แบ่งปันความรู้โรคลมชัก
สนทนาได้ความรู้ => แชร์ประสบการณ์โรคลมชัก => ข้อความที่เริ่มโดย: chiclit ที่ วันพฤหัสบดีที่ 02 พฤษภาคม 2013 เวลา 21:39 น.
-
สวัสดีค่ะ เพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ค่ะ ขอคำแนะนำมือใหม่หัดดูแลลูกที่มีอาการชักด้วยนะคะ เพิ่งพบว่าลูกชาย 3.8 ขวบชัก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี่เองค่ะ (ตอนเด็ก ๆ ไม่เคยเห็นว่าชักนะคะ) อาการที่เห็นคือนิ่ง มองเหม่อไปข้างหน้า ปากกระตุกเล็ก ๆ ตอนแรกไม่มีน้ำลายไหล แต่หลัง ๆ เริ่มมีน้ำลายฟูมปาก ไม่มีอาการเกร็ง เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ไม่เกิน 15 วินาที บางครั้งแค่ชั่วพริบตาเองค่ะ ถ้าไม่สังเกต จะไม่ทราบอ่ะค่ะว่าชัก ตอนแรกคิดว่าลูกแกล้งค่ะ เพราะเขาชอบเล่นชอบอำ แต่วันถัด ๆ มาก็ยังเห็นอีก จนกระทั่งวันอาทิตย์ เป็นถี่เลยค่ะ ประมาณ 10 ครั้ง ชักเริ่มใจไม่ดี วันจันทร์รีบพาไปหาคุณหมอ ช่วงเช้าก็ชักอาการเดิมเกือบ 10 ครั้ง คุณหมอได้เห็นตอนชักกับตา และแนะนำว่าให้ admit เลยเพื่อทำ eeg ก็เลยนอนเลย
วันจันทร์ admit แต่ยังไม่ได้ตรวจ eeg นะคะ เพราะคิวยาว คุณหมอสั่งให้ยาเลยค่ะ เพราะน่าจะชักแน่ ๆ depakin ไม่ทราบ dose ค่ะ ฉีดวันละ 3 เวลา ก็ยังชักเหมือนเดิม แต่น้อยลงเหลือวันละ 4-5 ครั้ง วันพุธถึงได้ทำ eeg แต่คุณหมอยังไม่ได้อ่านผลเลยค่ะ ล่าสุดวันนี้ (พฤ) เปลี่ยนมาเป็นแบบกิน ครั้งละ 0.75 cc ค่ะ ตอนที่คุณหมอมาคุยยังไม่ชักค่ะ แต่ช่วงเย็น ๆ ชักแค่ครั้งเดียว คุณหมอบอกว่า ค่อนข้างโอเค พรุ่งนี้จะให้กลับบ้านล่ะค่ะ ส่วน MRI นี่รอไปเลยค่ะอีกเดือนครึ่ง คุณหมอบอกว่าไม่ต้องรีบก็ได้ แต่ใจเราอยากรีบทำอ่ะค่ะ อยากรู้ไปเลยว่าส่วนไหนมันผิดปกติยังไง ก็เลยลองคิดกันดูว่า อาจจะไปทำ MRI ที่รพ.เอกชนน่ะค่ะ
ตอนนี้มีคำถามมากมายเลยค่ะ เพราะจากที่อ่าน ๆ มาในนี้ ทุกท่านทราบกันหมด ว่าลูกชักอาการแบบไหน เรียกว่ายังไง แต่สำหรับเรายังไม่รู้เลยค่ะ เลยอยากทราบว่า เราต้องรอผล eeg ก่อนหรือไม่ถึงจะทราบว่าลูกชักแบบไหน เรียกว่าอะไร แล้วมีอะไรอย่างอื่นที่เราควรจะรู้จากคุณหมอก่อนออกจาก รพ.วันพรุ่งนี้มั้ยคะ อาจจะเขียนวกวนไปบ้างต้องขอโทษด้วยนะคะ ตอนนี้เครียด ๆ แต่พอเข้ามาอ่านในบอร์ดก็โล่งใจไปเยอะ เพราะเห็นทุกท่านช่วยกัน เอาใจใส่กันดีมาก ๆ เลยค่ะ เลยอยากขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยคนนะคะ
-
ลูกคุณ chiclit ชักแบบเหม่อ (absence seizure) ส่วนชักที่สมองส่วนไหน ชักประเภทไหน ต้องดูจากผล eeg ถามเรื่องการดูแลว่าควรทำอย่างไรบ้าง อาการแบบไหนที่ต้องสังเกตและจดมารายงานหมอ วิธีปฎิบัติหากมีอาการชัก ยาที่ต้องทาน และเวลาที่ให้ยาต้องพยายามให้ตรงเวลาตลอด บางเรื่องถ้าสงสัยก็เข้ามาถามในกระทู้ได้ค่ะ
รักษาที่ไหนคะ?
-
ขอบคุณคุณ Nong มากค่ะ น้องอยู่ รพ :).พระมงกุฏค่ะ วันนี้คงได้กลับบ้านแล้วค่ะ ;D จะถามคุณหมอตามที่คุณ Nong แนะนำนะคะ แล้วจะมาอัพเดทค่ะ
-
อยู่ พระมงกุฏ ดีแล้วนะค่ะ อาการชัก แบบนี้ ไม่ได้รุนแรงถึงกับเกร็ง อย่ากังวลมากนะค่ะ แต่ก็ต้องรักษา และทานยาตามที่แพทย์สั่ง ..ให้ตรงเวลาทุกมื้อด้วยค่ะ..
พอดีช่วงนี้ได้มีโอกาสอ่านผ่านตาเรื่องของท่านอื่น เรื่องการเล่นของเด็ก อย่าปล่อยให้เด็กเหนื่อยมาก จนกระตุ้นชักได้ เพราะอากาศก็ร้อนมากด้วย (แม้จะคุมชักได้)
เรื่องเครียดนะคะ พ่อแม่ทุกคนเครียดนะค่ะ แม้กระทั่งต่ายก็เครียดผ่านมาแล้ว สิ่งที่เราได้รับกลับไม่คุ้มค่าเสียเวลากับการคิดมากเลยนะค่ะ ไปที่ห้องนั่งเล่น /ห้องธรรมะบ้าง นะค่ะ ;D
-
เพิ่งได้มีเวลามาตอบ ขอบคุณคุณต่ายนะคะสำหรับคำแนะนำ ลูกชายออกจาก รพ.แล้ว วันนี้ไปเรียนซัมเมอร์ต่อค่ะ แจ้งคุณครูให้ทราบแล้ว เพราะหยุดไปอาทิตย์นึงเลยค่ะ หลังจากกลับบ้านมา (วัน ศ.) เพิ่งเห็นมีชักแค่ครั้งเดียว เหม่อและปากขวากระตุกเหมือนเดิม มีน้ำลายออกมา เป็นแค่ 10 วินาที ไม่เห็นอาการเกร็ง เราก็เลยคิดว่า ยาคุมได้ดีพอสมควร ตอนนี้ทาน depakin 0.75 mL 3 เวลาหลังอาหาร และ Lamictal ครึ่งเม็ดก่อนนอนค่ะ ลูกชายมีอาการข้างเคียงคือ ทานเยอะขึ้นจนสังเกตได้ มีบ่นคันเนื้อคันตัว นอนกลางวันนานขึ้น จากเดิมที่ต้องกล่อมถึงจะยอมนอน ซึมเล็กน้อยเวลาง่วงนอน ซนกว่าเดิมเล็กน้อย เพราะปกติซนมากกกกกกกก เลยคิดว่ายังพอเอาไหว
คุณหมอนัดอีก 2 อาทิตย์ รอคิวทำ MRI อีก 1 เดือน ส่วนผล EEG คุณหมอยังไม่ได้อ่าน ไม่แน่ใจว่าต้องใช้เวลาอ่านนานมั้ย แต่จะขอร้องให้คุณหมออ่านคราวหน้าที่ไปพบค่ะ ตอนนี้ไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่แล้วค่ะ มาคิด ๆ ดูว่า ยังไงก็ต้องกินยาไปอีก 2 ปี ก็คงมีชักบ้าง แค่คอยตามดูตามจดบันทึก ให้ชักน้อยลงมากที่สุด จากตอนแรกที่ชักเลยเป็นสิบครั้ง แค่นี้ก็ถือว่าพอใจค่ะ ขอบคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำนะคะ มีอะไรจะมาอัพเดทอีกค่ะ
-
ต้องบอกว่า ต่ายชักมา 15 ปี ยังอยู่ได้จนทุกวันนี้ รวม 20 กว่าปี จนมานั่งตอบปัญหาให้คนไข้คนอื่นต่อไปได้
การคุมชัก ต้องระวังพวกชักเล็กด้วยนะค่ะ ยิ่งในเด็กจะสังเกตุยากมาก เข้าใจว่าคุณหมอ ดูจากผล eeg และพัฒนาการเป็นหลัก ควบคู่ไปด้วย
พยายามอ่านติดตามอาการชักรูปแบบต่างๆ (ซึ่งแม้แต่ต่ายเอง ก็เพิ่งทราบ) ในบอร์ด จะมีประโยชน์มากค่ะ อย่าวางใจ แต่ก็อย่าดูแลแบบจับผิดกัน เพราะคนไข้จะเครียดอยู่ข้างในค่ะ (ขอบอก เครียดมากค่ะ เวลาคนถาม ชักหรือเปล่า)