เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า

เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า 

 

ผู้เขียน หัวข้อ: การรักษาทางความเชื่อ..อีกหนึ่งที่พึ่งทางจิตใจ  (อ่าน 12406 ครั้ง)

ออฟไลน์ แกมแม่เนย

  • Meeting
  • จอมพลัง
  • *
  • กระทู้: 371
การรักษาทางความเชื่อ..อีกหนึ่งที่พึ่งทางจิตใจ
« เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 07 มีนาคม 2010 เวลา 17:10 น. »
ขอเปิดกระทู้นี้ ให้เป็นอีกหนึ่งแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ลองพิจารณาดูนะคะ เมื่อลูกๆ คุณเจ็บป่วย หัวอกพ่อแม่ย่อมพร้อมจะทำทุกวิถีทางที่จะให้ลูกหายหรืออาการดีขึ้น การรักษาทางความเชื่อ หรือ ทางไสยศาสตร์ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะเรียกกัน สำหรับแกมแล้วอย่างน้อย มันก็ทำให้จิตใจเราดีขึ้น มีสมาธิ มีสติมากขึ้นค่ะ

เรารักษาโรคนี้กันทางวิทยาศาสตร์แล้ว ถ้าสามารถรักษาทางอื่นเพิ่มได้อีกก็คงดีกว่านะคะ แต่ต้องพิจารณากันให้ดีด้วย อย่างมงาย หรือหลงเชื่อให้มากนัก คนหากินแบบนี้มีเยอะค่ะ

ไว้มีเวลาจะมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังอีกทีนะคะ
<ปัจจุบันรักษาโดยการผ่าตัด ทุเลาแต่ยังไม่หายขาด>

โอม ศรี คเณศายะ นะมะ ฮา
ขอบารมีองค์พ่อพิฆเนศ โปรดคุ้มครองเด็กๆ ทุกคนในเว็บลมชักคลับ ให้มีอาการดีขึ้นตามลำดับด้วยเถิด

ออฟไลน์ แกมแม่เนย

  • Meeting
  • จอมพลัง
  • *
  • กระทู้: 371
Re: การรักษาทางความเชื่อ..อีกหนึ่งที่พึ่งทางจิตใจ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 08 มีนาคม 2010 เวลา 16:57 น. »
วันที่ 1 มีนาคม หลังจากอยู่มาเป็นอาทิตย์แล้วไม่มีวี่แววว่าจะเจอทางออกที่ดี แกมกับคุณตาเลยตกลงใจจะไปไหว้พระ ยกน้องเนยให้เป็นลูกหลวงพ่อโสธรที่วัดโสธร จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากมีพระรูปหนึ่งบอกให้ไปทำพิธียกให้เป็นลูกหลวงพ่อ แกมได้ทำพิธีจุดธูปบอกกล่าวกลางแจ้งไปแล้วที่บ้าน ก่อนน้องเนยจะมีอาการมากแบบนี้ และตั้งใจว่าจะพาไปกราบท่านที่วัด แต่ก็ต้องมานอนโรงพยาบาลซะก่อน พอไปถึงก็ไปทำสังฆทานและเข้าไปขอท่าน บอกกล่าวยกให้เป็นลูก ขอให้ท่านคุ้มครอง รักษาให้หายขาดจากโรคนี้ ขอให้หมอค้นพบทางรักษาที่ถูกต้อง ตรงจุด ระหว่างขอให้ท่านช่วย ... น้ำตาไหลเลยค่ะ ไหว้ไป น้ำตาไหลไป 

เย็นวันนั้นกลับมา สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อาการของน้อง ชักน้อยลง เหลือแค่ 2 ครั้งได้ จากที่วันนึงเกือบ 10 ครั้ง ที่เหลือคือแค่อาการกระตุกและการสั่น .. แปลกใจจริงๆ ค่ะ นึกในใจว่าหลวงพ่อรับรู้แล้วแน่นอน

หลังจากนั้นวันต่อๆ มา อาการน้องเนยดีขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ ค่ะ อาการชักไม่มีแล้ว เหลือแค่สั่นๆ เท่านั้น คุณหมอก็แปลกใจ จากวันที่ก่อนจะไปไหว้หลวงพ่อ (28 กุมภาพันธ์ 53) ชักแบบไม่หยุดหย่อนเลย มาอยู่เรื่อยๆ พออีกวันกลับหายไปเกือบหมด ช่วงนี้ถอด Depakin ออกไป ใส่ Kepa เข้ามาแทนด้วยค่ะ อาจจะเป็นไปได้ว่าหมอให้ยารักษาถูกทางขึ้นก็เป็นได้ .. แต่ก็ไม่ได้บอกเรื่องอื่นคุณหมอนะคะ อิอิ

อ้อ..เรื่องเหลือเชื่ออีกเรื่องคือ เคยให้คนที่ดูกรรมทางโทรศัพท์ท่านนึงดูให้ เค้าบอกว่าน้องเนยมีกรรมเพราะชาติที่แล้วไปทรมานสัตว์ประเภทสุนัขไว้ โดยเอาเชือกไปแขวนแล้วรัดให้ตายทรมาน อาการชักที่เป็นมักจะเกิดขึ้นหรือรุนแรงกว่าปกติช่วงใกล้ๆ วันพระ ... แกมมานั่งคิด เออ..จริงเหมือนกัน หรือ บังเอิญมากกว่าน๊อ

ทุกวันนี้สวดมนต์เกือบทุกวัน ทำบุญ ทำสังฆทานเท่าที่จะเจียดเวลาไปทำได้ค่ะ หลังจากออกจากโรงพยาบาลคราวนี้ คงต้องทำบุญยกใหญ่เลยจริงๆ ค่ะ บางคนทักว่า ต้องทำสังฆทานเรื่อยๆ บ่อยๆ เพราะเจ้ากรรมนายเวรเค้าไม่ยอมเลิกง่ายๆ ต้องทำไปจนกว่าเค้าจะได้รับบุญมากพอ แล้วยอมปล่อยน้องเนยไปค่ะ

ตอนนี้ว่าอยากจะเป็นผู้อุปถัมภ์ช่วยผู้ที่อยากบวชแต่ไม่มีทุนทรัพย์ซัก 1 คน ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะหาข้อมูลได้ที่ไหน อีกใจก็อยากไปบวชชีพราหมณ์ให้เจ้ากรรมนายเวรน้องเนย แต่ไม่มีเวลาไป ต้องผลัดเวรกันเฝ้าไปไหนไม่ได้เลยค่ะ

ใครพอมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่อยากบวชแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ บอกกันบ้างนะคะ
<ปัจจุบันรักษาโดยการผ่าตัด ทุเลาแต่ยังไม่หายขาด>

โอม ศรี คเณศายะ นะมะ ฮา
ขอบารมีองค์พ่อพิฆเนศ โปรดคุ้มครองเด็กๆ ทุกคนในเว็บลมชักคลับ ให้มีอาการดีขึ้นตามลำดับด้วยเถิด

ออฟไลน์ kedy

  • Meeting2
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 174
Re: การรักษาทางความเชื่อ..อีกหนึ่งที่พึ่งทางจิตใจ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันอังคารที่ 09 มีนาคม 2010 เวลา 10:45 น. »
ดีใจด้วยนะค่ะแม่แกม ที่น้องเนยอาการดีขึนแล้ว อ่านเรื่องยกลูกให้หลวงพ่อแล้ว เหมือนของเราเลย เพราะตอนเอินเอินชักก็ชักอยู่หลายครั้ง ทั้งที่ให้ยาอยู่ จนต้องเข้า icu เด็กเลยค่ะ พอปู่กะย่ามาเยี่ยมบอกให้แฟนยกลูกให้หลวงพ่อโสธร และแฟนกะปู่กับย่าก็ไปที่วัดหลวงพ่อตอนนั้นเลย ปรากฏเอินเอินไม่มีอาการชักแล้ว และอาการดีขึ้นเรื่อยๆ หมอยังงงเลย และบอกว่าหมอยังไม่ได้ให้ยาแรงเลยน่ะ ตอนแรกตั้งใจจะให้เพราะน้องยังชักอยู่ แต่พอน้องไม่มีอาการชักแล้ว ก็เลยไม่ให้ยา บางสิ่งบางอย่างมองไม่เห็น แต่มีจริง เราเชื่ออย่างนั้นค่ะ เรืองทำบุญ ช่วงที่ลูกอยู่ icu ก็ไปตระเวนทำบุญ เพราะพ่อแม่คือพระของลูก ทำบุญมากก็จะได้กับลูกเราค่ะ ยังไงขอให้น้องเนยหายเป็นปลิดทิ้งตลอดไปนะค่ะ  :)

ออฟไลน์ popja

  • Administrator
  • จอมพลัง
  • *****
  • กระทู้: 871
  • น้องวินลูกพ่อป๊อปแม่โบว์
    • แบ่งปันความรู้โรคลมชัก
Re: การรักษาทางความเชื่อ..อีกหนึ่งที่พึ่งทางจิตใจ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: วันพุธที่ 10 มีนาคม 2010 เวลา 20:44 น. »
ขอเล่าบ้างครับ
ตอนนี้น้องเทรนด์ยกให้เป็นลูกสมเด็จโต พรหมรังสี แล้วครับ

แล้วช่วงวันพระเมื่อก่อนก็มักมีอาการเหมือนกันครับ แต่ตอนนี้ไม่มีอาการแล้วครับวันพระ
ก็พยายามใส่บาตรทำบุญทุกวัน วันพระก็สวดมนต์หน้าองค์พระ เปลี่ยนดอกไม้ เปลี่ยนน้ำ
ไหว้เจ้าที่ และก็กรวดน้ำด้วย

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ก็พึ่งไปปล่อยปลาดุกมา 9 ตัว ที่วัดเทวราชกุญชร
http://www.kammatan.com/board/index.php?topic=643.0
ดูตาม link นี้ก็ได้ครับ ภาพวัด แล้วก็ภาพล่างสุดก็เป็นสถานที่ปล่อยปลาครับ
ปลาเยอะมากตรงท่าตรงนั้น  ตอนปล่อยก็โทรไปสั่งปลาดุกในตลาดมาครับ
มีเด็กวิ่งเอามาส่งให้ ที่นั่นมีคำกล่าวก่อนปล่อยเป็นกระดาษให้อ่านกัน
ก็อ่านกันทั้งพ่อแม่ลูก

ส่วนเรื่องผู้ที่อยากบวชแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์
ผมขอเสนอวัดชลประทานรังสฤษดิ์ครับ
เพราะพระครูสมชาย (พระครูธรรมธร สีลธโร) เป็นพระที่คอยสอนพระบวชใหม่
และเป็นพระที่คอยสกีนผู้ที่มาบวชที่วัดนี้ครับ
ตอนสกีนก็มีถามหลายอย่าง ซึ่งบางท่านก็ไม่ได้บวช
อาจจะเพราะเหตุผลบางอย่าง เช่น บางคนเท่าที่เคยฟังมา คิดว่าน่าจะทะเลาะกับพ่อมาก่อน
ซึ่งยังไม่ได้ขอพ่อมาบวช ท่านก็ไม่ยอมบวชให้
บางท่านท่าทางดูแล้วไม่ค่อยน่าไว้ใจ ท่านก็ต้องคุยหลังไมค์ เป็นการเฉพาะ
แล้วก็ต้องท่องบทสวดตามหนังสือให้ได้ กี่หน้าก็แล้วแต่พระท่านจะกำหนดสอบมา

ซึ่งผมคิดว่า เท่านี้ก็จะได้คนดีเข้าไปอยู่ในร่มกาสาวพัตร์แล้วครับ
ที่นี่ผมก็ขอการันตีเลยว่า ดีครับ
ส่วนวัดอื่นผมไม่เคยได้สัมผัสก็เลยไม่ขอกล่าวถึงครับ

ช่วงนี้น้องเทรนด์ดีขึ้นมากครับ
ผมพาไปกระตุ้นพัฒนาการด้วย ตอนนี้ขากับแขนเริ่มแข็งแรงขึ้นมาบ้างแล้ว
เดิมเวลาจับยืนเล่น จะไม่เคยยกขาทีละข้างเลย วันนี้น้องยกขาข้างเดียวโชว์ให้ดู ดีใจสุดๆ
มีความรูํ้สึกว่า เขาอาจจะเริ่มคลานและเดินในอีกไม่นาน

อ้อ ขอแทรกนิดนึงครับ
คือว่า ครั้งล่าสุดที่เข้า Admit
ผมได้ห้องเตียงคู่ แล้วก็สังเกตอย่างหนึ่งว่า น้องๆที่มาเตียงข้างๆ
คุณพ่อคุณแม่เขาจะมีพวงมาลัยมาไหว้ที่หัวเตียงครับ
ผมก็พึ่งเห้น หลังจากนั้น ก็เลยนำพวงมาลัยมาไหว้เหมือนกันครับ


ยังไงก็ขอให้สวดมนต์ไหว้พระทุกวันน๊ะครับ
ผมมีแนะนำนิดนึงครับ
พอดีผมไปเจอ mp3 คำเทศของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ผมประทับใจมาก พึ่งฟังได้อาทิตย์กว่าๆรู้สึกดีมากเลย
ครั้งแรกที่ฟังเพราะ อ่านหัวข้อแล้วอยากรู้
เรื่องที่ท่านเทศน์ก็คือ เมื่อข้าพเจ้าตาย
ซึ่งเป็นการเล่าการตายทั้ง 7 ครั้งของท่าน

หลังจากนั้นก็เริ่มฟังเรื่องอื่นๆ
ตอนนี้กำลังฟังเรื่อง จริต 6
ซึ่งมารู้ภายหลังว่า ท่านอัดเทปถวายในหลวง

ขอเล่าย่อๆนิดนึงครับ เผื่อใครอยากจะฟัง
คือเมื่อหลวงพ่อท่านเป็นเด็ก คุณพ่อคุณแม่ท่านจะสอนอยู่เสมอให้ท่านภาวนาว่า พุธโท อยู่เป็นประจำ
เมื่อท่านตายครั้งแรกอายุประมาณ 14 ปี ที่บ้านท่านคุณแม่จะเป็นคนมีระเบียบ
เวลากลับมาบ้าน ก็ให้ไหว้พระก่อนไหว้พ่อแม่ เวลาจะไปก็เหมือนกัน ต้องไหว้พระก่อน
จะไปไหนมาไหนก็ต้องบอกกล่าวขออนุญาตก่อน
วันนั้นท่านปวดท้องมาก คุณแม่ท่านนำรูปพระพุทธรูปมาให้มอง
ท่านก็บอกว่ามันสวยมาก ท่านก็มองไปจนท่านไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด
หลังจากนั้นสายตาที่เคยเห็นปกติ ก็เริ่มมองไม่เห็นแล้ว เริ่มสั้นเข้ามาๆๆๆ เรื่อยๆจนไม่เห็นอะไรเลย
ไม่นานรูปพระนั้นก็ค่อยๆกลายเป็นพระสง่าสวยงามมากเดินมาที่ท่าน
ผมจำไม่ได้ว่าบอกอะไรกับท่าน
ท่านบอกว่าตอนนั้น ท่านรู้สึกเบาสบายมาก หัวท่านสวมชฏา ด้วย ชุดก็เหมือนมีเครื่องประดับ
ตอนนั้นท่านทราบแล้วว่าท่านตายไปแล้ว ด้วยความเคยชินท่านก็จะไปขอคุณแม่ท่านลงไปข้างล่าง
ขอใครก็ไม่มีใครรู้ใครเห็น ท่านก็เลยเดินลงไปตรงชานหน้าบ้าน เห็นคนเดินมาเป็นกลุ่มใหญ่
ประมาณ 200 คนได้ แล้วก็เห็นมีคนคุมมา 4 คน คือ หน้า หลัง ด้านข้างซ้ายขวา
ท่านก็เดินไปดู เห็นคนคุมอยู่ มองท่านตั้งแต่หัวจรดเท้า
ท่านก็สงสัยว่ามองทำไม มองอยู่สักครู่หนึ่ง ท่านก็เลยถามว่ามองท่านทำไม
แล้วท่านก็ถามต่อไปว่า น้าจะไปไหนกัน น้าก็บอกว่าจะพาคนเหล่านี้ไปนรก
เมื่อท่านมองเข้าไปก็เห็นคนที่ท่านรู้จักอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย จึงถามว่าคนนั้นเป็นคนดี ทำไมจึงพาไปนรก
น้าผู้คุมจึงบอกว่า ภายนอกดี แต่ภายในไม่ได้เป็นเช่นนั้น จะดูแต่ภายนอกไม่ได้
ด้วยความที่ท่านเป็นคนชอบค้นหาชอบพิสูจน์ จึงขอตามไปดูด้วย
น้าผู้คุมบอกว่าไปไม่ได้ เพราะไม่มีชื่อในบัญชี
จึงพากลับไปส่ง แต่ท่านก็ยังตามไปดูให้รู้ว่าไปไหนกัน จนผู้คุมแต่ละคนก็ต้องวิ่งกลับมาสิ่งที่บ้าน
ท่านจึงแอบตามไปแบบไม่ให้รู้ ก็ขึ้นเขาลงเขาหลายลูก โดยที่ท่านไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
ท่านบอกว่า ท่านขอบแบบนี้ เบาสบายไม่เหนื่อย จนไปถึงปากทางนรก
ท่านจึงเดินไปหาน้า ให้น้าพาไปดู น้าบอกว่า ท่านเข้าไปไม่ได้ เพราะว่า หนูเป็นพรม มีชฏา สวมชุดอย่างนี้
ถ้าเข้าไป ไฟนรกจะดับ น้าผู้คุมจึงบอกว่า กลับบ้านเถอะ ท่านก็บอกว่า กลับไม่ได้ จำทางก็ไม่ถูก
แล้วจะมาหาน้าอีกได้ไหม น้าผู้คุมก็บอกว่า ได้ ให้ภาวนาว่า พุธโท แล้วก็จะมาเจอกันได้ตลอดเวลา
จึงให้ผู้คุมคนท้ายพากลับไปส่งที่บ้าน
เมื่อถึงบ้านแล้ว ท่านก็รู้สึกตัวขึ้นมา พอดีลุงท่านเป็นพระรู้ว่าท่านยังไม่ตาย ก็ยังไม่ให้ทำอะไรกับท่านทั้งนั้น
ท่านจึงยังอยู่ได้
ประมาณนี้ครับ แต่ถ้าฟังเองแล้วผมว่าสนุกครับ ได้อะไรเยอะครับ
ตอนนี้ผมฟังเรื่องจริตอยู่ ก็รู้สึกดีครับ


ประวัติหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
(พระมหาวีระ ถาวโร หรือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี

เกิดเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๐ เดิมชื่อสังเวียน เป็นบุตรคนที่ ๓ ของนายควง นางสมบุญ สังข์สุวรรณ เกิดที่ตำบลสาลี อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี มีพี่น้อง ๕ คน เมื่ออายุ ๖ ขวบ เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาล วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนจบชั้นประถมปีที่ ๔ เมื่ออายุ ๑๕ ปี เข้ามาอยู่กับท่านยายที่บ้านหน้าวัดเรไร อำเภอตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรี ในสมัยนั้น และได้ศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ อายุ ๑๙ ปี เข้าเป็นเภสัชกรทหารเรือ สังกัดกรมการแพทย์ทหารเรือ พออายุครบบวช
อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ วัดบางนมโค โดยมีพระครูรัตนาภิรมย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวิหารกิจจานุการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เล็ก เกสโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อายุ ๒๑ ปี สอบได้นักธรรมตรี อายุ ๒๒ ปี สอบได้นักธรรมโท อายุ ๒๓ ปี สอบได้ นักธรรมเอก
ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๘๐-๒๔๘๑ ได้ศึกษาพระกรรมฐาน จากครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิเช่นหลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค, หลวงพ่อจง พุทธสโร วัดหน้าต่างนอก, พระอาจารย์เล็ก เกสโร วัดบางนมโค, พระครูรัตนาภิรมย์ วัดบ้านแพน, พระครูอุดมสมาจารย์ วัดน้ำเต้า, หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ, หลวงพ่อเนียม วัดน้อย, หลวงพ่อโหน่ง วัดอัมพวัน (วัดคลองมะดัน) และหลวงพ่อเรื่อง วัดใหม่พิณสุวรรณ
พ.ศ. ๒๔๘๑ เข้ามาจำพรรษาที่วัดช่างเหล็ก อำเภอตลิ่งชัน ธนบุรี เพื่อเรียนบาลี ต่อมา สอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค ได้ย้ายมาอยู่ที่วัดอนงคาราม หลังจากนั้นได้เป็นรองเจ้าคณะ ๔ วัดประยูรวงศาวาส เป็นเจ้าอาวาสวัดบางนมโค และย้ายไปอยู่อีกหลายวัด
พ.ศ. ๒๕๑๑ จึงมาอยู่วัดท่าซุง บูรณะซ่อมสร้างและขยายวัดท่าซุง จากเดิมมีพื้นที่ ๖ ไร่เศษ จนกระทั่งเป็นวัดที่มีบริเวณพื้นที่ประมาณ ๒๘๙ ไร่
พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ "พระสุธรรมยานเถร"
พ.ศ. ๒๕๓๒ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ "พระราชพรหมยาน ไพศาลภาวนานุสิฐ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี"
มรณภาพตุลาคม ๒๕๓๕ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ได้อาพาธด้วยโรคปอดบวมอย่างแรง และติดเชื้อในกระแสโลหิต เข้ารักษาที่โรงพยาบาลศิริราช และมรณภาพที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันศุกร์ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๓๕ เวลา ๑๖.๑๐ น.
ตลอดระยะเวลาที่อุปสมบทอยู่ หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้ทำหน้าที่ของพระสงฆ์ ในพระพุทธศาสนาอย่างสมบูรณ์ กล่าวคือ
ทางด้านชาติ ได้สร้างโรงพยาบาล , สร้างโรงเรียน , จัดตั้งธนาคารข้าว , ออกเยี่ยมเยียน ทหารหาญของชาติและตำรวจตระเวณชายแดนตามหน่วยต่างๆ เพื่อปลุกปลอบขวัญและกำลังใจ และ แจกอาหาร , ยา , อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และวัตถุมงคลทั่วประเทศ
ทางด้านพระศาสนา ได้สั่งสอนพุทธบริษัทศิษยานุศิษย์ให้มุ่งพระนิพพานเป็นหลัก โดยให้ประพฤติปฏิบัติกาย , วาจา , ใจ , ในทาน , ในศีลและในกรรมฐาน ๑๐ ทัศ และมหาสติปัฏฐานสูตร ได้พิมพ์หนังสือคำสอนกว่า ๑๕ เรื่อง และบันทึกเทปคำสอนกว่า ๑,๐๐๐ เรื่อง นอกจากนี้ยังได้แสดงธรรม เทศนาทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์เป็นครั้งคราว นอกจากนี้ ยังเดินทางไปสงเคราะห์คณะศิษย์ในต่างจังหวัดและต่างประเทศทุกๆ ปี
ทางด้านวัตถุ ท่านได้ช่วยสร้างพระพุทธรูปและถาวรวัตถุไว้ในพระพุทธศาสนามากกว่า ๓๐ วัด รวมทั้งการบูรณะฟื้นฟูวัดท่าซุงด้วยเงินกว่า ๖๐๐ ล้านบาท ได้สร้างพระไตรปิฎก , หนังสือมูลกัจจายน์ และถวายผ้าไตรแก่วัดต่างๆ ปีละไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ ไตร
ทางด้านพระมหากษัตริย์ท่านได้สนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการจัดตั้งศูนย์สงเคราะห์ผู้ยากจนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชประสงค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ศูนย์ฯ นี้ได้ดำเนินการสงเคราะห์ราษฎรในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ งานของศูนย์ฯ รวมทั้งการแจกเสื้อผ้า , อาหาร และยารักษาโรคแก่ราษฎรผู้ยากจน , การช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ , การส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกรักษาพยาบาลราษฎรผู้เจ็บป่วย , การให้ทุน นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน , การบริจาคทุนทรัพย์ให้แก่มูลนิธิและโรงพยาบาลต่างๆ ฯลฯ
นับได้ว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเป็นปูชนียบุคคลผู้อยู่ด้วยความกรุณา เป็นปกติ พร่ำสอนธรรมะและสิ่งทีเป็นประโยชน์และสงเคราะห์เกื้อกูลมหาชนด้วยเมตตามหาศาลสมกับ เป็น ศากยบุตรพุทธชิโนรส แท้องค์หนึ่ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2010 เวลา 19:54 น. โดย popja »
สู้สู้

ออฟไลน์ แกมแม่เนย

  • Meeting
  • จอมพลัง
  • *
  • กระทู้: 371
Re: การรักษาทางความเชื่อ..อีกหนึ่งที่พึ่งทางจิตใจ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2010 เวลา 19:16 น. »
โอม ศรี คเณศายะ นะมะฮา

ขออัญเชิญองค์พระพิฆเนศ มาประทับอยู่คู่กับเว็บนี้ เพื่อให้สมาชิกในเว็บทั้ง คุณพ่อ คุณแม่ และน้องๆ ที่ป่วยอยู่ มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง

ขอองค์พ่อช่วยปกปักษ์รักษา คุ้มครองเด็กๆ ที่เป็นโรคลมชักในเว็บนี้ ให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และมีสมองที่สมบูรณ์ หายขาดจากโรคลมชักที่เป็นอยู่ มีชีวิตที่เป็นปกติ สามารถสร้างบุญสร้างกุศลได้ต่อไปอีกนานๆ และเป็นที่พึ่งทางจิตใจของสมาชิกในเว็บนี้ด้วยเถิด

สาธุ...

<ปัจจุบันรักษาโดยการผ่าตัด ทุเลาแต่ยังไม่หายขาด>

โอม ศรี คเณศายะ นะมะ ฮา
ขอบารมีองค์พ่อพิฆเนศ โปรดคุ้มครองเด็กๆ ทุกคนในเว็บลมชักคลับ ให้มีอาการดีขึ้นตามลำดับด้วยเถิด

ออฟไลน์ yui

  • Meeting2
  • Jr. Member
  • *
  • กระทู้: 39
    • http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=amornrada
Re: การรักษาทางความเชื่อ..อีกหนึ่งที่พึ่งทางจิตใจ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม 2010 เวลา 09:20 น. »
 :D :D
แม่น้องยีนส์ค่ะ

 พูดถึงเรื่องความเชื่อทางใจ ก็คงอยู่กับคนไทยไปตลอด วันแรกที่คลอดน้องยีนส์ ตอนประมาณตี 2
น้องยีนส์มีปัญหาตั้งแต่แรกคลอด ไม่สามารถหายใจเองได้ ณ ตอนนั้น คนเป็นแม่ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงได้ยกมือไว้ แล้วบอกหลวงพ่อโสธรว่า ขอชีวิตน้องยีนส์ไว้ (จริงๆแล้วยุ้ยเป็นคนจังหวัด ฉะเชิงเทรา ไปไหว้หลวงพ่อโสธรเป็นเรื่องปกติที่ต้องทำทุกปี หรือทุกครั้งที่มีโอกาส) พอมาพักฟื้นประมาณ 1 ชั่วโมง พยาบาลแจ้งว่าน้องยีนส์หายใจเองได้บ้างแล้ว ส่งไปโรงพยาบาลไหนก็ไม่มีใครรับ บอกว่าเตียงเต็ม เราก็พอใจชื้นขึ้นบ้าง แต่พอเช้า ประมาณ 8 โมง น้องยีนส์ เริ่มมีอาการหนักทางโรงพยาบาล (ไม่เอ่ยชื่อโรงพยาบาลนะคะ) ต้องทำการส่งตัวไปที่อื่นด่วน โทรไปที่ไหนก็ยังไม่มีที่ไหนสามารถรับได้อีก ทางพยาบาลจึงบอกให้ญาติไปไหว้หลวงปู่ปาน เพื่อให้หาโรงพยาบาลได้ พอไปไว้หลวงปู่ปานสักพัก พยาบาลแจ้งว่า โรงพยาบาลนพรัตน์ ฯ รับน้องยีนส์ ให้ทำเรื่องส่งตัวได้เลย
  ขอข้ามไปเป็นวันรุ่งขึ้น พอแม่ยุ้ยออกจากโรงพยาบาล ก็ไปเยี่ยมน้องยีนส์ ในสภาพที่เห็นไม่มีใครรับได้ โอกาสรอด น้อยมาก ทั้งสมองบวม เลือดออกในสมอง ชักเกร็ง ต้องให้ยา กันชัก 2 เท่า ให้เลือด น้ำเกลือ ออกซิเจน สารพัด บนตัว จนเราต้องบอกลูกว่า "ถ้าน้องยีนส์สู้ไหว ก็สู้  ถ้าสู้ไม่ไหว ก็ไม่เป็นไร " พอกลับจากโรงพยาบาล แฟนก็เลยชวนกันไปไหว้หลวงพ่อโสธร  ตอนไปถึงแม่ยุ้ยไม่ได้เข้าไปเนื่องจากเดินไม่ไหว เลยเขียนใส่เศษกระดาษแล้วให้แฟนเอาไปวางไว้ที่มือหลวงพ่อ 

น้องยีนส์ อยู่ ไอซียู เด็ก แค่อาทิตย์กว่า ก็ค่อยๆเอาเครื่องมือออกทีละอย่าง จนมาอยู่ห้องธรรมดา

และอยู่โรงพยาบาลทั้งหมด 25 วัน พอกลับมาบ้านก็เริ่มเดินสายทำบุญบ้างที่มีโอกาส และปีนี้ แม่ยุ้ย ก็กินเจทั้งหมด 10 วัน เพื่อยกผลบุญให้กับเจ้ากรรมนาย เวร   

บางครั้งถ้าการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด แล้วมันช่วยลดความทุกข์ในใจได้เราก็ทำไปเถอะ      ค่ะ  เราจะได้มีแรงกำลัง ดูแลลูกต่อไป  ตอนนี้ที่บ้านส่วนใหญ่จะไปทำบุญที่วัดหงษ์ทองกัน เพราะใกล้บ้านค่ะ     


เป็นกำลังใจให้พ่อ แม่ทุกคนค่ะ


ออฟไลน์ popja

  • Administrator
  • จอมพลัง
  • *****
  • กระทู้: 871
  • น้องวินลูกพ่อป๊อปแม่โบว์
    • แบ่งปันความรู้โรคลมชัก
Re: การรักษาทางความเชื่อ..อีกหนึ่งที่พึ่งทางจิตใจ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม 2010 เวลา 23:38 น. »
คุณยุ้ยครับ ผมได้ยินบารมีของหลวงปู่ปานวัดบางนมโค (ไม่รู้องค์เดียวกันไหม)
ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ สร้างบารมีเพื่อที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้า
ท่านสอนคำสอนต่างๆไว้ดีมากๆ แต่คำสอนจะปรากฎอยู่ในการเทศน์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ(ท่านเป็นลูกศิษย์)
ลองหาดูตามเวปก็ได้ครับ การอธิษฐานนึกถึงคุณบารมีของท่านจะช่วยได้จริงๆครับ

http://www.luangporruesi.com/
ถ้าสนใจลองดูที่ link ประวัติหลวงพ่อปานน๊ะครับ

http://www.palungjit.com/smati/books/index.php?cat=1

ปล.รูปนำมาจาก praruttanatri.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม 2010 เวลา 23:50 น. โดย popja »
สู้สู้

ออฟไลน์ yui

  • Meeting2
  • Jr. Member
  • *
  • กระทู้: 39
    • http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=amornrada
Re: การรักษาทางความเชื่อ..อีกหนึ่งที่พึ่งทางจิตใจ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 01 พฤศจิกายน 2010 เวลา 08:44 น. »
 ;) :D
สวัสดี ตอนสายๆ กับอากาศเย็นๆค่ะ

คุณป๊อบ หลวงปู่ปานองค์นี้ อยู่บางบ่อ ยุ้ยไม่ทราบประวัติท่านค่ะ แต่เรื่องชื่อเสียงก็พอได้ยินบ้าง คนแถวนี้นับถือ กัน เยอะค่ะ ทั้งวัดบางบ่อ และวัดท่านเองน่ะค่ะ

ออฟไลน์ pitty

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 1
Re: การรักษาทางความเชื่อ..อีกหนึ่งที่พึ่งทางจิตใจ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 04 พฤศจิกายน 2013 เวลา 15:59 น. »
ถึง จขกท.
เห็นว่าอยากเป็นเจ้าภาพบวชพระ ขอแนะนำการเป็นเจ้าภาพอุปสมบทหมุ่กับวัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม คะ
ที่บ้านร่วมเป็นเจ้าภาพมาประมาณ 3 ปี ติดต่อกันแล้วคะ จะเป็นงานประจำปีของสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นครปฐม
ถ้าจำไม่ผิดก่อนเข้าพรรษาของทุกปี  เพื่อให้นาคที่บวชได้ศึกษาพระธรรมเป็นเวลา 1 พรรษา
ส่วนค่าใช้จ่ายรูปละ 2,000 บาท
จุดประสงค์ของการจัดงานอุปสมบทหมู่มี 2 ประการหลัก ๆ คือ ให้คนที่ไม่มีโอกาสได้บวชเป็นพระ
ได้เป็นเจ้าภาพบวชพระ อีกประการ คือ ให้คนที่ไม่มีลูกชาย ได้เป็นเจ้าภาพบวชพระ
ถ้าสนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณอ้อย พุทธสมาคมนครปฐม 085-406-8996
แจ้งว่าคุณพิทยาภรณ์แนะนำมาคุณอ้อยจะจำได้ทันทีคะ (เนื่องจากแนะนำมาหลายคนและตัวเองก็เป็นเจ้าภาพด้วย)

 


Powered by EzPortal