sudarat
การผ่าตัดโรคลมชัก
ในปัจจุบัน การผ่าตัดสมอง ผู้ป่วยโรคลมชักที่ดื้อยา (medically intractable epilepsy) สามารถทำให้ผู้ป่วยหายขาดจากโรคลมชักได้ โดยไม่มีผลแทรกซ้อนที่ร้ายแรง ทั้งยังสามารถช่วยลดปัญหาทางจิตสังคมของผู้ป่วยจากโรคลมชักเรื้อรัง ทำให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีเช่นคนปกติ โดยเฉพาะเมื่อเริ่มการรักษาแต่เนิ่น ๆ
หลักการผ่าตัดโรคลมชัก
เป้าหมายก็คือ สามารถผ่าตัดสมองบริเวณที่เป็นจุดกำเนิดของการชัก (epileptogenic zone) และ/หรือ ผ่าตัดรอยโรคที่เป็นสาเหตุออก แล้วทำให้ผู้ป่วยหายชักอย่างถาวร (seizure free) โดยไม่มีผลแทรกซ้อนที่ร้ายแรงจากการผ่าตัด ยังผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ข้อแตกต่างระหว่างการผ่าตัดโรคลมชัก (Epilepsy Surgery) กับ การผ่าตัดสมองทั่วไป (General Neurosurgery)
การผ่าตัดสมองทั่วไป โดยมากมุ่งผ่าส่วนที่เห็นเป็นรอยโรคที่ผิดปรกติเป็นหลัก แต่การผ่าตัดโรคลมชัก เป็นการผ่าตัดสมองส่วนที่ทำหน้าที่ผิดปรกติ ซึ่งปล่อยไฟฟ้าของการชักออกมา (epileptic discharge) โดยอาจเห็นหรือไม่เห็นเป็นรอยโรคก็ได้
การผ่าตัดโรคลมชัก มุ่งรักษาผู้ป่วยให้หายขาดจากการชักเป็นหลัก โดยผู้ป่วยโรคลมชักมักไม่มีอาการผิดปกติทางระบบประสาทร่วมด้วยในเวลาที่ไม่ชักแต่การผ่าตัดสมองทั่วไป มักเป็นการพยายามรักษา หรือหยุด อาการผิดปกติทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นแล้ว จากรอยโรคในสมอง
ในการผ่าตัดโรคลมชัก แพทย์จะทำการตรวจเพื่อป้องกันการสูญเสียหน้าที่ของสมองตั้งแต่ก่อนผ่าตัด โดยใช้เทคนิคที่ทันสมัยต่าง ๆ ประเมินหน้าที่สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาการชัก อย่างเป็นขั้นตอนโดยละเอียด ซึ่งนอกจากผู้ป่วยจะหายชักแล้ว ยังต้องไม่เกิดความสูญเสียหน้าที่สมองจากการผ่าตัดเลย หรือมีให้น้อยที่สุด
ในการผ่าตัดโรคลมชัก แพทย์สามารถทำนายผลการผ่าตัด (surgical outcome) ได้ตั้งแต่ก่อนผ่า ด้วยการตรวจต่างๆ ตามขั้นตอน แล้วประชุมแพทย์ เพื่อร่วมกันพิจารณาว่า ผู้ป่วนรายนั้นๆ จะมีโอกาสหายชักได้มากน้อยเพียงใด ผู้ป่วยกลุ่มที่สัมฤทธิ์ผลโดยการผ่าตัด จะมีโอกาสหายชัก 90-100%
การผ่าตัดโรคลมชัก เป็นการผ่าตัดที่ไม่ฉุกเฉินรีบด่วน นอกจากจะพิจารณาจากโรคลมชักของผู้ป่วยแล้ว ยังทำหลังการประเมินผู้ป่วยเป็นอย่างดี เพื่อหากลุ่มที่ผ่าแล้วจะหายขาดจากการชัก หากการตรวจในชั้นต้น ยังไม่สามารถวินิจฉัยจุดที่จะผ่าตัดได้แน่นอน ก็จะเพิ่มการตรวจที่ละเอียดต่อไป จนกว่าจะพบจุดที่ปล่อยไฟฟ้าของการชัก ซึ่งผ่าแล้วมีโอกาสหายขาดมากที่สุด
ข้อบ่งชี้ของการผ่าตัดโรคลมชัก
โรคลมชักของผู้ป่วย ต้องดื้อยากันชักแล้ว อย่างแท้จริง (medically intractable epilepsy) หลังผ่านยากันชักต่าง ๆ มาเกือบทุกชนิดที่มีในประเทศไทย และหลังได้รับการปรับยาจากแพทย์ผู้ชำนาญอย่างเต็มที่
เป็นโรคลมชักชนิดที่เกิดจากการมีจุดปล่อยไฟฟ้าที่ผิดปรกติเพียงจุดเดียวในสมอง ( single epileptogenic zone ) จุดกำเนิดชักที่จะผ่าตัดออก ต้องไม่อยู่บริเวณสมองที่ทำหน้าที่อย่างหนึ่งอย่างใด ได้แก่ ภาษา ความจำ การเคลื่อนไหว การรับความรู้สึกต่าง ๆ กล่าวคือ เมื่อผ่าตัดออกแล้ว จะต้องไม่เกิดการสูญเสียหน้าที่ใด ๆ ไปจากเดิม ผู้ป่วยควรมีระดับสติปัญญา และสภาพจิตที่ปรกติ ซึ่งเมื่อผ่าตัดหายจากโรคลมชักแล้ว สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม ผู้ป่วย หรือผู้ปกครอง (กรณีเด็ก) ให้ความร่วมมือกับการตรวจต่าง ๆ และต้องการรักษาด้วยการผ่าตัด
ข้อห้ามของการผ่าตัดโรคลมชัก
โรคลมชักที่มีจุดกำเนิดชักชนิดกระจายทั่วทั้งสมองหรือเป็นทั้งสองข้าง หรือมีหลายจุด ( generalized, bilateral or multifocal epileptogenic zone) โรคลมชักชนิดที่ไม่ร้ายแรง หรือหายได้เองเมื่อโตขึ้น ได้แก่ idiopathic generalized epilepsy และ idiopathic benign partial epilepsy บางชนิด
โรคลมชักที่เกิดจากความผิดปรกติทางเมตาบอลิกของสมอง โรคลมชักที่ร่วมกับสมองเสื่อม หรือที่ลุกลามไปเรื่อยๆ มีข้อยกเว้นในโรคสมองอักเสบชนิด Rasmussen's Encephalitis ที่การผ่าตัดสามารถช่วยลดอาการชักได้ มีอาการทางจิตที่ร้ายแรง ซึ่งแพทย์จะพิจารณาเป็นราย ๆไป เพราะบางรายอาการทางจิตดีขึ้น หลังหายจากการชัก สติปัญญาด้อยกว่าปกติ(mental retard) มีข้อยกเว้นในรายที่ทำการผ่าตัดทุเลาอาการล้มโดยวิธี callosotomy หรือในรายที่ระบุจุดกำเนิดชักได้ชัดเจน
เวลาที่เหมาะสมของการผ่าตัด(Timing)
การผ่าตัดโรคลมชัก จะทำแต่เนิ่นๆ เมื่อผู้ป่วยมีข้อบ่งชี้ โดยไม่ทิ้งผู้ป่วยที่ดื้อยาไว้นานเกินไป เพื่อป้องกันผลกระทบอย่างถาวรจากโรคลมชักเรื้อรัง ได้แก่ การพัฒนาการทางสมองในเด็ก ปัญหาทางจิต ความจำ พฤติกรรม การเรียน การทำงาน และการปรับตัวในสังคม มีการศึกษาหลายอันที่สอดคล้องกัน บ่งบอกว่า หากระยะเวลาของการเป็นโรคลมชักยิ่งสั้น ผลของการผ่าตัดจะยิ่งดี
--------------------------------------------------------------------------------------------------
richie lor
ขอคุณมากครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล 180.180.27.32 (?)
--------------------------------------------------------------------------------------------------
WT
น้องกินยาเยอะมากเลยครับ
ตั้งแต่เริ่มรักษาด้วยยามา ชักเพิ่มขึ้นหรือลดลงยังไงบ้างครับ
แล้วน้องตรวจ MRI หรือยังครับ เจอรอยโรคหรือเปล่า
--------------------------------------------------------------------------------------------------
jelly
น่าเป็นห่วงครับ ทานยาเยอะแต่คุมชักไม่ได้
ตอนนี้รักษาที่ไหนครับ