ต่ายขอเพิ่มตรงนี้อีกนิดละกัน เพราะตัวเอง ก็ไม่ค่อยมีความรู้ทางกฎหมาย
โรคลมชัก ไม่อยู่ในความคุ้มครองของกฎหมาย ทางจุฬา เคยพลักดันเรื่องนี้แต่ก็เงียบไป เพราะมีคนไข้ ถูกซ้อมจนสลบ ให้รับสารภาพ ว่าเป็นขโมย (คือ ชักเหม่อ แล้วไปหยิบของโดยไม่รู้ตัว) อาการชักเหม่อ รปภ./ตำรวจ ไม่รู้จัก
ไม่ทราบว่า กฎหมายคุ้มครอง ของคนป่วยลมชัก กับ คนพิการ เหมือน/แตกต่าง กันอย่างไร
ต่ายเอง ยังตอบตัวเอง ไม่ได้เลยว่า ถ้าลูกต่ายชักหนักมากๆ จนทำอะไรไม่ได้ ต่ายจะทำบัตรพิการให้เขามั้ย ?
ยิ่งคิดยิ่งสงสารลูก *** นี่เราทำร้ายลูกเราเองหรือนี่***
ทำไปแล้วอย่าไปคิดมาก ไม่ได้เป็นการทำร้ายลูกอะไรเลย ในความรู้สึกต่าย เพราะตอนที่ตัดสินใจทำ
ไม่ว่าเรื่องอะไร พ่อแม่ ย่อมเลือกทางที่ดีที่สุดให้ลูก ไม่อย่างนั้น ทำไมแพทย์ถึงเซนต์ และแนะนำผลประโยชน์
ให้เราเลือก ว่าจะทำบัตรหรือเปล่า
ถ้าความรู้สึกต่ายนะ โรคลมชัก มันละเอียดอ่อนมากๆ บางคน เห็นต่ายเป็นคนพิการ ไม่สมประกอบก็เคยมาแล้ว
ต่ายเองก็เป็นแค่ ชักเหม่อเสียส่วนมาก จนทุกวันนี้ มาเจอะกันอีกที แทบไม่เชื่อสายตา ว่าต่ายจะเดินได้ตรง ทำงานได้ พูดได้ คิดเป็น( จริงๆ ต่ายคิดเป็นนะ แต่คนไม่ยอมฟัง ไม่เชื่อถือ เพราะคิดว่า เราไม่สมประกอบ แต่งเรื่องพูดบ้าง) แถมบางคน ยังฝังใจ ในภาพเก่าๆ ที่ต่ายยังเหมือนพิการ ไม่ให้โอกาสอะไร เหน็บแนมเรื่องเก่าๆ ที่เราป่วย ทั้งๆที่ทุกวันนี้ ก็เหมือนคนปกติ (เหมือนคนปกติหรือเปล่าก็ไม่รู้
คนเลยยังสนุกปากกันอยู่ รับไม่ได้ที่ต่ายไม่ชักแล้ว )
แพทย์+จนท. ที่แนะก็เหมือนกัน ก็เห็นคนไข้ในลักษณะ ที่ต่ายเคยเป็น ถึงแนะนำทางเลือกให้ เพราะแพทย์+จนท. ก็ไม่ได้ได้ผลประโยชน์อะไร แต่อยากให้ ผปค. /คนไข้ ได้สิทธิ (เข้าใจว่า เมื่อก่อน ไม่มีบัตรทอง 30)