แบ่งปันความรู้โรคลมชัก
สนทนาได้ความรู้ => แชร์ประสบการณ์โรคลมชัก => ข้อความที่เริ่มโดย: น้ำหอม ที่ วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2014 เวลา 11:21 น.
-
ครั้งแรก ที่น้องชัก ตอน 1 ขวบ 20 วัน (เดือนพค.57) กำลังหัดเดินเตาะแตะแล้วล้มหงายหลัง ล้มเสร็จชักเลย ชักเกร็ง มือหงิก ไม่น่าเกิน 1.5 นาที พอไปรพ. พบว่ามีไข้ แต่ก่อนหน้าที่จะชักเราว่าลูกไม่มีไข้นะคะ รู้สึกว่าเค้าตัวอุ่นๆ ไปชักที่ห้องฉุกเฉินอีกรอบ ตอนนั้นหมอก็สแกนสมอง พบว่าปกติ ระหว่างนอนรพ.ไข้สูง2คืน1วัน หมอยังให้ยากันชัก เป็นไดเลนติน และยาลดไข้
ครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรก 2 เดือน(ส.ค.57) คราวนี้แน่ใจว่าชักเพราะไข้สูงคะ เพราะตัวร้อนจี๋เลย แต่ก่อนหน้าที่จะตัวร้อนลูกก็ปกตินะ ก่อนนอนไม่มีไข้ นอนไป 2 ชม. ตื่นมาตัวร้อนจี๋ แล้วก็ชัก อาการชักคล้ายๆเดิม ส่งรพ.ก็ไปชักที่ห้องฉุกเฉินอีกรอบ หมอตรวจเลือดผลเลือด น้องติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้มีไข้ แต่คราวนี้ไม่ได้ยากันชักนะคะ หมอให้ยาฆ่าเชื้อ พารา และเช็ดตัวลดไข้ นอนรพ.3 วัน
ครั้งที่ 3 (ต.ค.57) คราวนี้ต่างออกไปคือ ลูกไม่มีไข้ ปกติมากๆ ก่อนชักลูกมีอาการซึมๆ บอกแม่แต่ว่านอนๆ ก่อนชัก ลูกร้องกรี๊ดแบบหวีดสุดเสียง แล้วก็ชักเกร็ง ตาค้าง น้ำลายฟูมปาก ประมาณ 1.5 นาที หลังจากชักแล้วทำท่าจะหลับตลอดเวลา ส่งรพ.ไปชักที่รพ.อีก 2 รอบ มีอาการคือเล่นๆอยู่ ก็เริ่มเคี้ยวปาก กัดปาก ซึมลง แล้วก็ร้องกรี๊ด แล้วก็ชัก ตอนแรกหมอจะไม่ให้ยากันชัก แต่พอชักรอบที่ 3 หมอก็ให้ ผลเลือด+ปัสสาวะปกติ
ครอบครัวไม่มีใครเป็นโรคนี้นะคะ พัฒนาการที่ผ่านมาก็ปกติถึงดีมาก แต่ก่อนหน้าที่จะชักรอบที่ 3 ลูกตื่นมาร้องกลางคืนบ่อย ๆ ทั้งที่ปกติหลับยาวจนเช้า แต่เราเข้าใจว่าเป็นเพราะฟันกรามกำลังจะงอก 4 ซี่
หมอบอกว่า น้องเป็นลมชัก เหมือนฟ้าผ่ากลางใจแม่เลยคะ // ตอนนี้หมอให้กินยากันชัก Phenobabital คะ วันละ 2 ครั้ง กลับมาบ้านดูแลเอง กินยาได้ 3 วันนี้แล้ว ยังไม่มีอาการชขักคะ แต่ยังไม่ได้ตรวจคลื่นสมองคะ วันมะรืนนัดตรวจ แม่กังวลเรื่องผลข้างเคียงของยาเพราะก่อนได้รับยา ลูกพัฒนาการดี เดินแข็งจนเกือบวิ่งได้ พอได้รับยาเดินเซหน้าเซหลัง เหมือนเด็กหัดเดินใหม่ๆ อาการนี้จะคงอยู่นานไหม จะเป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการของเค้าไหม แล้วยาจะควบคุมอาการชักได้ไหม
-
ยาทุกตัวน่าจะมีผลหมดครับ จะมีผลเรื่องอะไรบ้างแต่ละคนไม่เหมือนกัน
บางคนทานแล้วง่วงนอน แต่ลูกผมทานแล้วไม่มีอาการง่วงนอนเลย นอนหลับยากมาก
ถ้าเดินเซไปมาอาจจะเพราะพึ่งได้รับยาก็เป็นได้นะครับ เดี๋ยวถ้าน้องปรับตัวได้น่ากลับมาเดินปกติครับ
ผมว่าประมาณ 1 อาทิตย์ น้องน่าจะปรับตัวได้ครับ
แต่ถ้ายังมีเดินเซอยู่ลองปรึกษาคุณหมอดูนะครับ ว่าจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไรให้น้องเดินได้คล่องเหมือนเดิม
เพราะยากันชักตอนนี้มีอยู่หลายตัวมากๆครับ
ยังไงขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้น้องน้ำหอมพัฒนาการดีเหมือนเดิมและไม่มีอาการชักเกิดขึ้นอีกแล้ว :)
-
น้องคงเป็นโรคลมชักจริงๆ น่ะค่ะ ผลข้างเคียงของยายังไม่ต้องกังวลไป เอาว่าไม่ชักได้จะดีกว่าอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น อาจไม่ใช่จากยาอย่างเดียว มาจากการที่เขาชักหลายครั้ง ให้ลองสังเกตอาการที่สะดุ้งตื่นกลางคืนด้วย อาจเป็นอาการชักแบบหนึ่ง ถ้าคุมการชักได้ดี พัฒนาการก็จะกลับมาได้ อาการเดินเซจากยาถ้าไม่ใช่เพราะให้ยามากเกินไป จะหายไปเองเมื่อร่างกายปรับตัวในการรับยาคงใช้เวลา สัก 1 เดือน ส่วนจะคุมชักได้หรือไม่อยู่ที่หมอปรับยาให้ได้ดีแค่ไหน
-
แต่ก่อนหน้าที่จะชักรอบที่ 3 ลูกตื่นมาร้องกลางคืนบ่อย ๆ ทั้งที่ปกติหลับยาวจนเช้า แต่เราเข้าใจว่าเป็นเพราะฟันกรามกำลังจะงอก 4 ซี่
เมื่อก่อนลูกผมก็เป็นลักษณะแบบนี้ กลางคืนอยู่ๆจะกรี๊ดลั่นบ้านเลย เป็นอาการนำ เป็นอยู่หลายคืน
สุดท้ายก็เกิดอาการชักจริงๆ ก็ต้องคอยสังเกต แล้วหาสมุดมาจดไว้ครับ ว่าวันไหนยังไงบ้าง บางทีเรามาทวนย้อนดู
จะเข้าใจได้มากขึ้น ผมจะชอบจดบันทึกลงคอมโปรแกรม notepad ครับ เวลาจะหาย้อนหลัง จะหาง่าย
การเพิ่มลดยา เพิ่มเมื่อไหร่ยังไง ผลข้างเคียงยังไง ผมก็จะจดไว้ด้วย
-
คุณแม่คะ ถ้าคุมอาการชักได้ดี ยามากแค่ไหน ก็เดินเร็วได้ค่ะ (โปรดอ่านจำนวนยาที่ต่ายได้รับต่อวันด้านล่าง ;D )
ค่อยๆ กระตุ้นพัฒนาการเขา ถ้าคุมชักได้ดีแล้ว เทอร์นาโด-ไวกิ้ง ก็สบายค่ะ จากที่เคยต้องจูงมือเดิน ทุกวันนี้แม่ต่ายเดินตามต่ายไม่ทันค่ะ