http://www.oknation.net/blog/wingslife/2013/08/31/entry-2ชีวิตมีสองมุมมองให้เราเลือก
มุมหนึ่ง... ทุกๆ เรื่องราวในชีวิตไร้ซึ่งปฏิหาริย์
และอีกมุมหนึ่ง...ทุกๆ เรื่องราวในชีวิตล้วนเต็มไปด้วยปาฏิหาริย์
เช่นเดียวกับชีวิตอินทรี เจ้าเวหาผู้ได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งนกที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลก โดยสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้นานถึง 70 ปี ทว่าเบื้องหลังปีกกว้างที่โบยบินเหนือผืนฟ้าที่สง่างาม ภายใต้กรงเล็บที่ทรงพลังน่าเกรงขามกลับมีเรื่องราวแห่งชีวิตที่ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ มาได้ดุจปฏิหาริย์...
โดยธรรมชาติ...ก่อนอินทรีทุกตัวลืมตาขึ้นดูโลก พ่อแม่อินทรีจะช่วยกันสร้างรังบนชะง่อนผาสูงชัน เตรียมวางไข่ ภายในรังนั้นประกอบไปด้วยวัสดุต่างๆ ที่มีความหนาถึง ๕ ชั้น ชั้นล่างสุดเป็นก้อนหิน ชั้นต่อๆ มาเป็นท่อนไม้ และขนอ่อนนุ่มจากอกแม่อินทรี ตามลำดับ เมื่อเสร็จสิ้น แม่นกอินทรีจะวางไข่ราว ๓-๔ ฟองลงไปในรัง และจะกกไข่เป็นเวลานานพอสมควร จนไข่ฟักออกมาเป็นตัว
เมื่อลูกนกอินทรีโตพอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้ว บทเรียนแรกแห่งชีวิตก็ได้เริ่มต้นขึ้น แม่นกอินทรีจะฝึกสอนลูกอินทรีด้วยวิธีการต่างๆ ๕ ขั้นตอน
1.เริ่มจากจิกเอาขนนุ่มๆ ออกจากรัง ลูกๆ เริ่มลำบาก นอนไม่สบายเหมือนอย่างเคย แต่เพียงไม่นานนักก็เริ่มปรับตัวได้ จากนั้นจึงเอาใบไม้ออกจากรังจนหมด เหลือแต่หนามแหลมๆ ลูกๆ ต้องพยายามนอนบนหนามให้ได้ นั้นหมายความว่าเหล่าอินทรีน้อยจะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา เพราะไม่ว่าจะพลิกตัวไปทางซ้ายหรือขวา ถ้าประมาทก็จะโดนหนามทิ่มแทงเอาได้ง่ายๆ ต่อมาเอาหนามออกบ้าง ถึงตอนนี้กล้ามเนื้อขาของลูกๆ เริ่มแข็งแรงสามารถเกาะกิ่งไม้หลับนกได้สบายๆ
2.ลำดับต่อมาจึงเอากิ่งไม้ออก เหลือแต่ฐานที่เป็นก้อนหินแข็ง ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดอีกแล้ว หากลูกๆ อดทนได้ย่อมแสดงว่าลูกทุกตัวมีความพร้อมที่จะฝึกบินแล้ว ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการฝึกสอนของแม่อินทรี
3.เวลาที่แม่อินทรีฝึกสอนลูกให้บินนั้น แม่อินทรีจะคาบลูกทีละตัว แล้วกางปีกกว้างโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้า อินทรีน้อยจะเพลิดเพลินกับการได้เห็นโลกในอีกมุมมองหนึ่ง ครั้นในวันต่อๆ มาแม่อินทรีไม่ได้คาบลูกไว้ในปาก แต่จะแหย่ปีกลงไปในรังเพื่อให้ลูกตะกายขึ้นมาอยู่บนปีก ก่อนจะพาลูกโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง
4.จากนั้นจึงมาถึงขั้นตอนสำคัญ แม่อินทรีพาลูกบินทีละตัว โดยบินโบกไปมาอย่างรวดเร็ว ก่อนสลัดปีกอย่างแรงให้ร่างลูกน้อยร่วงหล่น ลอยคว้างกลางอากาศ เจ้าอินทรีขยับปีกไปมาเพื่อประคองตัวเอง แต่ไม่เป็นผล ร่างของอินทรีน้อยเหมือนจะร่วงดิ่งลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว แต่แล้วแม่อินทรีก็บินโฉบลงมารับลูกกลับรังอย่างปลอดภัย แม่อินทรีฝึกลูกๆ แบบนี้ทุกตัวจนลูกเริ่มกางปีกร่อนกลางอากาศได้ และสามารถบินไปพร้อมกับแม่ได้ในที่สุด
เวลาที่แม่อินทรีฝึกสอนลูกให้บินนั้น แม่อินทรีจะคาบลูกทีละตัว แล้วกางปีกกว้างโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้า อินทรีน้อยจะเพลิดเพลินกับการได้เห็นโลกในอีกมุมมองหนึ่ง ครั้นในวันต่อๆ มาแม่อินทรีไม่ได้คาบลูกไว้ในปาก แต่จะแหย่ปีกลงไปในรังเพื่อให้ลูกตะกายขึ้นมาอยู่บนปีก ก่อนจะพาลูกโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง
5. จากนั้นจึงมาถึงขั้นตอนสำคัญ แม่อินทรีพาลูกบินทีละตัว โดยบินโบกไปมาอย่างรวดเร็ว ก่อสลัดปีกอย่างแรงให้ร่างลูกน้อยร่วงหล่น ลอยคว้างกลางอากาศ เจ้าอินทรีขยับปีกไปมาเพื่อประคองตัวเอง แต่ไม่เป็นผล ร่างของอินทรีน้อยเหมือนจะร่วงดิ่งลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว แต่แล้วแม่อินทรีก็บินโฉบลงมารับลูกกลับรังอย่างปลอดภัย แม่อินทรีฝึกลูกๆ แบบนี้ทุกตัวจนลูกเริ่มกางปีกร่อนกลางอากาศได้ และสามารถบินไปพร้อมกับแม่ได้ในที่สุด