ลูกชายของผมป่วยเป็นโรคลมชัก มาทราบว่าเป็นโรคนี้และเริ่มรักษาเมื่ออายุ11ปีการชักมี3แบบคือแบบที่1.ชักเกร็งทั้งตัว,ตาลอยเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น,น้ำลายไหล,ไม่รู้สึกตัว,แขนขาลำตัวกระตุกบ้างเป็นอยู่20-30นาทีแบบนี้พบไม่บ่อย1-2เดือนพบ1ครั้งแบบที่2.จะหัวเราะสั้นๆแบบไม่มีสาเหตุแล้วก็ค้างคือไม่รู้สึกตัวหน้าซีดตาค้างมีอาการไม่เกิน2นาทีจากนั้นจะง่วงนอนมาก พบการชักแบบนี้มาก่อนที่จะรักษาซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเป็นการชักในอีกรูปแบบหนึ่งแบบที่3พบบ่อยบางครั้งวันละ3-4ครั้งบางครั้งเป็นติดต่อกัน1-2วันคือมีลักษณะนิ่งคล้ายเหม่อค้างหากว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็จะหยุดทำสิ่งนั้นเป็นอยู่ไม่เกิน1นาทีหลังจากได้สติก็จะจำอะไรไม่ได้ว่าตนเองอยู่ที่ไหนทำอะไร เริ่มรักษาที่รพ.พญาไท2มีตรวจคลื่นสมองไฟฟ้าและMRIวินิจฉัยพบมีก้อนเนื้อขนาด6.4*7.0*5.2มม.เรียกโรคนี้ว่าHypothalamic Hamartomaโรคนี้พบน้อยมากๆและอยู่ในสมองลึกมากความเสี่ยงจึงมีมากเริ่มต้นรักษาโดยการกินยา tregretol และkappraคอยสังเกตุอาการเกือบ1ปีแต่ความรู้สึกของเราคิดว่าอาการชักยังไม่ดีขึ้นเลย ระยะหลังอารมณ์ของลูกแปรปรวน,เริ่มเป็นคนหงุดหงิดง่าย,น้อยใจ,ก้าวร้าว,จะทำร้ายชีวิตตัวเอง ต่อมาได้รับคำแนะนำไปที่ศูนย์ลมชักรพ.จุฬาภรณ์คุณพยาบาลทุกท่านใจดีมีความเมตตาช่วยเหลือให้คำแนะนำรักษากับคุณหมอด้านศัลยกรรมประสาทที่รพ.จุฬาลงกรณ์เนื่องจากที่นี่มีความพร้อมทุกด้านสำหรับเด็กมีคุณปุ๊กกี้ประสานงานให้ความช่วยเหลืออย่างดี
โรคนี้มีความซับซ้อนและเกี่ยวเนื่องกันหลายอย่างจึงต้องรับการรักษากับคุณหมอด้านอายุรกรรมเด็ก,ด้านโรคลมชักเด็ก,ด้านจิตเวช,ด้านฮอร์โมนและคุณหมอด้านศัลยกรรมประสาทลมชัก ในเวลานั้นเรามีความหวังสุดท้ายเหลืออยู่กับคุณด้านศัลยกรรมประสาทเท่านั้น ลูกชายเข้ารักษาผ่าตัดเมื่อวันที่19 กรกฏาคม2553 ตอนนี้ทุกอย่างปลอดภัยร่างกายเป็นปกติดีทุกอย่าง คุณหมอได้ตัดไหมและให้กลับไปพักฟื้นบ้านวันที่28 กรกฎาคม2553
สุดท้ายนี้ขอกราบขอบพระคุณพญ.อรุญศรี สันติธนานนท์,พญ.นวลผ่อง เหรียญมณี,นพ.ทายาท ดีสุดจิต,คุณจินตนาและคุณศุทธิชาพยาบาลศูนย์ลมชักรพ.จุฬาภรณ์ทุกท่าน,คุณปุ๊กกี้,พญ.ชุตินาถ ศักรินทร์กุล คุณหมอด้านอายุรกรรมเด็ก,คุณหมอรตนาฏ รักษ์พลเมืองและสุดท้ายกระผมและภรรยาชาบชึ้งจะขอจดจำพระคุณและกราบขอบพระคุณคุณหมอธีระเดช ศรีกิจวิไลกุลผู้เป็นเหมือนดวงประทีปให้เราเป็นอย่างสูง