แบ่งปันความรู้โรคลมชัก

สนทนาได้ความรู้ => แชร์ประสบการณ์โรคลมชัก => ข้อความที่เริ่มโดย: แม่น้องแม็กซ์ ที่ วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2011 เวลา 23:48 น.

หัวข้อ: ลูกชายชัดตั้งแต่ 4 เดืนอ ตอนนี้รักาษมา 13 ปีกว่าแล้ว วางแผนหยุดยามา 2 ครั้งไม่สำเร็จ 16 เมย.54 เพิ่งชักอีก
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องแม็กซ์ ที่ วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2011 เวลา 23:48 น.
ขอคุยด้วนคน เครียดมากมาย
ลูกชายชัดตั้งแต่ 4 เดืนอ ตอนนี้รักาษมา 13 ปีกว่าแล้ว วางแผนหยุดยามา 2 ครั้งไม่สำเร็จ 16 เมย.54 เพิ่งชักอีก
หัวข้อ: Re: ลูกชายชัดตั้งแต่ 4 เดืนอ ตอนนี้รักาษมา 13 ปีกว่าแล้ว วางแผนหยุดยามา 2 ครั้งไม่สำเร็จ 16 เมย.54 เ
เริ่มหัวข้อโดย: Nong_coupe ที่ วันพฤหัสบดีที่ 05 พฤษภาคม 2011 เวลา 11:17 น.
ยินดีค่ะ...คุณแม่น้องแม็กซ์

แต่ขอรายละเอียดในการรักษาซักนิดนึงนะคะ เช่น น้องเป็นแล้วรักษาด้วยยาอะไร แล้วหลังได้รับยาแล้วยังชักไม่หยุด หรือพอหยุดยาแล้วกลับมาชักใหม่จึงทำให้หยุดยาไม่ได้ อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ เพื่อนสมาชิกจะได้ทราบเพื่อเป็นแนวทางในการพูดคุยให้ละเอียดกว่านี้ค่ะ

ปู (แม่น้องคูเป้)
หัวข้อ: Re: ลูกชายชัดตั้งแต่ 4 เดืนอ ตอนนี้รักาษมา 13 ปีกว่าแล้ว วางแผนหยุดยามา 2 ครั้งไม่สำเร็จ 16 เมย.54 เ
เริ่มหัวข้อโดย: Thanks-Epi ที่ วันพฤหัสบดีที่ 05 พฤษภาคม 2011 เวลา 12:59 น.
สวัสดีค่ะ ต่ายเอง ชักมาตั้งแต่ 14-15 ปี อาการเริ่มมาดีขึ้นช่วง 30-31 ปี
ชักแบบติดๆทั้งวันทุกวันก็ซัก 15 ปีได้ ต้องลาออกจากมัธยมปลาย แล้วเรียนราม เพราะต้องเข้าออก รพ.ประจำ
รวมถึงทุกวันนี้ที่ต้องกินยา ก็น่าจะ 20 กว่าปี
 

หมอที่เคยรักษา คนแนะนำว่า เคยรักษาแล้วหายขาด (แต่ต่ายชักแบบเหม่อ)  
หมอเคยวางแผนหยุดยา โดยที่คิดว่าเราหาย (จริงๆแล้วไม่ได้หาย เพราะยังมีอาการเหม่อตลอด  :D ยังเถียงหมอด้วยอีกน่ะ ) ว่าไม่ได้หายชัก
หมอลดยา tregatalCR เรื่อยๆ จนมาถึง 200 mg ก็ได้เรื่องเลย ชักแบบลมบ้าหมู จนหมอเชื่อว่า ลดยังไม่ได้ เออออๆ ตามคนไข้

จนมาที่จุฬาอาการคุมชักดีขึ้น ไม่ได้เป็นทั้งวันเหมือนตอนช่วงก่อน(ช่วงอายุ 15-25 ปี) แต่ก็ยังคงชักไม่ได้หาย  มาคุมชักได้ ซักราวๆ อายุ 30-31 ปี

คุณแม่ต้องให้รายละเอียดอีกนิด เข้ามาคุยด้วยกันเรื่อยๆ อย่าเก็บความเครียดไว้คนเดียวค่ะ

ความสุขมักซ่อนตัวอยู่ใจกลางความเศร้า  ความเหงามักซ่อนตัวอยู่กลางความเริงร่า  ความกล้ามักซ่อนตัวอยู่ใจกลางความกลัว  ปัญญามักซ่อนตัวอยู่ภายในปัญหาเสมอ

ขอขอบคุณ หนังสือ พุทธวิธีคลายเครียด โดย ท่านปิยโสภณ ( ??? ทำไมราคาในเนต โหดจัง ติดต่อโดยตรงที่กองทุนปลูกรากแก้วศาสนาทายาทโดยตรง น่าจะดีกว่าค่ะ)

http://www.rama9temple.org/index.php?topgroupid=1&groupid=%20%20%20%20%209&subgroupid=&contentid=484


หัวข้อ: Re: ลูกชายชัดตั้งแต่ 4 เดืนอ ตอนนี้รักาษมา 13 ปีกว่าแล้ว วางแผนหยุดยามา 2 ครั้งไม่สำเร็จ 16 เมย.54 เ
เริ่มหัวข้อโดย: แกมแม่เนย ที่ วันศุกร์ที่ 06 พฤษภาคม 2011 เวลา 23:50 น.
อ้างถึง
ความสุขมักซ่อนตัวอยู่ใจกลางความเศร้า  ความเหงามักซ่อนตัวอยู่กลางความเริงร่า ความกล้ามักซ่อนตัวอยู่ใจกลางความกลัว  ปัญญามักซ่อนตัวอยู่ภายในปัญหาเสมอ

อ่านแล้วเห็นภาพ เข้าใจได้ทันทีเลยค่าพี่ต่าย ... Like ค่า  ;D

สวัสดีค่ะแม่น้องแม็กซ์ แวะเข้ามาเล่าเรื่องราวบ่อยๆ นะคะ แล้วคุณจะรู้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียว เพื่อนๆ ในนี้ช่วยได้แน่นอนค่ะ
หัวข้อ: Re: ลูกชายชัดตั้งแต่ 4 เดืนอ ตอนนี้รักาษมา 13 ปีกว่าแล้ว วางแผนหยุดยามา 2 ครั้งไม่สำเร็จ 16 เมย.54 เ
เริ่มหัวข้อโดย: naynae ที่ วันจันทร์ที่ 09 พฤษภาคม 2011 เวลา 13:24 น.
ยินดีที่ได้รู้จักคะ ลูกสาวชักเหม่อเหมือนกันคะ อยากสอบถามเพิ่มอะคะ อาการที่ทราบว่ายังชักอยู่เปนยังงัยคะ  ระยะเวลานานมั้ยคะ และรักษาที่ไหน คะ ขอบคุณคะ
หัวข้อ: Re: ลูกชายชัดตั้งแต่ 4 เดืนอ ตอนนี้รักาษมา 13 ปีกว่าแล้ว วางแผนหยุดยามา 2 ครั้งไม่สำเร็จ 16 เมย.54 เ
เริ่มหัวข้อโดย: Thanks-Epi ที่ วันจันทร์ที่ 09 พฤษภาคม 2011 เวลา 22:25 น.
ยินดีที่ได้รู้จักคะ ลูกสาวชักเหม่อเหมือนกันคะ อยากสอบถามเพิ่มอะคะ อาการที่ทราบว่ายังชักอยู่เปนยังงัยคะ  ระยะเวลานานมั้ยคะ และรักษาที่ไหน คะ ขอบคุณคะ


ต่ายชักแบบเหม่อตอนนั้นที่เดาได้คือ ยังปวดหัวแบบชักเหมือนลมบ้าหมู ไม่ใช่ปวดหัวธรรมดา  ระยะเวลาเหม่อก็ราวๆ 1 นาที (เหมือนร่างกายหายไปแว๊ปนึง แล้วปวดหัวต่อ อยากนอน

ตาปิด และก็หลับ ลักษณะเหมือนกันทุกครั้ง )

หมอบอกว่า ต่ายหายแล้ว แต่เป็นโรคจิต ย้ำคิดย้ำทำต่างหาก และลดตัวยาจาก 900 mg จนเหลือ 200 mg เลยได้ชักลมบ้าหมู

หมอเลย เออออ  ตามคนไข้ จ่ายยาเท่าเดิม

และหมอคนนี้ เป็นหมอจบจากนอก ด้านประสาทวิทยา อยู่ รพ. รัฐที่ไหนจำไม่ได้ แต่คลีนิคส่วนตัวอยู่ แถวบางบอน  ;D อยากไปเยี่ยมอยู่เหมือนกันค่ะ ;D

เพราะเป็นหมอที่ไม่รู้จัก overdose   ต้องให้คนไข้ลมชักเป็นคนบอกเอง และขู่ว่า ถ้าไม่ปรับยาให้ จะเลิกกินยาทุกตัว (เพราะตอนนั้น มั่นใจแล้วว่า เกิดจากยาแน่นอน)

เพราะเหตุการณ์ over dose ซ้ำกันถึง 2 ครั้ง เลยมั่นใจ ใช่ชัวร์  ...

และไม่พอใจมาก ตอนที่จะเปลี่ยนไปจุฬา ไม่ยอมให้ประวัติการรักษา  เลยต้องไปนั่งเดายากันใหม่ (และ over dose ซ้ำที่ปริมาณเท่าเดิม)

ต่ายถึงเน้นว่า หากมือใหม่หัดขับ ให้จดตัวยาไว้เองด้วยค่ะ