แบ่งปันความรู้โรคลมชัก

สนทนาได้ความรู้ => แชร์ประสบการณ์โรคลมชัก => ข้อความที่เริ่มโดย: suntaree ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2012 เวลา 08:47 น.

หัวข้อ: การปรับยากันชัก
เริ่มหัวข้อโดย: suntaree ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2012 เวลา 08:47 น.
ช่วง ๒ เดือนที่ผ่านมาวุ่นวายชีวิตเปลี่ยนไปหมด เมื่อลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากอาการชักหายไป ๒ ปี ด้วยยา clonazepam หนึ่งเม็ดเช้าเย็น เป็นลมชักครั้งแรกเมื่ออายุ 5 ขวบ ตอนนี้ 8 ขวบ น้ำหนัก 37 กก. คือมีอาการ ก้มหน้า เปลือกปากล่างแบะ เหมือนคนกำลังโกรธ ลืมตานิ่ง ขยับตัวไปมา พูด ปิดท้ายด้วยหัวเราะ เมื่อก่อนเป็นเฉพาะตอนหลับ แต่ตอนนี้ตอนกลางวันขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่ก้อมีอาการ ถ้าตอนกลางวันจะเดินด้วย แต่เมื่อคุณแม่คุยด้วยเค้าจะตอบและทำตามที่คุณแม่สั่งได้ แต่ช้าคะ ทุกอย่าง เริ่มนับหนึ่งใหม่ทุกอย่างตั้งแต่ EEG พบคลื่นสมองผิดปกติ  ปรับยาเป็น depakine chorono 500 1 เม็ดก่อนนอนและ clonazepam 1 เม็ดเช้า 2 เม็ดก่อนนอน หลังจากนั้นก้อทำ MRI ผลออกมาปกติ แต่อาการชักเปลี่ยนรูปแบบหลังจากได้ยา depakine คือมีอาการไอและอาเจียนหลังจากลืมตาโพลง ตาใสเป็นลูกแก้วเลย คือคุณแม่ดูตาปุ๊บก้อรู้เลยว่าไม่ใช่น้องแทน ก้มหน้า แต่จะทำท่าเหมือนจะร้องไห้แล้วชี้ที่ท้องบอกว่ากำลังขึ้นมา ไอ และอาเจียน พะอืดพะอม ทรมานหัวใจคุณแม่เหลือเกินคะ เป็นประมาณ 20 - 30 วินาที
ก็ย จากเมื่อก่อนเป็นแค่ไม่ถึง 10 วินาที คุณแม่เลื่อนวันนัดกับคุณหมอที่ มอ.หาดใหญ่ ให้เร็วขึ้นโดยปรับยาตัวใหม่ได้ 14 วันพอดี อาการแย่ลง คราวนี้คุณหมอให้หยุดยา clanazepam และให้ลด Depakine เหลือ ครึ่งเม็ด ก่อนนอน และได้ยาตัวใหม่มา คือ Topamax 50 ทานครึ่งเม็ดก่อนนอนเหมือนกัน หลังจากทานยาไป 3 วัน อาการตอนกลางวันน้อยลง อย่างเมื่อวานไม่มีเลย แต่พอกลางคืนขณะหลับเป็นเหมือนเดิมอีก ตอนนี้คุณแม่กำลังตัดสินใจว่าจะไม่ให้ทาน ยา depakine แล้ว จะให้หยุดเองเลย โดยคุณหมอให้ตารางปรับยาให้คุณแม่หยุดยา depakine วันที่ 17 ตุลาคม 55 แต่คุณแม่จะหยุดคืนนี้ ส่วนยา Topamax จะให้ทานต่อไปและตามตารางปรับยาจะให้ทาน ครึ่งเม็ดเช้าเพิ่มในวันที่ 10 ตุลาคม คะ คุณแม่ขอความเห็นเรื่องการให้ลูกหยุดยา depakine ก่อนกำหนด อันตรายหรือเปล่าคะ ทุกข์ใจมากเลยคะ ตอนนี้น้องยังไม่ตื่นคุณแม่ถึงได้เข้ามาตั้งกระทู้ได้ แต่ก้อต้องเข้าไปดูเค้าตลอดเพราะเมื่อคืนมีอาการทุก 1.30 ชั่วโมง ตอนเช้าตั้งแต่ 6 โมงเช้าก้อ 2 ครั้งแล้ว เหมือนท่าทางเค้าจะหวาดกลัวด้วยนิด ๆ ถ้าคุณแม่ขาดการติดต่อหรือหายไป ต้องขออภัยด้วยนะคะ จะเข้ามาทันทีที่มีโอกาสคะ ช่วยแนะนำคุณแม่เรื่องหยุดยาเองด้วยนะคะ วันนี้จะโทร.หาคุณหมอที่ รพ. แต่เป็นวันเสาร์ และคุณหมอไม่มีคลินิค ติดต่อเสาร์-อาทิตย์ไม่ได้คะ
หัวข้อ: Re: การปรับยากันชัก
เริ่มหัวข้อโดย: NONG ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2012 เวลา 10:14 น.
คุณ suntaree ถามมาแบบนี้คงไม่มีใครกล้าแนะนำให้หยุดยาเอง เพราะเป็นที่รู้กันอยู่ว่าการหยุดยาเองมีอันตราย เรื่องนี้อยู่ที่คำสั่งแพทย์ และคุณ suntaree เอง
 เข้าใจและเห็นใจมากที่ต้องทรมานเห็นลูกเป็นแบบนี้ มีหลาย ๆราย ที่หยุดยาเองแล้วโชคดีไม่มีผลกระทบใดๆ กับมีอีกหลายๆ ราย ที่ชักหนักเมื่อหยุดยาทันทีไม่ค่อยๆลดลงมา เพราะยาบางตัวเมื่อรับเข้าไปแล้วลดออกทันทีไม่ได้ เรื่องนี้ให้ไว้เป็นข้อมูลนะคะ
หัวข้อ: Re: การปรับยากันชัก
เริ่มหัวข้อโดย: พระสอง ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2012 เวลา 12:03 น.
น้องพระอายุ 23ก็กินยา เดพากิน เหมือนกัน 5วันเเล้วยังไม่ชัก เเต่มีอาการ ขำๆๆคือไม่เงียบเหมือนเเต่ก่อน ขำๆๆมากๆๆอารมณ์ดีคับ (ยาเดพากิน ) (ถ้ากินเเล้วไอ และ
อาเจียนหมอบอกให้ไปพบหมอน่ะคับ ) กันนี้หมอกำชัมพระเลยว่าพระน้องชายมีอาเจียนให้รีบพบหมอว่างั้นนะคับ ยังไงไปติดตามกระทู้พระได้นะคับ
หัวข้อ: Re: การปรับยากันชัก
เริ่มหัวข้อโดย: suntaree ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2012 เวลา 13:02 น.
ขอบพระคุณคุณน้องและพระสองมากนะคะสำหรับข้อมูลและคำแนะนำ คุณแม่ติดต่อคุณหมอไม่ได้เลยคะ เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์-อาทิตย์ จะติดต่อได้อีกครั้งก็วันจันทร์ตอนบ่ายคะ
หัวข้อ: Re: การปรับยากันชัก
เริ่มหัวข้อโดย: suntaree ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2012 เวลา 13:19 น.
และวันที่ 21 พย.55 คุณหมอจะตรวจเลือดน้องแทนเพื่อดูโครโมโซมคะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตรวจเพื่ออะไร ตอนแรกจะรวจวันที่ 2 ต.ค. แต่คุณหมอบอกว่าไม่ต้องรีบก็ได้ คือขอดูจุดกำเนิด เพราะแน่ใจว่าทำ MRI แล้วก็ปกติ แล้วการเจาะไขสันหลังกับตรวจโครโมโซมจากเลือด ทำเพื่อต้องการตรวจสอบเด็กดาวน์ ใช่หรือไม่คะ ส่วนน้องแทนการเรียนก็ไม่มีปัญหา แต่ไม่ได้เก่งมากแต่ก็ + - X หาร ได้ เกรดเฉลี่ย 3.80 แต่เทอมนี้ผลการเรียนยังไม่ออกจากทราบผลวันจันทร์ที่ 8 ต.ค.นี้คะ คุณแม่จะบอกเรื่องผลการเรียให้ทราบอีกที ส่วนนิสัยก็ เล่น ร่าเริง ชอบเล่นกับเพื่อน เล่นเกมส์คอม
ก็คือปกติคะ ทานเก่ง แต่ยาตัวใหม่ที่กิน คือ topamax คุณหมอบอกว่าจะทำให้การรับรสเปลี่ยนไปทานอะไรก็ไม่อร่อย จะทำให้เบื่ออาหาร ก็สงสารลูกคะเคยเป็นเด็กทานเก่ง ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจและคำแนะนำนะคะ
หัวข้อ: Re: การปรับยากันชัก
เริ่มหัวข้อโดย: Thanks-Epi ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2012 เวลา 13:26 น.
เล่นเกมส์คอม
คอมพิวเตอร์เป็นตัวกระตุ้นช้กได้อย่างเร็วมากเลยค่ะ ยิ่งกว่าความเครียดเสียอีก หรือถ้าสำหรับต่าย ยิ่งกว่าการลืมกินยาด้วย รูปแบบการชักบางอย่างสังเกตุแทบไม่ได้ หรือผู้ป่วยเองก็ไม่ทราบ อย่างต่ายเอง แค่ กระพริบตา 1 ทีเองค่ะ
หัวข้อ: Re: การปรับยากันชัก
เริ่มหัวข้อโดย: suntaree ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2012 เวลา 19:33 น.
คงต้องลดการเล่นเกมส์คอมแล้วคะ เพราะติดมากแต่วันละไม่เกิน 2 ชม.คะ คิดว่าจะบอกลูกว่าเอาไปซ่อมคะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณต่ายอีกครั้งนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
หัวข้อ: Re: การปรับยากันชัก
เริ่มหัวข้อโดย: NONG ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2012 เวลา 20:12 น.
ไม่แน่ใจว่าคุณ suntaree เคยอ่านเรื่อง photosensitive epilepsy หรือไม่ ลองอ่านดูนะคะ http://www.lomchakclub.com/v9/index.php/topic,458.0.html
หัวข้อ: Re: การปรับยากันชัก
เริ่มหัวข้อโดย: Thanks-Epi ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2012 เวลา 23:13 น.
คงต้องลดการเล่นเกมส์คอมแล้วคะ เพราะติดมากแต่วันละไม่เกิน 2 ชม.คะ คิดว่าจะบอกลูกว่าเอาไปซ่อมคะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณต่ายอีกครั้งนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
เคยได้อ่านกระทู้ต่ายเปล่า ต่ายลดยาฟริเซี่ยมแล้วกระพริบตานะค่ะ แม้แต่ต่ายเองยังไม่ทราบเลยว่านี่คืออาการชักค่ะ เพราะ ทุกอย่างปกติ ไม่เพลีย คุยได้ปกติ

บางครั้งอาจจะไม่ชักทันที แต่อาจจะไปชักเวลาอื่นด้วย คนไข้บางคนดื้อมาก ยังคงเล่นคอมอยู่ ซึ่งต่ายเองเวลาแชทด้วย ต่ายรู้เลยว่า อาการจากตอนแรกที่แชท กับเมื่อแชทไปเรื่อย ๆ ลักษณะการคุยไม่ปกติ (แต่เจ้าตัวยังยืนยันพิมพ์ว่า ตัวเองปกติดี และไม่เคยมีอาการชักเวลาเล่นคอม)