Forum > แชร์ประสบการณ์โรคลมชัก

น้องชักเมื่อมีไข้

(1/2) > >>

pun:
สวัสดีค่ะ

ลูกสาวปัจจุบันอายุ 4.9 ปีค่ะ น้องเคยมีประวัติชักเวลามีไข้ค่ะ เริ่มชักครั้งแรกเมื่อตอน 2.6 ปี ครั้งที่สอง อายุ 3 ปี ครั้งที่ 3 อายุ 4.4 ปี ตอนที่ชักครั้งที่ 3 คุณหมอแนะนำให้ทำ EEG แต่ผลออกมาปกติค่ะ ไม่พบคลื่นลมชัก ตัวเองเลยตัดสินใจให้ยังคงให้ ไดซิแพม เวลาลูกมีไข้เหมือนเมื่อก่อน ด้วยตัวเองคิดว่า น้องชักห่างขึ้น คงจะควบคุมได้  ต่อมา น้องมีไข้ (ทราบภายหลังว่าเป็นอีสุกอีใสค่ะ) และชักเป็นครั้งที่ 4 ค่ะ ตอนนั้นน้องอายุ 4.8 ปี ลักษณะการชักคือ จะหยุดนิ่ง ไม่ตอบสนอง ตาลอย และดูปากเขียว ๆ ค่ะ สัก 2นาที ก็กลับมารู้สึกตัวค่ะ หลังจากไปโรงพยาบาล คุณหมอก็แนะนำให้ทำ EEG อีกครั้งค่ะ แต่ผลก็เหมือนเดิม ไม่พบคลื่นลมชัก  คุณหมอให้ลองตัดสินใจอีกครั้ง ว่าจะใช้ยารักษาแบบระยะยาวรึเปล่า ตัวเองก็เลยขอคุณหมอกลับมาตัดสินใจอีกครั้ง พอได้ค้นข้อมูลเกี่ยวกับยา ก็กลัวผลข้างเคียงมากมาย และสุดท้ายก็ตัดสินใจไม่กินค่ะ จริง ๆ แล้ว คุณหมอแนะนำว่า ถึงจะยืนยันไม่ได้ว่าน้องเป็นลมชัก แต่น้องชักบ่อยกว่าที่ควรจะเป็นสำหรับเด็กปกติ เพื่อลดความเสี่ยง คุณหมอเลยแนะนำให้ทานยาเพื่อคุมชักค่ะ แต่ตัวเองก็คิดว่า หากชักเพราะมีไข้เป็นตัวนำ ถ้าเราวัดอุณหภูมิน้องเค้า อย่างสม่ำเสมอ เราน่าจะติดตามความผิดปกติของน้องได้  แต่สุดท้ายก็พลาดค่ะ น้องกลับมาจากโรงเรียน บ่นว่าปวดหัว วัดอุณหภูมิได้ 37.2 (ปกติ 36.4-36.6) ก็ให้ยาลดไข้ เช็ดตัว และไม่กี่นาทีน้องก็ชักค่ะ นิ่งไป ไม่ตอบสนอง ตาลอย และปากเขียวค่ะ เราควบคุมไม่ทันค่ะ เป็นการชักครั้งที่ 5 ค่ะ คราวนี้คุณหมอ บอกเลยว่าไม่สามารถให้คุณแม่เลือกได้อีกแล้ว น้องต้องทานยา คุณหมอให้ depakin 200mg เช้า-เย็น เพิ่งเริ่มให้เมื่อ 17-02-54 ค่ะ คุณหมอนัดเจาะเลือด 03-03-54 ค่ะ  ส่วนน้องตอนนี้ ก็หยุดเรียนมา 1 อาทิตย์ค่ะ ช่วงวันแรก ๆ น้องหงุดหงิดมากค่ะ ไม่เล่น ไม่คุย ไม่อยากกิน (ปกติน้องค่อนข้างซน ช่างพูด ช่างคุย) วันนี้เข้าวันที่ 8 แล้ว น้องก็ค่อยยังชั่วขึ้นค่ะ หงุดหงิดน้อยลง มีคุยมากขึ้นค่ะ แต่ไม่ร่าเริงเหมือนเคยค่ะ ตอนนี้เศร้ามาก ๆ เลยค่ะ ได้แต่หวังว่าครั้งนี้จะไม่เป็นการตัดสินใจที่ผิดของตัวเองอีกครั้งค่ะ

jelly:
ยังดีว่าชักไม่บ่อยมากครับ เรื่องทานยาก็คงตามหมอ ไม่ต้อง serious หรอกครับ depakine เป็นยาสามัญทั่วไป ผลข้างเคียงก็น้อย
ยังดีว่าพัฒนาการน้องก็ปกติดี ไม่ค่อยน่าห่วง คงต้องระวังมากเรื่องเวลามีไข้ เพราะจะกระตุ้นให้เกิดอาการชัก

โรคลมชักก็เป็นอีกโรคนึงที่มีโอกาสรักษาหาย ก็รักษากันไปครับ   ไป รร ก็บอกครูไว้าว่ามีโรคประจำตัวครับ

ผมชื่อหมู พ่อเยลลี่กะจีบันครับ 

Jen:
สวัสดีครับ

ลูกผมเป็นเคสที่เหมือนกันเลย คือชักเมื่อมีไข้ ซึ่งเด็กที่มีอาการชักจากไข้สูงมักจะชักไม่เกิน 3 ครั้ง Maximum คือ 6 ครั้ง ซึ่งลูกผมตรวจ EEG ครั้งแรกเมื่อชักได้ 3 ครั้งซึ่งไม่เจอเหมือนกัน แต่มาเจอตอนที่ทำ EEG ครั้งที่ 2 ซึ่งเจอคลื่นน้อย แต่ไข้มาเมื่อไหร่ ไม่ค่อยรอด เรียกว่า 90% ของทุกครั้งที่มีไข้ มักจะเกิดอาการชัก เป็นมา 2 ปีกว่าชักไปเกือบยี่สิบครั้ง ซึ่งจะว่าไปหลายคนบอก ถือว่าน้อย (แต่ว่าผมคิดว่าเยอะเหมือนกัน)

เรื่องไม่อยากให้กินยากันชักระยะยาว แล้วใช้ Diazepam มักไม่ค่อย work เพราะพอเริ่มกินกว่ายาจะออกฤทธิ์ มักไม่ทัน เคสลูกผมมีอยู่ครั้ง (กิน Depakine แล้ว) ก่อนนอนจับมือเย็นๆ เลยให้กินยาลดไข้ และจับเช็ดตัวแบบนั่งก้นแช่ในน้ำและเช็ดตัว พอจับดูเย็นขึ้น ใส่ผ้าให้นอน ไข้ไม่ยอมลด แป๊บเดียวก็ชัก ไข้จึงลด (ผมรู้สึกเหมือนมันจะเอาให้ได้เลย พอชักเสร็จไข้จึงยอมลด พยายามสุดๆแล้ว แต่ก็แพ้)

การกินยาแล้ว ก็ต้องดูระดับปริมาณยาและดูว่าถูกกับยาตัวนั้นหรือเปล่าด้วยนะครับ ลูกผมระดับยา Depakine อยู่ที่เกือบ 80 ก็ยังชักเมื่อไข้มา กินยามาปีกว่าแล้วก็ยังมีอาการอยู่เมื่อมีไข้ ยังหาสูตรที่ลงตัวไม่ได้เลย แต่ก็ยังกินยาอยู่แล้วลองดูไปเรื่อยๆ แต่ผมคิดว่าเราควรรักษาด้วยการกินยาต่อไป เนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่นที่คิดว่าดีกว่า และตอนนี้สิ่งที่กระตุ้นชักมีแค่ไข้เท่านั้น ถ้าไม่กินยาแล้วอาการชักเปลี่ยนไป มีสิ่งกระตุ้นอื่นอาจจะแย่กว่า

เข้าใจว่าลูกสาวคุณ pun ยังมีพัฒนาการปกติอยู่ ซึ่งถือว่าโชคดีมากครับ อยากบอกว่าอย่ากังวลมาก ช่วงแรกกินยาอาจมีอาการข้างเคียงบ้าง แต่น่าจะปรับสภาพได้ ปริมาณที่ได้ยังไม่เยอะครับ แล้วหมอก็จะตรวจระดับยาพร้อมตรวจ indicator ตับและอื่นๆ ไปด้วย ซึ่งก็ควบคุมผลข้างเคียงไปด้วย

อย่างที่คุณหมูบอกครับว่า ลมชักเป็นโรคประจำตัวที่รักษาได้ และพยายามอยู่กับโรคแบบมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด ไปโรงเรียนได้บอกคนใกล้ชิดหรือคุณครูถึงวิธีการรับมืออาการชัก อาการชักไม่อันตรายเท่าผลข้างเคียงอื่น เช่นหกล้มหัวฟาด หรือจมน้ำ ลูกผมเพิ่ง 3 ขวบ ไปโรงเรียนมา 1 ปีแล้ว มีเรียนว่ายน้ำทุกอาทิตย์ ชอบมาก ใช้ชีวิตตามปกติครับ ก็บอกครูไว้ให้ช่วยดูให้ด้วย

เป็นกำลังใจให้นะครับ พ่อแม่หลายคนในนี้มีกำลังใจดีมาก และเป็นแรงใจให้เราได้อย่างดีมากเลย ลองอ่านเคสเพื่อนๆ ดูครับ

NONG:
สวัสดีค่ะคุณ pun

อย่่างที่คุณหมูคุณเจนบอกค่ะ โรคลมชักรักษาได้ ถึงไม่หายขาดก็สามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติได้ ไม่สบายใจ คิดไม่ออก อยากรู้อะไรเกี่ยวกับโรคนี้ก็เข้ามาคุยกันค่ะ ที่นี่มีเพื่อนให้ปรึกษา เคสให้ศึกษาก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ มีประโยชน์กับสมาชิกใหม่ และที่สำคัญมีกำลังใจให้เหลือเฟือค่ะ

แกมแม่เนย:
เห็นด้วยกับคุณหมอว่าควรกินยาระยะยาวค่ะ อ่านแล้วแกมว่าเริ่มมาถี่ขึ้นนะคะ การใช้แวเลี่ยมบ่อยไม่เป็นผลดีเท่าไรค่ะ ใช้นานจะดื้อยา อย่างที่คุณเจนว่ากว่าจะออกฤทธิ์ก็ชักไปแล้ว

เคสน้องเนยพอเริ่มชัก เหน็บแวเลี่ยมเข้าก้น กว่าจะหยุดชักก็นานอีกหลายนาทีเลยค่ะ อุณหภูมิ 37.2 แล้วเริ่มชัก ถือว่าไวต่อไข้มากเลยนะคะเนี่ย

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป