การชักกลางคืนเสี่ยงต่อการตายไม่ทราบสาเหตุ
การตายโดยไม่ทราบสาเหตุในผู้ป่วยโรคลมชัก (sudden unexpected death in epilepsy; SUDEP) เป็นหนึ่งในสาเหตุที่เสียชีวิตบ่อยของผู้ป่วยโรคลมชัก ปัจจัยสำคัญที่เสี่ยงคือความรุรแรงของการชัก แต่ SUDEP มักจะไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ และมีความเข้าใจในพยาธิสรีรวิทยาการเกิดเหตุการณ์นี้น้อย Lamberts และคณะได้ทำการศึกษาว่าลักษณะการชัก (กลางวัน หรือกลางคืน) และ การเกิด SUDEP ขณะนอนหลับมักเกิดจากการชักตอนกลางคืนหรือเปล่าโดยเปรียบเทียบกับผู้ป่วยโรคลมชักที่ยังมีชีวิต ในวารสาร Epilepsia เดือนกุมภาพันธ์ 2555
ผู้ศึกษาต้องการศึกษาว่าผู้ป่วยที่มี SUDEP หรือผู้ป่วยโรคลมชักที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุขณะนอนหลับมักจะมีอาการชักกลางคืน หรือ อาการชักกลางวันหรือกลางคืนมีความแตกต่างกันในผู้ป่วยลมชักที่เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุกับผู้ป่วยโรคลมชักที่ยังมีชีวิต
การศึกษาพบว่ามี 154 รายที่ยืนยันจากการชันสูตรศพว่าเป็น SUDEP ซึ่งยืนยันโดยพนักงานชันสูตรศพ ประสาทแพทย์ หรือ ญาติที่นำส่ง และมีกลุ่มควบคุมที่เป็นผู้ป่วยโรคลมชัก 616 คน สภาพแวดล้อมขณะเสียชีวิตได้รับการประเมินว่า SUDEP เกี่ยวข้องกับการนอนหลับหรือไม่ ในรายที่ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ SUDEP ถูกจัดว่าเกี่ยวกับการนอนหลับถ้าผู้ป่วยถูกพบว่าเสียชีวิตบนเตียงนอน และมีหลักฐานอื่นๆที่คิดว่ามีการชักเกิดขึ้น เช่น แผลข้างลิ้นจากการกัด ปัสสาวะราด หรือเลือดในปาก จมูก ในรายที่ SUDEP ไม่พบบนเตียงนอนก็จะจัดในกลุ่มไม่เกี่ยวกับการนอนหลับ ถ้าไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่และสภาพแวดล้อมการเสียชีวิต ก็ไม่มีจัดในกลุ่ม ?ไม่ทราบ? นอกจากนี้ในรายที่ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ เวลาขณะเสียชีวิตคำนวณโดยใช้เวลาที่มีผู้เห็นผู้ตายครั้งสุดท้ายจนพบว่าเสียชีวิต หารด้วย 2 ถ้าระยะเวลานี้นานกว่า 4 ชม.ก็ไม่นับรวมในการศึกษา
ผลการศึกษาพบว่า SUDEP ส่วนมากไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ (133/154) และเกี่ยวข้องกับการนอนหลับ (90/154) ,ในกลุ่มที่เป็น SUDEP ลักษณะการชักเป็นตอนกลางคืน 36%, กลางวัน 32% เทียบกับกลุ่มผู้ป่วยลมชักที่ไม่เสียชีวิตมีอาการชักกลางคืน 17%, กลางวัน 58%, ในขณะที่กลุ่มที่ไม่ทราบลักษณะการชักมี SUDEP 32% และในกลุ่มควบคุม 25% แต่คนที่เสียชีวิตขณะนอนหลับมักมีประวัติชักตอนกลางคืนมากกว่าพวกที่เสียชีวิตตอนตื่น
ผู้ป่วยที่ตายมีอาการชักเป็นตอนกลางคืน 53% ขณะที่กลุ่มควบคุมมีอาการชักเป็นตอนกลางวัน 77% ผู้ป่วยที่ตายกะทันหันมีประวัติอาการชักตอนกลางคืนมากกว่ากลุ่มควบคุม
ในผู้ป่วยที่ตายกะทันหันสามารถที่จะจำกัดเวลาที่เสียชีวิตแคบเข้ามาในช่วง 4 ชั่วโมงได้ 40 คน การเสียชีวิตจาก SUDEP ที่เกี่ยวกับการนอนหลับพบบ่อยในช่วงเวลาเช้าตรู่ 4.00-8.00 น. ขณะที่การเสียชีวิตจาก SUDEP ที่ไม่เกี่ยวกับการนอนหลับพบบ่อยในช่วง 8.00-12.00 และ 16.00-20.00
การศึกษานี้ยืนยันว่า SUDEP เกี่ยวข้องกับการนอนหลับและมักไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ เกิดบ่อยช่วงเช้าตรู่เหมือนกับการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด (sudden cardiac death) และการเสียชีวิตของทารก (sudden infant death syndrome) แต่มีความสัมพันธ์กันระหว่าง SUDEP ที่เกิดตอนนอนหลับและประวัติการชักตอนกลางคืน ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าการชักกลางคืนเป็นตัวบ่งบอกว่าโรคลมชักนั้นรุนแรงหรืออาจเป็นตัวร่วมกันซึ่งคนที่ชักมากมักจะชักทั้งกลางวันและกลางคืนความสัมพันธ์ระหว่าง SUDEP และการนอนหลับอาจอธิบายจากระหว่างชักทำให้มีการกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติมากระหว่างหลับและทำให้ไปกดการตื่นตัวระหว่างที่ชัก ผู้ป่วยที่ต่อมาเสียชีวิตจาก SUDEP มักมีชีพจรเต้นเร็วมากเมื่ออาการชักเกิดตอนหลับ ซึ่งไม่พบในกลุ่มควบคุมที่เป็นโรคลมชัก
จากการศึกษานี้บ่งชี้ว่ามีการเชื่อมโยงกันระหว่างการชักตอนกลางคืนและความเสี่ยง SUDEP ซึ่งควรจะมีมาตรการเฝ้าระวังในตอนกลางคืน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มักมีอาการชักตอนนอนหลับ
อ้างอิง: Lamberts R, Thijs RD, Laffan A, Langan Y, Sander JW. Sudden unexpected death in epilepsy: People with nocturnal seizures may be at higher risk. Epilpsia 2012; 53:253-257.
ที่มา :
http://www.thaiepilepsy.com/index.php?option=com_content&view=article&id=195:sudep&catid=34:epilepsy&Itemid=57