคะ


ออฟไลน์ jelly

  • Meeting
  • จอมพลัง
  • *
  • กระทู้: 487
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: วันอังคารที่ 21 ธันวาคม 2010 เวลา 09:22 น. »
น้องจ้ำม่ำจังครับ

ตอนนี้ล่าสุดที่ตรวจ eeg เมื่อประมาณสิงหา ยังมีคลื่นชักอยู้แต่น้อยมากครับ คุณหมอนัด ปลายมกรา 54 ทำ eeg อีกรอบ ถ้าดีขึ้นอีกก็ลดยา ถ้ายังไม่ดีก็ทานต่อไปครับ
มิถุนา 54 ก็จะครบ 2 ปีของการรักษาครับก็ยังหวังอยู่ว่าจะหายขาดอะครับ ตั้งแต่ทานยาครั้งแรกก็หยุดชัก พัฒนาการก็ค่อยๆดีขึ้นมาเรื่อยๆครับ แต่ถ้าเทียบกับเด็กวัยเดียวกับเยลลี่ ถือว่าเยลลี่ยังช้าอยู่ครับ ในเรื่องพูด กับการทรงตัว เช่นการกระโดด การวิ่งครับ แต่ภาพรวม ถือว่าไม่ชักก็ดีที่สุดแล้วครับ ถึงแม้ยังมีคลื่นหลงเหลืออยู่

หมอเคยบอกว่าตอนนี้เราไม่ห่วงคลื่นแล้ว แค่ดูว่าไม่ชักเท่านั้นอะครับ ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ เพราะทำ eeg มา 5 รอบ คลื่นยังมีเหลืออยู่แต่ก็น้อยมากแล้ว  

เรื่องพัฒนาการถดถอย เพราะถ้าเป็นเคส infantile spasms จะเกิดในช่วงอายุเด็กทารกอายุ แรกเกิด 3 เดือนถึง 1ขวบอะครับ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงของการพัฒนาการทางด้านต่างๆของเด็กครับ
ถ้าชักตั้งแต่ช่วงเล็กๆ โอกาสที่พัฒนาการจะหดหายนี่เต็มๆเลยครับ เช่น เรื่องคว่ำ สบตา คอแข็ง คว้าของ กล้ามเนื้อมัดใหญ่ มัดเล็ก ยิ้ม ทุกอย่างเลยอะครับที่เรียกว่าพัฒนาการ
หลังจาก 1 ขวบขึ้นไป ถ้ายังคุมชักไม่ได้ รูปแบบการชักอาจจะเปลี่ยนอะครับ เช่นเป็นชักเกร็ง กระตุก เหม่อ และอีกหลายๆแบบครับ

อย่างเยลลี่มาชักช่วง ใกล้ขวบ เป็นแบบ infantile ครับ  ก็มาหยุดเรื่องการพูด การเดินครับ พอหยุดชัก พัฒนาการก็ค่อยๆ เริ่มกลับมา ( เค้าเคยทำได้มาก่อน แต่มาหยุดไป แต่ถ้าเด็กที่ยังไม่เคยทำได้เลยเช่นเด็กทารก แล้วมาชัก โอกาสพัฒนายิ่งช้าไปอีกเท่าตัวเลยครับ)

คร่าวๆนะครับ เดวมาตอบอีก

เพิ่งเห็นว่าโฮชิเรียนเด่นหล้าเหรอครับ เยลลี่อยู่ ต.อ.11 ครับ แวะมาได้เลย  ;D ;D  ลองไปคุยกับเยลลี่ดูครับ แล้วโฮชิอยู่ชั้นไหนครับ
นัหมอมนตรีแล้วเหรอครับ ดีจัง เจอหมอเก่งอยู่แล้วครับไม่ต้องห่วง เรื่องทานยา ถ้า depakine ไม่ต้องกังวลครับ sabril ว่าหนัก เยลลี่ซัดมาเกือบปีครับ ก็ไม่มีอะไรครับ อย่าชัก ดีที่สุดครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันอังคารที่ 21 ธันวาคม 2010 เวลา 09:30 น. โดย jelly »
โรคลมชัก Infantile sapsms
Diagnosed IS 10 June 2009
รักษาด้วย Sabril+Dapakine
Seizure free since 11 June 2009
Meds free since 1 Sept 2011
Dr.มนตรี แสงภัทราชัย
รพ.กรุงเทพ

ออฟไลน์ jelly

  • Meeting
  • จอมพลัง
  • *
  • กระทู้: 487
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: วันอังคารที่ 21 ธันวาคม 2010 เวลา 09:33 น. »
อยู่สีเหลืองค่า มาเป็นเพื่อนกัน โฮชิ
โรคลมชัก Infantile sapsms
Diagnosed IS 10 June 2009
รักษาด้วย Sabril+Dapakine
Seizure free since 11 June 2009
Meds free since 1 Sept 2011
Dr.มนตรี แสงภัทราชัย
รพ.กรุงเทพ

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
Re: ลูกเป็นลมชัก ขอคำปรึกษา
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: วันอังคารที่ 21 ธันวาคม 2010 เวลา 09:39 น. »
ยิ่งฟังยิ่งอ่านก็ยิ่งเครียดค่ะ คิดไปสารพัดค่ะ ตอนนี้ก็ยังสับสนอยู่ว่าจะไปแนวไหนดีค่ะ มีท่านไหนเคยมีประสบการณ์ แพทย์จีนบ้างหรือเปล่าค่ะ


ส่วนตัวแล้ว  หามาทุกอย่าง เกือบครบแล้วนะค่ะ เข้าทรง กินน้ำมนต์ ดูดวง หมอไทย จีน ยาหม้อ ฯลฯ

สรุปปปปปปปปป  ไม่หาย  กินยาแพทย์ปัจจุบัน ก็ไม่หาย  สาเหตุก็ไม่เจอะ ทำให้ผ่าตัดไม่ได้

มาหาย ไปขาดเลย ตอนคลอดลูก ความสนใจ ไปอยู่ที่ลูกแทน ทั้งหมด ทุกอย่างทำเพื่อลูก (จนลืมชัก)  ;D  ;D

สรุปเอง ว่า เป็นเรื่องของ เวรกรรม

ปัจจุบันนี้พัฒนาการลูกเหมือนเด็กทั่วๆ ไปค่ะ พูดคุยได้ปกติ ซนร่าเริง ถามตอบเก่งค่ะ การเป็นโรคนี้จะทำให้ถดถอยทุกกรณีเลยรึเปล่าค่ะ (ไม่รู้คำถามฟังดูตลกหรือเปล่าค่ะ) และควรมีแนวทางต่อไปยังไงดีค่ะ ตอนนี้เรื่องกลุ้มอีกเรื่องคือให้ลูกเข้าเรียนแล้วค่ะ (เนื่องจากไม่ทราบก่อนว่าลูกมีโรคประจำตัว) เสียดายค่ำเทอมค่ะ จำเป็นต้องหยุดเรียนเลยหรือเปล่าค่ะ เพราะไปเรียนก็เสี่ยงต่อการป่วยบ่อยๆ ที่คุณแม่คิดว่าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการชักอะค่ะ


ส่วนตัวนั้น ตอนที่ชักอยู่ช่วงวัยรุ่น เรียนหนัก นอนน้อย เครียด  เดินออกไปหน้าชั้น ขอลาออก แล้วเดินออกไปหาธุรการเซ็นใบเลยค่ะ แล้วสอบเทียบ จบราม สบายๆ ไม่เครียดด้วย

แต่เด็ก ยังต้องเรียนอยู่ภาคบังคับ คุณแม่ ไม่ต้องกังวลหรอก เมื่อก่อน ต่ายก็ไม่ค่อยจะเหมือนคน เท่าไหร่  เดินก็ไม่ตรง สมองก็ไม่สั่ง ทำงาน ที่ไหน  ถูกไล่ออกที่นั่น   ;D

แต่ทุกวันนี้ "ขอบคุณที่เป็นลมชัก"  แหม...ทำให้ อดเป็นมนุษย์เงินเดือนเลย   ;D  ;D  ;D

แต่ที่จะมีปัญหา คือ ง่วงนอน ตลอดเวลา เวลาเรียน  นั่นละ ทำให้เรียนไม่รู้เรื่อง   คุณแม่ ก็เฉยๆ เถอะค่ะ  ชีวิตเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเรียนเท่านั้น  อย่าไปเรียนพวก รร. ที่มีการแข่งขันสูง ห้องคิง หรือ ฟัง คนอื่นมากไป (เปรียบเทียบการเรียนลูกเรา)

ทุกวันนี้ลูกต่าย ก็พัฒนาการช้า เพราะแม่ชักตลอด ตอนที่ตั้งครรภ์ ก็เฉยๆ เวลาคนมาทักลูกเรา (ก็ได้แค่นี้อะ ทำไง)   ไม่ได้มาช่วยเลี้ยง  อย่าพูดมาก (คิดในใจค่ะ พูดไม่ได้ 5555)

อ่านกระทู้นี้ยังเอ่ย  http://www.lomchakclub.com/v9/index.php?topic=142.0



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันอังคารที่ 21 ธันวาคม 2010 เวลา 09:42 น. โดย Thanks-Epi »
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

 


Powered by EzPortal