เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า

เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า 

 

ผู้เขียน หัวข้อ: ปัญญาคืออะไรกันแน่?  (อ่าน 1623 ครั้ง)

ออฟไลน์ popja

  • Administrator
  • จอมพลัง
  • *****
  • กระทู้: 871
  • น้องวินลูกพ่อป๊อปแม่โบว์
    • แบ่งปันความรู้โรคลมชัก
ปัญญาคืออะไรกันแน่?
« เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2011 เวลา 00:51 น. »
ปัญญาคืออะไรกันแน่?

เมื่อข้าพเจ้าได้มาพิจารณาทบทวน ถึงปัญหาที่ข้าพเจ้าถาม และหลวงพ่อได้เมตตาอธิบายตอบมาแล้วโดยละเอียดๆในหลายๆเรื่องก็บังเกิดความฉงนสนเท่ห์ใจในคำ ๆหนึ่ง คือคำว่า ?ปัญญา? เข้า อาทิเช่นหลวงพ่อพูดว่า ?จิตยังไม่มีปัญญาเพียงพอ? หรืออธิบายว่า หรืออธิบายว่า ?เมื่อทรงฌานได้ก็เอากำลังของฌานไปพิจารณา วิปัสสนาได้โดยง่าย และในที่สุดปัญญาก็จะเกิด เมื่อปัญญาเกิดก็จำปัญญานั้นแหละไปห้ำหั่นกิเลาตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรมได้?เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงได้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในคำว่า ?ปัญญา?ขึ้นมา ปัญญา จะเกิดขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อทรงฌานได้ แล้วเอากำลังของฌานไปพิจารณาวิปัสสนาญาณ เท่านั้นหรือ? ก็แล้วที่ข้าพเจ้าจำแม่นเรียนหนังสือเก่งล่ะ ไม่ใช่เพราะด้วยข้าพเจ้ามีปัญญาดีหรอกหรือ? หรือที่คนอื่นๆเขาได้ปริญญาโท ปริญญาเอก นั่นเล่าไม่ใช่เพราะเขามีปัญญาดีหรอกหรือ? ก็ไม่เห็นว่าจะต้องทรงฌานให้ได้ แล้วไปนั่งพิจารณาวิปัสสนาญาณสักหน่อยนี่

เมื่อเกิดความสงสัยเช่นนี้ ในวันหนึ่งข้าพเจ้าจึงได้หาโอกาสถามหลวงพ่อว่า


?หลวงพ่อครับ การที่ผมดูหนังสือเรียนเที่ยวเดียวแล้วจำได้โดยไม่ต้องท่อง แล้วท่องเล่าเหมือนคนอื่นเขา จะเรียกว่าผมมีปัญญาดีไหมครับ??

?ไม่ใช่ปัญญาดีหรอก เขาเรียกว่า ความจำดีต่างหากเล่า? หลวงพ่อตอบเรื่อยๆ

หลวงพ่อตอบเรื่อยๆ
?แล้วคนเรียนเก่งๆ ที่เขาไปทำปริญญาโท ปริญญาเอก ได้เล่าครับจะยกย่องว่า เขามีปัญญาดีไหมครับ?? ข้าพเจ้าถามต่ออย่างไม่ลดละ

?ไม่ใช่ปัญญาดีอีกนั่นแหละ แต่เขามีความจำดีอย่างคุณนี่แหละ? หลวงพ่อตอบยิ้มๆ

?อ้าว หลวงพ่อ ความจำดีก็ต้องมีปัญญาดีไม่ใช่เหรอครับ? ข้าพเจ้ารีบถาม

?ความจำดีก็เพราะสมองดี สมองดีก็คือเครื่องบันทึกความจำดีเหมือนเช่นเครื่องบรรทุกเสียงหรือเครื่องบันทึกความจำของคอมพิวเตอร์ดีนั่นแหละ บันทึกไว้ หากต้องการใช้เมื่อไรก็นึกย้อนเอา รีไวนด์เอาหรือกดเอา ข้อมูลต่างๆ ที่บันทึกไว้ก็จะออกมานั่นเอง เขาไม่เรียกว่าปัญญาดีนะ เขาเรียกว่าสัญญาดีต่างหากเล่าคุณ?หลวงพ่ออธิบาย

?เอ เท่าที่ผมจำได้ผมก็ไม่เคยไปสัญญากับใครที่ไหนนะครับ? ข้าพเจ้าชักงง

?สัญญา น่ะเขาแปลว่าความจำได้ อย่างงไปเลย คุณมีความจำดีก็เพราะมีสัญญาดี คุณหรือใครก็ตามเรียนหนังสือเก่ง ก็เพราะจำคำสอนของครูบาอาจารย์และผู้รู้ได้ดีกว่าคนอื่น และเพราะความจำดีนี้เองทำให้มีโอกาสค้นคว้า อ่านตำรับตำราได้มากกว่าคนอื่นและจำได้แม่นยำกว่าคนอื่น ดังนั้นเมื่อสอบทีไรใครเขาจะไปสู้คนที่มีความจำดีได้เล่าคุณ แต่อย่าน่ะเขาแปลว่า อย่างงไปเลย
ลืมนะ ถ้าครูเขาสอนผิด คุณก็จะจำได้แบบผิดๆ ถ้าตำรับตำราผิด คุณก็จำผิด เหมือนเครื่องบรรทุกเสียงหรือเครื่องคอมพิวเตอร์นั่นแหล่ะ หากป้อนข้อมูลผิดเข้าไปละก็เสร็จเลยมันก็ต้องบันทึกผิดจำผิด ด้วยจริงไหม? คุณเคยจำคำในหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหงได้ไหม?หลวงพ่ออธิบายแล้วย้อนถาม

ด้วยจริงไหม? คุณเคยจำคำในหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหงได้ไหม?หลวงพ่ออธิบายแล้วย้อนถาม
?ที่ว่าในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ใช่ไหมครับหลวงพ่อ?? ข้าพเจ้าถาม

?เออ นั่นแหละ คุณว่าเดี๋ยวนี้มันยังคงเป็นความจริงอยู่ทั้งหมดไหม?? หลวงพ่อถาม ทำให้ข้าพเจ้าต้องนิ่งคิดอยู่สักครู่ จึงตอบว่าในสมัยตอนผมเด็กๆ เป็นความจริงครับหลวงพ่อในน้ำมีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลามากมาย และทุ่งนาในกรุงเทพฯ ทั้งแถบพระโขนง สะพานควาย บางเขน เขียวชอุ่มไปด้วยข้าวทั้งนั้น แต่ตอนนี้น่าเสียดายจริงๆ ครับผมยังแอบเปลี่ยนข้อความเสียใหม่เลยว่า ?ในน้ำมีไร(ตัวไร เพราะน้ำเน่า),ในไร่มีรา(เชื้อรา),ในนามีบ้านจัดสรร?

?แล้วข้อความท่อนอื่นๆ ในหลักศิลาจารึกล่ะว่าอย่างไร?? หลวงพ่อถามต่อ

?ครับ ผมพอจำได้อยู่บ้างว่า ใครใคร่ค้าช้างค้า ค้าม้าค้า ค้าวัวค้า ควายค้า อะไรทำนองนี้แหละครับ แล้วก็มีว่า ไพร่ฟ้าหน้าใส ครับ?ข้าพเจ้าตอบ

?เอาละจำได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น แล้วคุณว่าเดี๋ยวนี้เป็นเช่นนั้นหรือไม่?? หลวงพ่อถามยิ้มๆ

?เดี๋ยวนี้หรือครับ จะเปิดเขียงขายหมูสักเขียงยังยุ่งวุ่นวายจะหายอะไรไปขายสักหาบก็หาที่วางขายได้แล้วครับ ต้องขายเป็นที่เป็นทางถูกรีดไถทั้งตำรวจ ทั้งเจ้าหน้าที่สรรพากร ยิ่งไพร่ฟ้าในกรุงเทพฯเจอมลภาวะที่เป็นพิษและการจราจรติดขัดด้วยแล้ว หาหน้าใสไม่มี หรอกครับ ทุกวันนี้มีแต่ไพร่ฟ้าหน้าเหลืองซีดเสียส่วนใหญ่ครับ? ข้าพเจ้าตอบตามความเป็นจริง

?แล้วสุภาษิตโบราณที่ว่า สิบพ่อค้าไม่เท่าพระยาเลี้ยงล่ะ คุณว่าเดี๋ยวนี้เป็นจริงไหม?? หลวงพ่อถามต่อ

?ไม่จริงแล้วครับ ผมเห็นสิบพะยาเดินตามตูดพ่อค้า นักธุรกิจออกบ่อยไป? ข้าพเจ้าตอบอย่างขัดใจ

?เอ้อ แล้วที่ว่า ไม่มีขยะมูลฝอยหมาไม่ขี้ล่ะ?? หลวงพ่อถามอย่างสนุก

?ก็ไม่จริงอีกแหละครับ เพราะหมาบ้านผมมันไปคุ้ยกองขยะเล่นจริงแต่มันไม่ขี้ เพราะมันกลัวขยะแขยงก้น เห็นกลับมาขี้ที่สนามหญ้าหน้าบ้านบ้าง บนถนนในบ้านบ้าง ผมต้องโกยทิ้งทุกวันเลยครับ? ข้าพเจ้าตอบตามความเป็นจริง

?เห็นไหม แม้แต่หลักศิลาจารึกก็ดี สุภาษิตโบราณต่างๆ ก็ดีอาจถูกต้องเป็นจริงได้เฉพาะสมัยหนึ่ง ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นเองหาได้เป็นความจริงตลอดกาลไม่แม้แต่วิชาคำนวณที่คุณเรียน เคยจำกันได้มิใช่หรือว่า 1+1

.


อ้างอิงจาก
http://www.palungjit.com/smati/books/index.php?cat=493
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2011 เวลา 07:36 น. โดย popja »
สู้สู้

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
Re: ปัญญาคืออะไรกันแน่?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2011 เวลา 09:58 น. »
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3

โยนิโสมนสิการ (ปัญจาบ: yonisomanasik?ra; คำอ่าน: โยนิโสมะนะสิกาน) หมายถึง การทำในใจให้แยบคาย กล่าวคือ การพิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วน ทางพุทธศาสนาถือว่ามีคุณค่าเท่ากับความไม่ประมาทหรือ "อัปมาท" ซึ่งเป็นแหล่งรวมแห่งธรรมฝ่ายดีหรือ "กุศลธรรม" ทั้งปวง ดังปรากฏในพระไตรปิฎก เล่ม ๑๙ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค ข้อ ๔๖๔ หน้า ๑๒๙ นอกจากนั้น ยังจัดเป็นธรรมะข้อหนึ่งในกลุ่มธรรมที่เป็นไปเพื่อความเจริญด้วยปัญญา และเป็นธรรมะมีอุปการะมากแก่มนุษย์ดังพรรณาในพระไตรปิฎก เล่ม ๑๒ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ข้อ ๒๖๘-๙ หน้า ๓๓๒[1]

การใช้ความคิดถูกวิธี ความรู้จักคิด คิดเป็น คือ ทำในใจโดยแยบคาย การใช้ความคิดถูกวิธี คือ การกระทำในใจโดยแยบคาย มองสิ่งทั้งหลายด้วยความคิดพิจารณาสืบค้นถึงต้นเค้า สาวหาเหตุผลจนตลอดสายแยกแยะออกพิเคราะห์ดูด้วยปัญญาที่คิดเป็นระเบียบและโดย อุบายวิธีให้เห็นสิ่งนั้นๆ หรือปัญหานั้นๆ ตามสภาวะและตามความสัมพันธ์แห่งเหตุปัจจัย [2]เช่น

?คิดจากเหตุไปหาผล
?คิดจากผลไปหาเหตุ
?คิดแบบเห็น ความสัมพันธ์ต่อเนื่อง เป็นลูกโซ่
?คิดเน้นเฉพาะจุดที่ทำให้เกิด
?คิดเห็น องค์ประกอบที่มา ส่งเสรีมให้เจริญ
?คิดเห็น องค์ประกอบที่มา ทำให้เสื่อม
?คิดเห็นสิ่งที่มา ตัดขาดให้ดับ
?คิดแบบ แยกแยะองค์ประกอบ
?คิดแบบ มองเป็นองค์รวม
?คิดแบบ อะไรเป็นไปได้ หรึอเป็นไปไม่ได้
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

 


Powered by EzPortal