สวัสดีค่ะ ดิฉันเพิ่งเอาลูกสาวอายุ 6 ขวบไปตรวจและสแกนคลื่นสมองมาพบว่าเป็นโรคลมชักขณะหลับ Benign Rolandic Epilepsy โดยเริ่มมีอาการมาตั้งแต่เดือนก.พ.(ต้นเดือน) 1 ครั้ง ในช่วงเวลาใกล้เช้า ดิฉันกำลังหลับอยู่ได้ยินเสียงลูกไอสำลักรุนแรงจึงรีบลุกมาดู น้องมีอาเจียนเสมหะ (กำลังเป็นหวัดอยู่) และมีน้ำลายไหลออกมาเยอะมาก น้องมีอาการเกร็งแต่ตาหลับอยู่ พยายามปลุกลูกให้ตื่น แต่น้องไม่รู้สึกตัว ตอนนั้นตกใจมากค่ะ สักพักน้องหายเกร็งและนอนต่อ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น จะนอนท่าเดียว พอเช้าก็พาน้องไปหาหมอกุมารแพทย์ บังเอิญว่าหมอประจำตัวที่รักษาน้องบ่อยๆ ไม่ได้เข้าเวร ก็เลยได้หมอคนอื่นมาตรวจ อธิบายอาการให้ฟัง หมอก็ไม่เชื่อว่าเป็นโรคลมชัก บอกว่าน้องอาจจะมึนๆง่วงนอนอยู่และตรวจช่องปากก็พบว่ามีต่อมอะดีนอยด์และต่อมทอนซิลโตมาก จึงส่งไปหาหมอเฉพาะทางหูคอจมูก และทำการผ่าออกค่ะ หลังจากนั้นน้องก็นอนหลับดี ไม่มีเสียงกรน ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แต่ในใจก็ยังกังวลลึกๆว่าอาการเกร็งที่เห็นในคืนนั้นคืออะไร ทั้งสามีและหมอก็บอกว่าไม่ใช่อาการชัก...จนมาเหตุการณ์ครั้งที่ 2 ต้นเดือนมี.ค.นี้เองค่ะ (ระยะเวลาห่างกันประมาณหนึ่งเดือน) ช่วงเช้ามืด น้องตื่นขึ้นมาเพราะสำลักเสมหะ (อีกแล้ว) แต่รอบนี้น้องรู้สึกตัวค่ะ เลยพาน้องไปล้างหน้า น้องบอกว่าปวดหัวมาก แล้วน้องก็มีอาการคอเกร็งหันหัวไปด้านขวา ตาก็มองขวาจนสุด เรียกเขาก็ไม่รู้สึกตัว บอกให้น้องหันหน้ากลับ น้องก็ไม่สนองตอบค่ะ ดิฉันกอดเขานั่งลูบหลังเบาๆและเรียกตลอด ประมาณห้านาทีเขารู้สึกตัว หันหัวกลับมาซบแล้วนอนต่อเลยค่ะ....ดิฉันกับสามีดูแล้วไม่ไว้ใจเลยรีบพาไปหาหมอทันที และได้เจอหมอที่รักษาประจำ เล่าอาการให้ฟัง หมอก็สงสัยว่าอาจจะเป็นโรคลมชัก เลยให้แอดมิทเพื่อตรวจคลื่นสมองและส่งต่อให้หมอทางด้านโรคลมชักในเด็กโดยเฉพาะค่ะ ....พอตรวจคลื่นสมองแล้ว หมอก็มาอธิบายให้ฟังค่ะ พบว่ามีคลื่นผิดปกติที่แสดงถึงเป็นโรคลมชักอยู่ โดยคลื่นจะปรากฏในช่วงที่น้องกำลังเคลิ้มๆใกล้หลับลึก และโผล่อีกทีช่วงใกล้ตื่นค่ะ....ซึ่งหมอก็บอกว่ามีความโชคดีอยู่บ้างที่น้องเป็นโรคลมชัก ฺBRE ที่เกิดเฉพาะช่วงเวลานอนเท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่าในช่วงเวลาที่น้องตื่น กลางวันก็จะเป็นปกติ ให้หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น คือ นอนไม่พอ การเล่นเกมส์มือถือ ไอแพด คอมพิวเตอร์ที่นานเกินไป หรือการเหนื่อยมากเกินไป...หมอแนะนำให้ทานยาควบคุมอาการชัก ปรากฏว่าพอตรวจเลือด น้องทานยา Kreppa ได้แค่ตัวเดียวค่ะ ตัวอื่นแพ้หมด (แพ้ตัวราคาถูก ต้องกินยาตัวแพง T T) จริงๆแล้ว ตัวดิฉันเองค่อนข้างกังวลมากๆในเรื่องกินยา กลัวผลข้างเคียง กลัวว่ายิ่งกินจะยิ่งเป็นมากขึ้น และอ่านข้อมูลทางการแพทย์ของต่างประเทศ ก็มีระบุว่าไม่จำเป็นต้องกินยา แต่ให้ระวังเรื่องสิ่งกระตุ้นและปรับพฤติกรรมต่างๆ ซึ่งอาการอาจจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่ถ้ากินยาก็ต้องกินต่อเนื่อง ซึ่งหมอที่รักษาน้องก็บอกว่า หากจะกินยาก็ต้องกินต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 15-16 เลย ซึ่งโรคนี้จะหายขาดแน่นอนหลังอายุ 17 ปี ..... ดิฉันเองไม่อยากให้กินยาเลยค่ะ พยายามคิดในแง่ดีว่าลูกอาจจะไม่เป็นอีกก็ได้ ถ้าลดสิ่งกระตุ้นและให้น้องพักผ่อน ออกกำลังกาย กินอาหารที่บำรุงสมอง... แต่อีกใจนึงก็กลัวว่าถ้าไม่กินยา อาการจะเกิดขึ้นอีก หรือจะรอให้ถึงครั้งที่ 3 แล้วค่อยกินยา หรือควรไปหา second opinion ดีมั้ยคะ ซึ่งตอนนี้มีคนแนะนำว่าให้ไปหาที่ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ค่ะ ...
หากท่านใดสามารถให้คำแนะนำได้ จะขอบพระคุณอย่างมากๆค่ะ ตอนนี้กลุ้มใจจริงๆค่ะ (ทุกวันนี้น้องก็ยังเล่น ร่าเริงเป็นปกติค่ะ แต่พ่อกับแม่เนี่ยเครียดเลย)