แบ่งปันความรู้โรคลมชัก

สนทนาได้ความรู้ => แชร์ประสบการณ์โรคลมชัก => ข้อความที่เริ่มโดย: พระสอง ที่ วันจันทร์ที่ 01 ตุลาคม 2012 เวลา 04:47 น.

หัวข้อ: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: พระสอง ที่ วันจันทร์ที่ 01 ตุลาคม 2012 เวลา 04:47 น.
วันนี้ วันที่ 1 เดือนตุลาคม พ.ศ.2555 เวลา 04.00
ผ่านมา5เดือนไม่มีการชักเลยด้วยการกินยา (เม็ดสีขาว-ส้ม 500mg ก่อนนอน3เม็ดทุกวัน) พอครบกำหนดหมอนัด ก็ไปหาหมอตามนัด บอกอาการว่า..กินยาเเล้วมีอาการง่วงซึม มือสั่น กลิ่นปากมากๆๆรู้สึกว่าข้างในร่างกายจะพังๆหมอเลยเปลี่ยนยามาให้กินใหม่ วันนี้กินวันที่4 เกิดอาการชักตอนตี3
นอนไม่หลับเลยมาค้นหาข้อมูลเอาความรู้ กระว่าวันนี้จะพาไปหาหมอ อยากพาไปตรวจสมองที่ ร พ พุทธชินราช อาการชักไม่มาก
ก่อนชัก จะรู้สึกเหนื่อยเเล้วนอนพัก (เเต่จะชักตอนนอนหลับเท่านั้น)
ท่านใดที่เคยชักหายจากอาการป่วยเเล้วช่วยบอกทีนะคับเพราะคนป่วยพึ่งมีอายุเเค่23เอง
สามารถติดต่อมาได้เลยนะ 
ขอขอบคุณมากๆคับ
อยากรู้ว่าจะหายขาดได้ใหม้
อยากรู้ว่ามีวิธีใหนที่หายได้
ชักไม่เกิน3นาที พึ่งเคยเห็นชัก5ครั้ง เเต่รอบ5เดือนที่กินยาไม่เคยชักเลย
ชักตอนนอนหลับเท่านั้น ไม่เคยชักตอนไม่นอน(เเต่จะเคยค้าง1นาที)เเล้วก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: พระสอง ที่ วันจันทร์ที่ 01 ตุลาคม 2012 เวลา 05:25 น.
ขอถามต่อนะครับ ทำ MRI คืออะไร
หลังจากชักตรวจคลื่นสอง ด้วย EEG ดีใหม้ครับ เพราะยังไม่เคยตรวจ
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: พระสอง ที่ วันจันทร์ที่ 01 ตุลาคม 2012 เวลา 16:19 น.
มาต่อความคืบหน้าวันที่ 1 ตค 2555 เวลา 16.00น
พาพระน้องไปโรงพยาบาลมาคับ หมอบอกว่าไม่ต้องตรวจสมองด้วยระบบEEGหรอก
เพราะรู้เเน่ชัดเเล้วว่าเป็นโรคลมซัก 100% เเละเป็นชนิดรุนเเรงมาก หมอเลยให้กินยาชนิดเดียวกันเพิ่มอีกครึ่งเม็ดถ้ายังชักให้กิน3-4เม็ดเลย โดยเพิ่มโดยการชักครั้งละครึ่งเม็ด ตอนนี้นอนไม่ได้เลยกลัวพระน้องเเอบชักอีก เดี้ยววันหน้าจะมารายงานความคืบหน้าครับ เจริญพร (มีคริปพระที่ชักอย่างรุนเเรงอยากให้ดูเเต่ไม่รู้จะเอาลงเว็ปยังไง)
หัวข้อ: Re: ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: NONG ที่ วันจันทร์ที่ 01 ตุลาคม 2012 เวลา 18:54 น.
ขอถามต่อนะครับ ทำ MRI คืออะไร
หลังจากชักตรวจคลื่นสอง ด้วย EEG ดีใหม้ครับ เพราะยังไม่เคยตรวจ

MRI เป็นการตรวจเอ็กซเรย์สมองด้วยคลื่นแม่เหล็ก การทำ MRI จะทำให้เห็นความผิดปกติภายในสมองได้ละเอียด สามารถบอกถึงความผิดปกติที่มีอยู่ในสมองได้ เช่น มีรอยแผลเป็น รอยบาดเจ็บภายในเนื้อสมอง รอยหยักสมองผิดปกติ เนื้อสมองไม่สมบูรณ์ ฯลฯ   ทำให้ทราบสาเหตุของการชักได้

การทำ EEG ถือเป็นสิ่งที่สมควรทำ เพราะนอกจากบอกได้ว่ามีอาการชักจริงแล้ว ยังสามารถจำแนกประเภทของการชัก จุดกำเนิดการชัก ความรุนแรงของการชัก ซึ่งมีผลต่อการพิจารณาให้ยากันชัก เพิ่มหรือลดยากันชัก

มาต่อความคืบหน้าวันที่ 1 ตค 2555 เวลา 16.00น
พาพระน้องไปโรงพยาบาลมาคับ หมอบอกว่าไม่ต้องตรวจสมองด้วยระบบEEGหรอก
เพราะรู้เเน่ชัดเเล้วว่าเป็นโรคลมซัก 100% เเละเป็นชนิดรุนเเรงมาก หมอเลยให้กินยาชนิดเดียวกันเพิ่มอีกครึ่งเม็ดถ้ายังชักให้กิน3-4เม็ดเลย โดยเพิ่มโดยการชักครั้งละครึ่งเม็ด ตอนนี้นอนไม่ได้เลยกลัวพระน้องเเอบชักอีก เดี้ยววันหน้าจะมารายงานความคืบหน้าครับ เจริญพร (มีคริปพระที่ชักอย่างรุนเเรงอยากให้ดูเเต่ไม่รู้จะเอาลงเว็ปยังไง)

คิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาที่มีอาการค้างนิ่ง น่าจะเป็นอาการชัก มีมาตลอด โดยไม่มีคนสังเกตุเห็น
คนไข้อาจชักจริง แต่การวินิจฉัยแบบที่หมอบอกมานี้โดยส่วนตัวไม่อาจยอมรับได้ อย่างที่อธิบายถึงความสำคัญในการตรวจ eeg หมอรู้ได้อย่างไรว่าเป็นชนิดรุนแรง ชักก็ไม่เคยเห็นเอง ที่ผ่านมาอาการชักก็มีน้อยมาก แล้วหากเป็นโรคลมชักที่รุนแรงจริง ทานยาชนิดเดียวคุมอาการมาได้ 5 เดือน ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้  โรคนี้ถ้ารักษาเร็วมีโอกาสหายได้ ยิ่งมีอาการชักหลายครั้งก็จะยิ่งรักษายาก ขืนปล่อยไว้นานอาจเป็นแบบรุนแรงได้ ตอนนี้รักษาอยู่ ที่ รพ.ไหน  รพ.พุทธชินราชก็น่าจะมีหมอสมองด้านลมชักประจำอยู่ ลองไปตรวจดูสักที
ลองดูชื่อยามาบอกอีกทีนะคะ บอกแบบนี้ไม่รู้ยาอะไร ไม่อยากเดา  :o

วิธีการลงคลิปวีดีโอ ตามนี้เลยค่ะ     http://www.lomchakclub.com/v9/index.php/topic,509.0.html
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: Thanks-Epi ที่ วันจันทร์ที่ 01 ตุลาคม 2012 เวลา 19:36 น.
นมัสการค่ะ
 จากที่พี่Nong ตอบนะค่ะว่า การตรวจยืนยันทางเครื่องมือ เป็นเรื่องสำคัญมากๆ (หมอจึงไม่ลดยาให้)
ต่ายเป็นคนไข้ลมชัก ที่ไม่ได้หาย แต่สามารถคุมชักได้ดีหลายปีแล้ว  แต่เครื่องมือยังยืนยันอยู่ว่ามีคลื่นชักจำนวนมาก  โดยหมอสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นตอนหลับแล้วไม่รู้ตัว
และก็จริง ๆ หลังจากช่วงมีตติ้ง มีอยู่วันนึง ต่ายลืมกินยา ออกไปข้างนอกบ้าน มีเหตุกระตุ้นชักหลาย ต่ายก็เจริญสติเดินเอา จนกลับบ้านได้แต่ไม่ชัก และก็มานั่งสมาธิแล้วก็หลับไป 
แล้วก็อย่างหมอว่าจริงๆ คือชักตอนหลับ( แล้วไม่รู้ตัว)  แต่พอดี วันนั้นเกิดตามหลับได้ รู้สึกชาตั้งแต่ คอถึงปลายนิ้วเท้า นิ้วมือ  ตอนตื่นขึ้นมา สะบัดมือไม้ คิดว่าฝันไป   
ซึ่งกว่าจะสรุปว่าเป็นอาการชัก ต้องถามพระอยู่หลายรูป     กับฟังไฟล์เสียงอ.โยธิน อยู่หลายที  สรุปเอาเองว่าน่าจะเป็นอาการขักอย่างนึง    (ยังไม่รู้เลยว่า จะรายงานหมออย่างไรดี) เพราะตื่นขึ้นมา สมองปกติทุกอย่าง ไม่เพลีย ไม่ปวดหัว
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: พระสอง ที่ วันอังคารที่ 02 ตุลาคม 2012 เวลา 07:41 น.
วันนี้ วันที่ 2 ตค 2555 เวลา 07.00น
ขอเจริญพรขอบคุณทุกความคิดเห็นมากๆครับ เปลี่ยนยามาเกิดความผิดปกติทุกวันเลย
        ขออธิบายเรื่องการเปลี่ยนยาก่อนนะครับ คือยาที่เปลี่ยนคือ ยาPHENYTOIN 100MG เม็ดสีขาว-ส้ม กินมา5เดือน ไม่มีอาการชักหรือค้างเเต่ใดๆ เเต่ผลข้างเคียงคือ (จะเกิดอาการมึนๆมือสั่นๆ กลิ่นปากมาก เหงือกบวม) ไปหาหมอท่าน บอกอาการท่านเลยให้เปลี่ยนยาครับ
        ยาที่กินปัจจุบันคือยา DEPAKINE CHRONO 500mg คือยานี้หมอท่านบอกว่าให้กินครั้งละ1เม็ดครึ่ง ถ้ายังชักอยู่ให้กิน 1เม็ดครึ่ง ถ้ายังชักหรือค้างอยู่ให้กิน 2เม็ดเพิ่มครั้งละครึ่งเม็ด ไปจนถึง4เม็ด (หมอท่านบอกว่ายานี้ มือจะไม่สั่นเหงือกจะไปบวม) เเต่อาการง่วงจะมากๆๆๆๆ
        ขออธิบายเรื่องผิดปกติของพระน้องชาย เมือวานหลังจาไปหามอช่วงนั้งรถกลับพระมีอาการค้างเเต่ค้างไปตอนใหนไม่รู้เเต่รู้มาอีกทีได้ยินเสียงกลืนน้ำลายตัวเองจับๆๆเราเรียก สกิจตัวก็ไม่รู้สึก นั้งเงียบๆกลืนน้ำเลยไปเรื่อยดูมือไปเรื่อย ผ่านไป2นาที ก็พูดว่า(จะไปเอาเอาอยู่ กำลังไป) พอรออีกสักพักพระน้องก็หลับตา ก็กลับมาคุยได้เเต่ง่วงมากๆๆๆๆๆๆ
        วันนี้วันที่2 เวลา 07.20 พระน้องชายยังไม่ตื่น เเต่สักพักเห็นลืมตามาเเล้วก็ กลืนน้ำลาย เเล้วก็ดูมือพลิกพลิกมา(น่าจะพักเเล้ว) ผ่านไป2นาทีพระน้องก็นอนต่อไป จนจะถึงเวลา 08.00เเล้วครับ ยังไม่อยากตื่นเลย ต้องบังคับให้ควบคุมการตื่นใหม้ครับ อยากรู้ว่าต้องควบคุมการชักยังไงครับ (ชักตอนหลับน่ากลัวที่สุดครับ)
ขอเจริญพรขอบคุณทุกความคิดเห็น
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: NONG ที่ วันอังคารที่ 02 ตุลาคม 2012 เวลา 12:33 น.
พอจะเข้าใจอาการที่เกิดขึ้น อธิบายให้ท่านเข้าใจเพิ่มขึ้นสักนิด
การที่ถอดยาเก่าออกทันทีเป็นการเปลี่ยนแปลงระดับยาลดลง กว่ายาใหม่ที่เข้าไประดับจะเพียงพอในการควบคุมการชักต้องใช้เวลา 5-7 วัน ขณะที่ยังไม่ชัดเจนว่ายาใหม่ที่ให้เข้ากันได้ดีกับคนไข้หรือไม่ คนไข้อาจไม่ตอบสนองยาใหม่ก็มีอยู่เหมือนกัน ดังนั้นการเปลี่ยนยาแบบนี้ค่อนข้างน่ากลัวอยู่สักหน่อย ส่วนที่หมอให้เพิ่มปริมาณยาได้เองตาม step ไม่ได้เขียนมาละเอียดว่าเพิ่มเร็วช้าอย่างไร กี่วันเพิ่มได้ครั้ง นอกจากนี้ ในการใช้ยา depakine ควรตรวจระดับยาในเลือดว่าได้ระดับในการคุมชักแล้วหรือไม่ (50-100) หากได้ระดับแล้วยังคุมชักไม่ได้ก็สมควรเอายาออกอีกต้องเปลี่ยนยาใหม่ หรืออาจต้องทานยามากกว่า 1 ตัว
 ไม่แน่ใจว่าหมอให้ เดพากิน วันละกี่ครั้ง แบ่งเวลาอย่างไร หากให้กินวันละครั้งเดียวบอกได้เลยว่าไม่สามารถคุมการชักได้ และถ้ากินถึง 4 เม็ดในครั้งเดียวได้หลับยาวทั้งวันไม่ได้ลุกแน่ ช่วยอธิบายวิธีให้ยาของหมอให้ละเอียดอีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: พระสอง ที่ วันพุธที่ 03 ตุลาคม 2012 เวลา 05:33 น.
ไม่แน่ใจว่าหมอให้ เดพากิน วันละกี่ครั้ง แบ่งเวลาอย่างไร หากให้กินวันละครั้งเดียวบอกได้เลยว่าไม่สามารถคุมการชักได้ และถ้ากินถึง 4 เม็ดในครั้งเดียวได้หลับยาวทั้งวันไม่ได้ลุกแน่ ช่วยอธิบายวิธีให้ยาของหมอให้ละเอียดอีกครั้งค่ะ


ยาเดพากิน หมอท่านบอกว่าให้กินครั้งละ1เม็ดครึ่ง ถ้ายังชักอยู่ให้กินครั้งละเพิ่มไป ครั้งละครึ่งเม็ด เเต่ไม่เกิน4เม็ด (ปัจจุบันกิน1เม็ดครึ่งครับกินก่อนนอนเท่านั้น เวลา3ทุ่ม) เเต่อาการชักเเรงไม่เกิดเเล้ว (เเต่มีเเบบชักเเบบค้างคือ นอนลืมตาเเบบกลืนน้ำลายเสียงดังๆๆพอสักพักเเล้วนอนต่อ) หรือ นั้งเล่นกันก็เงียบไปเเล้วมีเสียงกลืนน้ำลายที่ปาก เรียกก็ไม่รู้สึกตัวเอาน้ำลองใส่เเขนก็ไม่รู้ตัว ลองตบหัวดูก็ไม่รู้ตัว เหมือนคนหลุดโลกไปเลย
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: พระสอง ที่ วันพุธที่ 03 ตุลาคม 2012 เวลา 05:55 น.
วันนี้วันที่3 ตค 2555 เวลา05.20 พระน้องชายอยู่ๆก็ตื่นขึ้นมา เอาหัวขึ้นมาเเล้ว ลืมตากลืนน้ำลายดังจับๆๆ (น่าจะเป็นการชักเเล้ว) เราเรียกเราปลุกเท่าไรก็ไม่รู้ตัว ผ่านไปสัก3นาทีเขาก็ล้มนอนลงต่อ ครับ
วันนี้มีคริปตัวอย่างพระน้องขายชักมาให้ดูด้วยครับ (ยืมมาจาก youtube) การชักเหมือนกันเลยตอนนอน ขออธิบายอีกนิด การชักของน้องชายจะมี2 อย่างนะครับ
ชักอย่างที่1 คือ คุยๆกันไปเเล้วก็เงียบนั้งอยู่คนเดียวกลืนน้ำลายดังจับๆ3-5นาทีเเล้วก็หลับตาลงสัก 2-3นาทีเเล้วตื่นมาคุยต่อ หรือนอนหลับเเล้วตื่นมากลืนน้ำลาย3-5นาทีเเล้วนอนต่อ ชักอย่างที่2 นอนเเล้วก็ชักเลยชักเเรงมาๆๆๆอย่างคริปตัวอย่าง อย่างที่สองนี้ ชักตอนนอนหลับน่ากลัวเพราะคนชักไม่รู้อะไรเลยไม่รู้สึกเจ็บปวดนอนตื่นขึ้นมาไม่รู้ตัวเลยครับ
http://www.youtube.com/watch?v=Cqre-Mynp-I[/youtube]
http://www.youtube.com/watch?v=DuMTx95Wps0
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: Thanks-Epi ที่ วันพุธที่ 03 ตุลาคม 2012 เวลา 08:23 น.
ลองตบหัวดูก็ไม่รู้ตัว
อันนี้ต่ายขอในฐานะที่ต่ายเป็นผู้ป่วยเองค่ะ เมื่อก่อนที่เริ่มชักแรกๆ แม้แต่เพื่อนพูดคำว่า "ชักจะมัน /ชักมากไปแล้ว"
ต่ายก็ร้องไห้เสียใจแล้วค่ะ การตอกย้ำผู้ป่วย หรือใช้วิธีที่ไม่สุภาพนัก (อาจจะเป็นเฉพาะบางคน)  ทำให้ผู้ป่วยเครียดเพิ่มขึ้น และหมายถึงการกระตุ้นการชักอย่างนึง ( จะมีบางคนที่เห็นผู้ป่วยเป็นตัวตลก แล้วทำอะไรแปลก ตามข่าวหน้าหนังสือพิมพ์) และรวมถึงต่ายด้วย ที่เจอะมาสารพัดอย่าง
จากคลิปที่ยืมตัวอย่างมา การที่เข้าไปยึด หรือฝืนผู้ป่วย ไม่ถูกต้องนะค่ะ เพราะเราไม่สามารถห้ามการชักได้
เพียงแต่เฝ้าระวัง อุบัติเหตุจากการชัก เช่น ล้มกระแทก ฯลฯ จะดีกว่า (หาอ่านได้จากกระทู้ปักหมุดต่างๆ รวมถึงสิ่งกระตุ้นชัก)
และต่อมาคือ เมื่อผู้ป่วยรู้ตัวแล้ว ให้นอนพัก (การรู้สึกตัวมีหลายแบบ ) บางครั้งการโต้ตอบกับเราได้ ไม่ได้หมายความว่า ผู้ป่วยจะรู้เรื่อง เพียงแต่ พยักหน้า/ตอบ เออ ออ ตามสัญชาติญาณเท่านั้นเอง

วิธีเช็คก็คือ พูดอะไรก็ได้ ให้ผู้ป่วยจำ แล้วถามอีกรอบ (ถ้าตอบได้ คือรู้เรื่อง)   แม้แต่ต่ายเอง ก็ยังเคย ดิ้นหนีบุรุษพยาบาลร้องกลับบ้านๆๆๆๆ   (แต่ไม่รู้ตัว)  เพื่อนโมโหมาก ที่ส่งรพ. แล้วดื้อ

แต่จริงๆ แล้วต่ายไม่รู้ตัว จำไม่ได้เลย กว่าจะรู้ตัวคือ ลุกจากที่นอน แล้วเพื่อนก็ว่า ว่า ทำไมหนีบุรุษพยาบาล ฯลฯ
 
ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้ดูแล ต้องใจเย็นมาก ตั้งสติให้ดี อย่าตกใจ (จากคลิป ต่ายน่าจะชักน่ากลัวกว่านี้เท่าที่แม่เล่าให้ฟัง)  และอย่าไปยึดถืออะไรที่ผู้ป่วยทำโดยไม่รู้ตัว นิสัยผู้ป่วยอาจจะซึมเศร้ามากขึ้น เครียด  หรือพูด/ทำอะไรช้า
แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า ผู้ป่วยจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป เมื่อสามารถคุมชักได้ดีแล้ว การฟื้นตัวของผู้ป่วยจะกลับมาเอง
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: พระสอง ที่ วันพฤหัสบดีที่ 04 ตุลาคม 2012 เวลา 06:32 น.
ลองตบหัวดูก็ไม่รู้ตัว
เมื่อสามารถคุมชักได้ดีแล้ว การฟื้นตัวของผู้ป่วยจะกลับมาเอง
คุมการชักนี้ยังไงครับไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้เท่าไร คือพระน้องชายไม่รู้ว่าจะชักตอนใหน เเละไม่รู้เลยว่ามันมาตอนใหนเลย อยากรู้วิธีจริงๆๆครับ (เรื่องตบหัวคืตบดูว่ารู้สึกตัวใหม้อย่างนี้นะครับ)ไม่ใช่ตลกนะ เคียดๆๆๆมากๆๆตอนพระน้องเป็นอะไรนี้ อยากให้ช่วยอธิบายการคุมการชักอย่างละเอียดหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: พระสอง ที่ วันพฤหัสบดีที่ 04 ตุลาคม 2012 เวลา 07:04 น.
อยากรู้ การกินยา2ประเภทนี้จังคับว่าเเต่งต่างกันยังไงท่านใดเคยกินเเล้งมีอาการยังไงผลข้างเคียงช่วยบอกทีนะคับ 
PHENYTOIN 100MG เม็ดสีขาว-ส้ม 
ปัจจุบันกินยาตัวนี้คับ มีผลข้างเคียงอะไรมากใหม้DEPAKINE CHRONO 500mg
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: NONG ที่ วันศุกร์ที่ 05 ตุลาคม 2012 เวลา 12:39 น.
ลองอ่านดูค่ะ http://www.lomchakclub.com/v9/index.php/topic,258.0.html
PHENYTOIN คือ DILANTIN
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: พระสอง ที่ วันศุกร์ที่ 05 ตุลาคม 2012 เวลา 17:10 น.
ตอนนี้กำลังเฝ้าระวังอยู่ครับ....เดี้ยวมีอะไรเดี้ยวจะมาพิมพ์บอก
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: Thanks-Epi ที่ วันศุกร์ที่ 05 ตุลาคม 2012 เวลา 20:56 น.
การคุมชักได้นั้น ควรให้แพทย์ด้านลมชักโดยตรงตรวจนะค่ะ
แม้กระทั่งการทำ MRI  ก็ต้องเป็นการทำ MRI สำหรับลมชัก เพราะจะได้รายละเอียดมากกว่า เห็นรอยแผลชัดกว่า (ต่ายใช้ภาษาไม่ถูก ฟังจาก อโยธินมาอีกทีนะค่ะ) หรือการอ่านคลื่นชัก ซึ่งต่ายเข้าใจมาตลอด 20 กว่าปี ว่าไม่มีคลื่นชัก  พอ ได้ตรวจกับอ.โยธิน ผลออกมาว่า คลื่นชักยังมีมาตลอด 10-20 วินาที โดนทั้งสมองด้านซ้ายทั้งแถบ และด้านหลังทั้งหมด กับสมองด้านขวาอีกประมาณครึ่งนึง  การอ่านคลื่นชักจึงมีผลสำคัญมาก

แม้แต่ต่ายเองซึ่งคุมชักได้ดีหลายปีแล้ว แรกๆ ทางจุฬาจะให้หมอที่ตรวจอยู่ลดยาให้ ต่ายขอไม่เอาตัวเองเสี่ยงนะค่ะ ไปตรวจกับอ.โยธิน ให้แน่ใจ (ซึ่งได้เห็นคลื่นชักตัวเองยังต้องบอกตกใจเลย)
การคุมชักได้ดี ขึ้นอยู่กับหลายอย่าง รวมทั้งกำลังใจของผู้ป่วยด้วย ต่ายยืนยันว่าสำคัญมากจริงๆ
หรือการหมั่นกระตุ้นสมอง ใช้สมองบ่อยๆ ก็ช่วยให้สมองกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม  แทบไม่มีคนรู้เลยว่าต่ายเป็นลมชักมา 15 ปี
คุมการชักนี้ยังไงครับไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้เท่าไร คือพระน้องชายไม่รู้ว่าจะชักตอนใหน เเละไม่รู้เลยว่ามันมาตอนใหนเลย อยากรู้วิธีจริงๆๆครับ (เรื่องตบหัวคืตบดูว่ารู้สึกตัวใหม้อย่างนี้นะครับ)ไม่ใช่ตลกนะ เคียดๆๆๆมากๆๆตอนพระน้องเป็นอะไรนี้ อยากให้ช่วยอธิบายการคุมการชักอย่างละเอียดหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: พระสอง ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2012 เวลา 12:13 น.
การคุมชักได้นั้น ควรให้แพทย์ด้านลมชักโดยตรงตรวจนะค่ะ
แม้กระทั่งการทำ MRI  ก็ต้องเป็นการทำ MRI สำหรับลมชัก เพราะจะได้รายละเอียดมากกว่า เห็นรอยแผลชัดกว่า (ต่ายใช้ภาษาไม่ถูก ฟังจาก อโยธินมาอีกทีนะค่ะ) หรือการอ่านคลื่นชัก ซึ่งต่ายเข้าใจมาตลอด 20 กว่าปี ว่าไม่มีคลื่นชัก  พอ ได้ตรวจกับอ.โยธิน ผลออกมาว่า คลื่นชักยังมีมาตลอด 10-20 วินาที โดนทั้งสมองด้านซ้ายทั้งแถบ และด้านหลังทั้งหมด กับสมองด้านขวาอีกประมาณครึ่งนึง  การอ่านคลื่นชักจึงมีผลสำคัญมาก

แม้แต่ต่ายเองซึ่งคุมชักได้ดีหลายปีแล้ว แรกๆ ทางจุฬาจะให้หมอที่ตรวจอยู่ลดยาให้ ต่ายขอไม่เอาตัวเองเสี่ยงนะค่ะ ไปตรวจกับอ.โยธิน ให้แน่ใจ (ซึ่งได้เห็นคลื่นชักตัวเองยังต้องบอกตกใจเลย)
การคุมชักได้ดี ขึ้นอยู่กับหลายอย่าง รวมทั้งกำลังใจของผู้ป่วยด้วย ต่ายยืนยันว่าสำคัญมากจริงๆ
หรือการหมั่นกระตุ้นสมอง ใช้สมองบ่อยๆ ก็ช่วยให้สมองกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม  แทบไม่มีคนรู้เลยว่าต่ายเป็นลมชักมา 15 ปี
คุมการชักนี้ยังไงครับไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้เท่าไร คือพระน้องชายไม่รู้ว่าจะชักตอนใหน เเละไม่รู้เลยว่ามันมาตอนใหนเลย อยากรู้วิธีจริงๆๆครับ (เรื่องตบหัวคืตบดูว่ารู้สึกตัวใหม้อย่างนี้นะครับ)ไม่ใช่ตลกนะ เคียดๆๆๆมากๆๆตอนพระน้องเป็นอะไรนี้ อยากให้ช่วยอธิบายการคุมการชักอย่างละเอียดหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
ตอนนี้เข้าใจเป็นอย่างนี้นะครับ หมอท่านบอกว่าอย่างนี้นะครับ
คือ การตรวจ EEG คือ การตรวจว่าเป็นจริงใหม้เเต่พระน้องชายหมอบอกว่าเป็นจริงๆครับไม่ต้องตรวจเเล้ว
การทำ MRi อันนียังไม่ได้ถามคุณหมอเลยนะครับ
ขอเจริญพร
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: Thanks-Epi ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2012 เวลา 13:23 น.
คือ การตรวจ EEG คือ การตรวจว่าเป็นจริงใหม้เเต่พระน้องชายหมอบอกว่าเป็นจริงๆครับไม่ต้องตรวจเเล้ว
การทำ MRi อันนียังไม่ได้ถามคุณหมอเลยนะครับ
ขอเจริญพร
ต่ายไม่เข้าใจว่า ทำไมหมอไม่ให้ทำ eeg นะค่ะ
อันดับแรกของการตรวจลมชักคือ eeg ก่อนตรวจ MRI ด้วย
คนที่เป็นลมชัก แต่ไม่มีคลื่นชักก็มี หรือ มีคลื่นชัก  แต่ไม่ชักก็มี (แต่จริงแล้วอาจจะชักก็ได้)
ตรวจเพื่อวินิจฉัยว่า คลื่นมาจากสมองส่วนไหน(อย่างที่พี่น้องอธิบายละเอียดแล้วนะค่ะ) และมีผลกระทบอย่างไร
อย่างต่ายมีผลด้านภาษา 
เพราะเอาเข้าจริงแล้ว อาการชักบางอย่างไม่สามารถสังเกตุได้ทันเลย
เช่น อย่างต่าง กระพริบตา 1 ครั้ง (อยู่หน้าคอม) หมอจดว่าเป็นอาการชักอย่างนึงชนิด partial 
ซึ่งเมื่อตอนที่ต่ายชักมากๆ อาการชักรายงานเฉพาะชักเหม่อ /ลมบ้าหมูเท่านั้น (ไม่รู้ว่า ต่ายกระพริบตาวันนึงกี่ครั้งค่ะ)

ถ้าได้อ่านประสบการณ์ในบอร์ดนี้ รูปแบบการชักจะมีแปลก แม้แต่ต่ายเองก็ยังไม่ทราบมาก่อน ยังไงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วย /ผู้ดูแล   รวมถึงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการ

แต่การจ้องมอง เหมือนจับผิด (จริงแล้วเป็นห่วง) ทำให้ผู้ป่วยเครียดโดยไม่รู้ตัว อันนี้จากประสบการณ์ต่ายเองเลย เมื่อก่อน ต่ายแทบไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากนอน และพ่อกับแม่มองอยู่ตลอดเวลา (แบบ ฮาๆ ในที่ทำงานก็ยังมีค่ะ) เช่น โดนหัวหน้ามอง จนกลัวเขียนหนังสือไม่ได้/ หรือตกใจจน โยนปากกาทิ้ง ฯลฯ ทุกที่ทำงาน จบท้ายด้วยการลาออกดีกว่า
พยายามทำทุกอย่างเหมือนตอนที่ยังไม่มีอาการชัก ทำจิตใจให้สบายทั้งผู้ป่วยผู้ดูแล
การเจริญสติปฎิฐาน4 สามารถช่วยลดอาการเครียดได้อย่างดี 
หัวข้อ: Re: สมาชิกใหม่ครับ ขอเจริญพร อยากช่วยพระน้องที่เป็นลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: พระสอง ที่ วันอาทิตย์ที่ 07 ตุลาคม 2012 เวลา 19:41 น.
ขอบคุณมากนะครับสำหรับความรู้ดีๆตอนนี้ยังไม่มีการชักเเล้ว ทั้งค้างเเละ ชักตอนกลางคืนหรือตอนนอน
เดี้ยวถ้ามียังไงนะผิดปกตินะครับ เดี้ยวจะมาส่งข่าว ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ