หนทางของการใช้ยานี่ ยาวนานซักแค่ไหนคะ
คือลูกดิฉันเป็นเด็กที่ค่อนข้างหัวดีมากนะคะ พูดหรือคิดอะไรที่มันมากกว่าวัยเค้าเหลือเกิน คิดเลขได้เองโดยไม่มีใครสอน
แต่ในทางกลับกัน เข้าสังคมไม่ได้ ยากมาก มืออยู่ไม่สุขค่อยแหย่แกล้งคนอื่นตลอดเวลา จนเพื่อนเอือม อารมณ์เศร้ารุนแรง ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้
หดหู่และติดแม่ ในลักษณะที่ต้องการการสัมผัสจากแม่ จับผิวแม่ มากๆ กัดเล็บจนไม่เคยได้ตัด ทนเสียงดังๆไม่ได้ แรกๆก็คิดว่าเค้าก็เป็นแบบนี้แหละแต่หลังๆรู้สึกว่าเค้ามีปัญหาในบุคลิกภาพของเค้า
กำลังจะพาไปพบหมอทางจิตเวชของเด็กอยู่พอดี ก็มาเกิดลมชักครึ่งชั่วโมงครั้งล่าสุด ก็เลยมุ่งไปรักษาในทางนี้
อยากทราบว่าการที่คลื่นสมองผิดปกติ มีผลอะไรกับจิตและพฤติกรรมของเด็กไม๊คะ (คุณหมอดิฉันบอกว่าไม่เกี่ยว)
ดิฉันเห็นว่าสมองส่วน temporal lobe มีหน้าที่ควบคุมอารมณ์ การเข้าสังคม การรับรู้กลิ่นเสียง และความจำ
มันฟังดูแล้วทำไมมันตรงกับพฤติกรรมที่เป็นปัญหาของเขาจังเลย เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้คะ
เขียนมากยาวและถามหลายอย่างเลย แบ่งบันกันนะคะ
แม่เฟย์
ผมขออนุญาติแสดงความคิดเห็นนะครับ
ผมก็มีลูกสาวชักตั้งแต่ขวบเศษ จนปัจจุบันอายุ 26 ปีแล้ว
การทานยากันชักผมว่าต้องใช้เวลานานพอสมควร ไม่เหมือนยาฆ่าเชื้อที่ทานสัปดาห์สองสัปดาห์ คือว่าทานจนกว่าจะหายชักและคลื่นสมองเป็นปกติครับ
และเรื่องอาการทางจิตครับ ผมคิดว่าเกี่ยวกับคลื่นสมองนะครับ ลูกสาวผมตอนแรกก็ทานยากันชัก และคุมอาการชักได้อยากมากก็สองสัปดาห์จะชัก 1 ครั้ง
พอตอนอายุประมาณ 7 ขวบอาการทางจิตก็มีมาเรื่อยๆ คือซึมเศร้ากับอาการอยู่ไม่นิ่ง แพทย์บางท่านก็เรียกว่าสมาธิสั้น และพออายุ 23 ปีก็เริ่มมีอาการก้าวร้าว หลังจากที่คืนไหนชักมากๆ หรือถ้าชักตอนตื่นกลางวัน ก็จะหงุดหงิดก้าวร้าวมาก พบจิตแพทย์ที่เชี่ยวชาญหลายท่าน ทั้งจิตแพทย์เด็ก และจิตแพทย์ผู้ใหญ่
จิตแพทย์เคยวินิจฉัยว่าเป็นไบโพล่าร์ ก็รักษาไบโพล่าร์ อยู่ 1 ปีเต็ม พอได้มาพบคุณหมอโยธิน คุณหมอก็อ่านคลื่นสมองอย่างผู้เชี่ยวชาญจริงๆ (ผมคิดว่าตั้งแต่ผมรักษาลูกสาวมาเกือบ 25 ปีนี้ คุณหมอโยธินเป็นผู้ให้ความกระจ่างผมมากที่สุด เสียดายผมเพิ่งพบคุณหมอเมื่อต้นปีนี้เอง)
คุณหมอโยธินปรับเอายาที่รักษาเกี่ยวกับไบโพล่าร์ออกหมด และบอกว่าถ้าคุมชักได้อาการทางจิตก็จะน้อยลง ผมก็เห็นจริงอย่างนั้น คือว่าลูกสาวผมไม่อาละวาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมาประมาณ 6-7 วัน ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อนเลยในรอบ 1 ปีนี้ที่จะเว้นนานถึง 6-7 วัน
ที่ผมเขียนมานี่ก็กลัวว่าถ้าไปพบจิตแพทย์แล้ว จิตแพทย์จะปรับเปลี่ยนยากันชักนะครับ ผมเคยประสบมาด้วยตัวเองแล้วถึง 2 ครั้ง
ครั้งแรก จิตแพทย์ท่านหนึ่งเปลี่ยนยาอย่างเร็ว คือถอนยากันชักเก่าออก 2 ตัวเลย แล้วใส่ยากันชักตัวใหม่ซึ่งว่าช่วยรักษาอาการทางจิตได้ ผลปรากฏว่าชักมากขึ้น แล้วเห็นภาพหลอน และมีอาการเพี้ยนๆ ร้องรำทำเพลง ซึ่งอาการร้องรำทำเพลง ตอนจนถึงปัจจุบันนี้ผมยังรักษาไม่หายขาดเลย
ครั้งที่สองเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วนี้เอง จิตแพทย์อีกท่านหนึ่งเปลี่ยนยาควบคุมอาการทางจิตจากตัวหนึ่งไปเป็นอีกตัวหนึ่ง แบบว่าเปลี่ยนยาอย่างทันทีเหมือนกัน ผลที่ตามมาก็คือ ชักรุนแรงภายในไม่ถึง 3 วัน และจิตแพทย์ท่านนั้นก็ให้ทานยากันชักเพิ่มไปอีกตัวหนึ่ง ทำให้ง่วงมาก และจะชักเวลาง่วง จิตแพทย์ท่านนั้นก็บอกว่าอย่าให้แกง่วงสิ และสุดท้ายเลยบอกว่าปรับยายากมาก ต้องไปผ่าตัดสมองรักษาโรคลมชักก่อน
ที่ผมเขียนยาวเพราะผมอยากแนะนำอย่างเดียวนะครับ อย่าปรับยาโดยจิตแพทย์โดยไม่ปรึกษาหมอสมองที่รักษาโรคลมชักก่อน ความเห็นผมอาจไม่ตรงกับผู้อื่นแต่ผมเขียนจากประสบการณ์โดยตรง แบบว่าเล่าสู่กันฟังนะครับ