แบ่งปันความรู้โรคลมชัก

สนทนาได้ความรู้ => แชร์ประสบการณ์โรคลมชัก => ข้อความที่เริ่มโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2014 เวลา 11:29 น.

หัวข้อ: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2014 เวลา 11:29 น.
ยังไม่ทราบว่าเป็นแบบไหน
1.เป็นครั้งแรกตอน 9 เดือน ลักษณะอาการคือ ชักแบบนิ่ง คือน้องกำลังทำอะไรอยู่ท่าไหนก็ค้างท่านั้น    เลย คอหันไปทางหนึ่ง ปากยิ้ม เรียกไม่ตอบ เป็นอยู่ประมาณ 2 นาที ก็คลายออก จึงพาน้องไปหาหมอหมอบอกเป็นอาการชักแบบหนึ่ง จึง admit นอนโรงพยาบาล 1 คืน และเจาะเลือดดูระดับน้ำตาล
ตอนนั้นหมอแนะนำให้ไปทำ EEG แต่ยังไม่ได้ไปทำเนื่องจากคุณแม่คิดว่าเป็นแค่ครั้งเดียว ถ้าเป็นอีกครั้งคงต้องไปทำแน่นอน คุณแม่คิดผิดค่ะ ถ้าคุณแม่ไปทำตั้งแต่วันที่หมอบอกครั้งแรกก็ดีแล้ว จนมานั่งคิดเสียใจว่าทำไมไม่พาลูกไปตั่งแต่แรก (รพ.สิริกิติ์-ชลบุรี)
2.เป็นครั้งที่ 2 (23/9/14) วันเกิดน้องพอดี ครบ 1 ขวบ ทางตา-ยาย ป้า รวมทั้งพ่อ-แม่ กำลังอวยพรวันเกิดกันว่าให้ลูกหายจากการเจ็บป่วย ตอนนั้นน้องก็กำลังเล่นอยู่หน้าบ้าน ตอนเวลา 07.00 น.น้องก็มีอาการชักอีกเป็นแบบเกร็งที่แขนซ้าย แต่น้องรู้สึกตัวสามารถพูดตอบได้ เป็นประมาณ 2 นาที
หลังจากนั้นก็พาไปหาหมออีก หมอจึงทำเรื่องให้ไปทำ EEG ที่โรงพยาบาลชลบุรี น้องก็กลับบ้าน คราวนี้ไม่ต้อง Admit แต่ไม่ได้ยามาทาน
3.คุณแม่ยังไม่ได้ทันพาน้องไป น้องกลับมาชักอีกเมื่อวันที่ 27/9/14 เวลา 15.00 น. คือมีกระตุกและเกร็งที่แขนทั้ง 2 ข้าง เหมือนว่าน้องจะคลายจากการชัก แต่สักพักชักอีก จึงนำน้องส่งโรงพยาบาล
หมอให้ออกซิเจนเนื่องจากน้องมีอาการปากเขียว เหนื่อย สักพักน้องหลับไป และหมอ admit เจาะเลือกดูความผิดผกติเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้เริ่มให้ยากันชัก คือ dilantin ชนิดน้ำแบบให้ทางสายน้ำเกลือ และก็งดน้ำงดอาหาร หลังจากให้วันนั้นก็ไม่มีอาการชักอีก
4.วันที่ 28/9/14 น้องมีอาการหิว ร้องงอแงทั้งวัน อยากกินนม แต่หมอยังให้กินไม่ได้เนื่องจากกลัวน้องชักแล้วจะสำลัก น่าสงสารมากค่ะ จึงต้องนำจุกนมอัดสำลีไว้เพื่อให้น้องดูดหลอกไว้ น้องก็ดูดจนหลับไป แล้วก็ตื่นมาร้องงอแงเหมือนเดิมคือหิว จนเวลา 15.00 น.น้องก็ชักขึ้นมาอีกประมาณ 2 นาที
กระตุกแล้วแขนเกร็งทั้ง 2 ข้าง ปากเขียว พยาบาลจึงต้องให้ออกซิเจนแล้วดูดน้ำลายเพื่อให้หายใจได้คล่อง จนอาการดีขึ้น (เวลาที่น้องชักเพิ่งจะได้รับไปประมาณ 40 นาที แต่ทำไมถึงชักได้)
5.หลังจากวันที่ 28/9/14 ไปแล้วน้องก็ไม่มีอาการชักอีก จนหมอให้กลับบ้านในวันที่ 1/10/14
หมอให้รับประทานยา Dilantin ชนิดเม็ด 3 เหลี่ยม สีเหลือง กิน 2 เวลา เช้า 06.00น.-เย็น 18.00
ก็กินยาตรงเวลาทุกวันไม่มีขาด แต่หลังจากออกจากโรงพยาบาลน้องจะมีน้ำมูกมาด้วย และ ไอแห้งๆ เนื่องจากร้องมาก จึงให้ดื่มน้ำเยอะๆ และล้างน้ำมูกด้วยน้ำเกลือ 2 เวลา แต่ก็ยังไม่หายดี เนื่องจากน้ำมูกเริ่มข้นเป็นสีเขียว
6.วันที่ 2/10/14 พาลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาลชลบุรี คุณหมอก็ถามอาการเบื้องต้น และให้ไปที่ห้องทำ EEG เพื่อรอนัดตรวจคลื่นสมอง หมอนัดตรวจที่ 14/10/14 จึงพาน้องกลับบ้าน
7.วันที่ 3/10/14 ไปหาหมอรพ.กรุงเทพพัทยา กลัวว่ากว่าจะถึงวันที่ 14/10/14 น้องจะมีอาการชักขึ้นมาอีก จึงไปหาหมอที่รพ.กรุงเทพพัทยา ซึ่งมีหมอโดยตรงเกี่ยวกับเด็กและทางระบบประสาท หมอก็ถามอาการชัก และดูปาน บอกมีเปอร์เซ็นต์สูงที่เป็นโรคลมชัก เพราะว่าชักมาแล้ว 4 ครั้งและไม่มีไข้
หมอจะให้ admit ให้ยาดูอาการ 24 ชม.และทำ EEG ซึ่งคุณแม่อยากทำมากแต่มาเช็คราคาการตรวจแล้วนอน 1 คืนให้ยาดูอาการราคา 20,000(+-) คุณแม่ต้องบอกหมอตามตรงว่าไม่ไหว เพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก อยากตรวจกับหมอ ซึ่งหมอก็เข้าใจและบอกงั้นคุณแม่ไปตรวจที่โรงพยาบาลชลบุรีก่อนและเอาผลตรวจมาให้หมอดูทีหลังได้ หรือโทรมาปรึกษาหมอได้ คุณแม่ก็รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถให้น้องตรวจได้เนื่องจากปัจจัยไม่พอจริงๆ จึงพาน้องกลับมาบ้าน
8.จากวันที่ 3/10/14-5/10/14 น้องก็ยังอาการปกติอยู่ จนมาวันที่ 6/10/14 คุณแม่กลับมาจากที่ทำงานเห็นน้องยังไม่ตื่นจึงไปจับตัว เหมือนลูกจะตัวร้อนมีไข้จึงปลุกลูกให้ตื่น และป้อนข้าวกินยากันชัก
และให้กินยาลดไข้ไป(2.5cc) และก็เช็ดตัวน้อง สักพักน้องเหมือนมีอาการนำคือ กระตุก 1 ครั้ง แล้วหายไป สักพักกระตุกอีก 2 ครั้ง แล้วน้องร้องไห้ อาการกระตุกหายไป จน 22.00 น.น้องก็นอนหลับ
และเวลา 23.23 น. น้องตื่นขึ้นมาแล้วร้องไห้ ร้องไม่หยุด คุณแม่ก็เลยจับเช็ดตัวเพราะตัวน้องร้อน และกำลังจะป้อนยา น้องก็มีอาการชักขึ้นมาโดยกระตุกและเกร็งแขนทั้ง 2 ข้าง คุณแม่ก็เลยจับน้องนอนตะแครง และสักพักน้ำลายก็ไหลออกมา คุณแม่จึงพาน้องไป รพ.ระหว่างไป รพ.น้องก็มีอาการคลายเป็นประมาณ 2 นาทีได้ค่ะ น้องก็เริ่มร้องออกมา คุณแม่ก็สบายใจขึ้นมา มาถึง รพ.ก็เข้ามาที่ห้องฉุกเฉิน บอกว่าน้องชักมาพยาบาลและคุณหมอก็มาดู และบอกให้เช็ดตัวเพราะว่าน้องตัวร้อน คุณแม่ก็เช็ดถูน้องสักพักไข้ก็ลด แต่ยังไม่ได้กินยาลดไข้รีบมาไม่ได้เอาอะไรมาเลย เช็ดตัวจนน้องหลับไป เวลา 02.00 น. หมอก็บอกว่าต้อง admit เจาะเลือดเหมือนเดิม ให้ยากันชัก และคุณแม่ก็เช็ดตัวไปด้วย
เวลา 03.00 น. น้องก็ชักซ้ำอีกเป็นเวลา 15 วินาที กระตุกเกร็งแขนเหมือนเดิม พยาบาลก็ดูกเสมหะ
ปรากฎว่าเยอะจำนวน 24cc คุณหมอถามว่าให้ลูกกินยาลดไข้ตอนกี่โมง ให้กินเท่าไร ก็บอกว่ากินตอน 20.30 น.ให้กิน 2.5cc หมอว่ากินน้อยไปน้ำหนัก 10.8 ต้องกิน 5cc แล้ว พยาบาลก็เลยให้กินยาลดไข้ด้วย แล้วก็เช็ดตัว จากนั้นน้องก็หลับไปไม่มีอาการชัก และ ไข้ก็ลดลง จนเช้า
9.วันที่ 7/10/14 ตอนเช้าน้องยังหลับมีไข้อ่อนๆ ก็กินยาแก้ไข้อีก คุณแม่ก็เช็ดตัวลูกเรื่อยๆ แล้วก็ให้ยากันชักอีก จนสายๆ เวลา 10.00 โมงกว่าๆ น้องกลับมีไข้แบบรุมๆ และชักอีกแต่ไม่นานก็คลาย จึงให้ยาแก้ไข และ ยากันชักอีก ดูเหมือนน้องจะไข้ขึ้นอีกทีนี้พยาบาลมาช่วยกันเช็ดตัวให้เอาน้ำอุ่นใส่กาละมังแล้วเอาเท้าน้องมาแช่ไว้ และเช็ดถูตัวน้องไปมาเพื่อให้คลายความร้อน สักพักก็ไข้ลด หมอจึงส่งตัวน้อยไปรักษาที่ รพ.ชลบุรีเลยโดยให้รถพยาบาลไปส่ง น้องมาถึง รพ.ชลบุรี 15.00 น.ทั้งแพทย์ พยาบาลก็มารุมถามอาการต่างๆของน้องจนปวดหัวไปหมด เวลา 17.00 น.พยาบาลก็มาเจาะเลือดที่เท้าน้อง และให้ยากันชักอีก คุณแม่ก็คอยเช็ดตัวน้องบ่อยๆ สักพักน้องก็งอแงหิวนมอีก สงสารมากเพราะกินไม่ได้ จึงใช้จุกนมอัดสำลีให้น้องดูดจึงจะไม่งอแง และหลับไป
10.หลังจากนั้นน้องก็มีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ หมอให้กินข้าวได้แล้ว ก็ไม่ค่อยงอแง สบายใจหน่อย หมอบอกว่ายาที่กินน้อยไป ให้เปลี่ยนมากิน 3 เวลา ยาตัวเดิม dilantin (07.00,15.00,20.00)
วันที่ 9/10/14 น้องก็กลับบ้านได้
11.ตั้งแต่วันที่ 9-11/10/14  น้องไม่มีอาการให้เห็นอีก จนมาวันที่ 12/10/14 พาน้องไปหัดเดินที่สวนสาธารณะ ปรากฎว่าน้องมีอาการชักแบบเหม่อนิ่งอีก คือคอหันไปทางซ้าย ตาลอย เรียกไม่ตอบ
แขนเกร็งเล็กน้อย คุณแม่จึงรีบไปที่รถแล้วจับน้องนอนตะแครงเหมือนเดิม ประมาณ 1 นาทีก็คลาย คุณแม่คิดว่าน่าจะเหนื่อยเกินไป และอากาศค่อนข้างอบอ้าว แต่เย็นวันนั้นน้องก็ไม่มีไข้และไม่ชักอีก
จนถึงวันที่ 16/10/14 น้องยังปกติดีอยู่ค่ะ


หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: NOP ที่ วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2014 เวลา 11:50 น.
แล้วอาการชักเป็นยังไงครับ ชักทั้งตัวหรือว่าชักเฉพาะส่วน 
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2014 เวลา 08:50 น.
ส่วนใหญ่อาการที่เป็นจะเกร็งที่แขนทั้ง 2 ข้างค่ะ
อาการนำคือกระตุก แล้วก็ชักเกร็งไม่กระตุกค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2014 เวลา 09:33 น.
16/10/14 น้องมีอาการชักอีกครั้ง เวลา 17.10 น. อาการมีการกระตุกนำ 3 ครั้งติดกันแล้วชัก โดยเกร็งทั้งแขนและขา ปากเริ่มเขียว เป็นประมาณ 2-3 นาที และคลายออก และพาน้องไป รพ. ระหว่างอยู่โรงพยาบาล พยาบาลเช็ดตัวให้ แต่น้องไม่มีไข้ ระหว่างเช็ดตัวน้องมีอาการหนาวเนื่องจากน้ำเย็น และห้องฉุกเฉินติดแอร์อากาศเย็น น้องมีอาการตาเหลือก นิ่ง เป็นเวลานิดเดียวแล้วก็หาย ตอนนี้ทาง รพ.สิริกิติ์ ได้ส่งต่อไป รพ.ชลบุรี แล้วค่ะ ซึ่งหมอได้เจาะเลือดเพื่อดูค่ายาว่าต่ำหรือไม่ หรือจะต้องปรับยาใหม่ค่ะ
-กลัวจังค่ะ ว่าจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานเท่าไร สงสารน้องมากค่ะ กินอะไรก็ไม่ได้ 
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: NONG ที่ วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2014 เวลา 09:51 น.
ได้ทำ eeg หรือยังคะ นอน รพ.ชลบุรี น่าจะทำ eeg ได้เลย นี่ผ่านมานานหลายวันแล้ว ถ้า รพ.ชลบุรีไม่ไกลมากแนะนำให้หาที่นี่เลย เพราะมีหมอเชี่ยวชาญด้านลมชักอยู่ ฟังที่เล่ามาน้องคงเป็นโรคลมชักแน่นอน เวลาไม่กี่วันชักหลายครั้งมากตอนนี้คงต้องดูแลใกล้ชิดยาทานอย่าให้ขาด จดอาการชักของน้องไว้รายงานหมอให้ครบด้วยนะคะ หวังว่าจะคุมชักได้โดยเร็ว
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2014 เวลา 10:17 น.
คุณน้อง ขอบคุณมากค่ะ ได้ทำการตรวจ EEG แล้วค่ะ แต่วันที่ตรวจคุณแม่ไม่อยู่ ป้าเฝ้าให้อยู่ ทั้งตัวป้าและคุณแม่เองก็ไม่มีความรู้เรื่องลมชัก วันนั้นป้าก็ไม่ได้ถามอะไรคุณหมอว่าเป็นลมชักแบบไหนกันแน่ค่ะ ตอนนี้น้องอยู่ รพ.คุณแม่คงต้องถามรายละเอียดให้มากแล้วละค่ะ ได้เข้ามาอ่านที่เวปลมชักคลับ ได้ความรู้มากมาย แต่ยิ่งอ่านก็ยิ่งเครียดเหมือนกันค่ะ ไม่รู้ว่าน้องจะเป็นเยอะขึ้นเรื่อยๆ หรือเปล่า กลุ้มมากค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: NONG ที่ วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม 2014 เวลา 15:37 น.
 อาการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราอ่านเรื่องราวของคนอื่นเพื่อให้รู้แนวทางการรักษา อาการของโรค เพื่อไว้ดูแลผู้ป่วยได้ดีขึ้น อย่าเพิ่งเครียดไปก่อน มีอะไรก็มาคุยกันได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2014 เวลา 09:23 น.
วันที่ 16-20/10/14 ตอนนี้น้องยังอยู่โรงพยาบาลอยู่ค่ะ
วันที่ 17/10/14 มีเภสัชกรเข้ามาถามพูดคุยเกี่ยวกับการรับประทานยา เพราะน้องกินยา Dilantin 50mg ยาเม็ดสีเหลือง 3 เหลี่ยม เวลา 07.00,15.00,20.00น. เภสัชกรบอกว่ายาที่ได้รับไม่ตรงทุก 8 ชั่วโมง ใครกำหนดให้ คุณแม่ก็บอกว่าที่ รพ.ชลบุรี เนี่ยแหละเพราะเพิ่งออกไปเอง เภสัชกรบอกไม่ได้ จึงต้องมีการปรับเวลาการให้ยาใหม่เป็น 06.00,14.00,22.00 และการให้ควรห่างจากการกินอาหารด้วยเนื่องจากยาจะถูกดูดซึมด้วยอาหาร ทำให้ได้รับยาไม่เพียงพอ

ตอนที่อยู่ รพ.น้องยังไม่มีอาการชักซ้ำค่ะ หมอแซวว่ามาอยู่ รพ.ไม่เห็นชักเลยสงสัยกลัวหมอ กลับบ้านไปไม่ต้องชักแล้วนะ ตอนนี้ยังไม่พบคุณหมอด้านระบบประสาทโดยตรงคุณแม่เลยยังไม่ได้ถามถึงอาการของน้อง ส่วนใหญ่เป็นหมอทั่วไปมาตรวจค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: NONG ที่ วันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2014 เวลา 10:11 น.
เภสัชว่างไม่มีงานทำรึเปล่านี่ เด็กทานยาเองรึเปล่าถ้าทานเองให้ 20 น. ก็ถือว่าโอเคจะได้ไม่นอนดึกไป ให้ยา 8 ชม.เป๊ะได้กรณี feed ยา ถ้าสามารถกระจายยาได้ 8 ชม ก็จะดีมาก แต่ถ้าติดขัดอย่างไรขยับหน้าหลังบ้างก็ไม่มีปัญหา ยาเลี่ยงอาหารให้ยาก่อนมื้ออาหารสัก 1 ชม หลังมื้ออาหาร2 ชม
อยู่ รพ หลายวันหมอระบบประสาทยังไม่มาดูเลยหรือคะ แล้วจะมาเมื่อไรนี่ จะได้ถามถึงแนวทางการรักษา สอบถามด้วยว่าน้องเป็นชักแบบไหนอย่างไร พยากรณ์โรคดีหรือไม่อย่างไร
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2014 เวลา 10:24 น.
ยังไม่มาดูเลยค่ะ เนื่องจากรอผลเลือด เจาะเลือดไปตรวจวันที่ 20/10/14 ตอนตี 5 ครึ่ง ยังไม่ทราบ
ผลเลยค่ะ ช้ามาก จนวันนี้ 21/10/14 เวลา 10.24 น. ผลยังไม่มาเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2014 เวลา 10:01 น.
วันที่ 22/10/14 ผลเลือดออกมาแล้วค่ะ หมอแจ้งว่าได้รับยา Dilantin มากแล้วยังคุมชักไม่ได้ จึงปรับเปลี่ยนยาให้ใหม่เป็น เดพากิน 200mg ทานทุก 12 ชั่วโมง ขนาด 0.50 ซีซี ทานเวลา 08.00,20.00 น. จนถึงวันที่ 24/10/14 น้องยังไม่มีอาการชักซ้ำค่ะ ส่วนผลข้างเคียงของยา ยังไม่มีอาการแสดงให้เห็นค่ะ และตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลยังไม่ได้พบคุณหมอเฉพาะทางเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: popja ที่ วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2014 เวลา 13:00 น.
ถ้า depakin คุมได้ดีไม่มีอาการ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีครับ
ไม่ต้องลองยาตัวอื่นอีก แต่คุณหมอเฉพาะทางยังไม่เจอเลยอันนี้ทำไมถึงนานจึงครับ
หรือว่าคุณหมอไม่อยู่หรือเปล่าครับ
ยังไงก็ขอให้น้องข้าวปุ้น ดีวันดีคืน ได้ออกจาก รพ.ไวๆนะครับ
อยู่บ้านจะฟื้นได้เร็วกว่าอยู่รพ พ่อแม่ก็จะได้พักผ่อนด้วยครับ  :)
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2014 เวลา 08:14 น.
ขอบคุณค่ะ คุณ POPJA

ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมคุณหมอไม่มาดูเลย หรือเป็นเพราะน้องไม่มีอาการตอนอยู่ รพ.
มีนัดกับคุณหมอวันที่ 6/11/14 จะถามให้ได้รายละเอียด อยากจะทราบเหมือนกันว่าน้องเป็นชนิดไหน และมีโอกาสหายหรือไม่  ถ้าทราบผลมาอย่างไรจะมาเล่าอาการให้อีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2014 เวลา 11:05 น.
พี่น้องค่ะ (ขอเรียกพี่น้องนะค่ะ)
ช่วยดูผลตรวจ EEG ให้หน่อยนะค่ะว่าเป็นคลื่นลมชักประเภทไหน อยากรู้ว่าเยอะหรือเปล่าค่ะ
และมีโอกาสหายหรือไม่ค่ะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2014 เวลา 10:26 น.
วันที่ 16/11/14 เวลา 07.30น.โดยประมาณ
น้องข้าวปุ้นมีอาการชักอีก เนื่องจากมีไข้ แต่เมื่อวันที่ 15/11/14 น้องไม่แสดงอาการมีไข้เลย จู่ๆ
เช้าวันที่ 16/11/14 น้องมีไอเล็กน้อย กับตัวร้อนนิดหน่อย ตอนนั้นคุณแม่เองยังไม่ได้ให้ยาลูกกิน
เลยพาเดินออกไปนอกบ้านก่อน อยู่ๆน้องก็มีอาการชักเกร็งแขนทั้ง 2 ข้าง ตาเหลือก เป็นอยู่ประมาณ
3 นาทีก็คลาย พอพาน้องไปรพ.พยาบาลวัดไข้ได้ 37.5 ซึ่งไม่ได้สูงแต่ทำไมชักได้แปลกจังค่ะ แต่
เวลา 21.30 น.พยาบาลมาวัดไข้อีกไข้ขึ้น 38.2 แต่ไม่มีอาการชัก

เพิ่งสังเกตุค่ะ เวลามีไข้สูงไม่ชัก แต่มีไข้ต่ำๆ หรือตัวรุมๆ ก็ทำให้ชักได้แล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้เวลาน้องมีไขจะต้องทำอย่างไรได้บ้างมั้ยค่ะ

หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: Thanks-Epi ที่ วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2014 เวลา 18:54 น.
ต่ายตอบแบบไม่ค่อยมีความรู้ลมชักในเด็กนะค่ะ ชักเล็กคุณแม่ต้องสังเกตุด้วยนะค่ะ ชักเฉพาะส่วน ฯลฯ
แสดงว่า เด็กไม่ได้ชักจากไข้เท่านั้น ตัวกระตุ้นอื่นๆ ก็มีผลได้ค่ะ ลมชักเอาแน่ไม่ได้ค่ะ
อย่างต่ายหมอบอกว่า น่าจะชัก (แต่ไม่รู้ตัว) แต่ก็ไม่ชักค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: NONG ที่ วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2014 เวลา 23:45 น.
ก็มีไข้กระตุ้นนั่นล่ะค่ะ แต่ไข้ต่ำๆก็ชักแล้วต่อไปอาจชักได้โดยไม่มีไข้ เหมือนจั้ม ลูกคุณเจน ทำได้ก็คือพยามยามให้แข็งแรง อย่าป่วย อย่าอยู่ใกล้คนป่วย ออกกำลังกายเบาๆสม่ำเสมอ

แล้วทำ eeg คราวที่แล้วหมออ่านว่าอย่างไรบ้างคะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน 2014 เวลา 08:22 น.
ตอนนี้น้องก็ยังมีไขขึ้นๆลงๆอยู่ค่ะ ต้องคอยเช็ดตัวตลอด และให้ยาแก้ไข้ทุก 4 ชั่วโมงเลยค่ะ
ผล eeg คุณหมอบอกว่ามีความผิดปกติของสมองด้านซีกขวา ไม่รุนแรง มีโอกาสหายกินยา
ต่อเนื่อง 2 ปี แต่ให้ระวังเรื่องการมีไข้ สำหรับชนิดที่เป็นถามคุณหมอแล้ว คุณหมอบอกว่าก็มี
คลื่นชักนั่นแหละ ไม่บอกว่าเป็นชนิดไหน คุณแม่ก็เลยไม่ถามคุณหมอต่อ เหมือนไม่เต็มใจตอบ
หรือเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ และวันนั้นก็มีคนไข้เยอะมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2015 เวลา 10:18 น.
วันที่ 30/1/58 น้องข้าวปุ้นมีอาการชักอีกครั้ง ไม่มีไข้ (ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 แล้ว นับตั้งแต่ชักมาทั้งหมดค่ะ) หลังจากไม่ได้ชักมาเป็นเวลา 2 เดือน/13 วัน อาการคือ ชักแบบนิ่ง คอเอียงไปทางซ้าย ตาลอยนิดนึง มือ 2 ข้างเกร็งเล็กน้อย ไม่กระตุก มือและปากเขียวนิดหน่อย เป็นประมาณ 2 นาที ก็คลายและเริ่มรู้สึกตัว และน้องก็หลับไป แต่คุณแม่ไม่ได้พาไปหาหมอค่ะ ดูอาการไม่มีการชักซ้ำ ไม่มีไข้ ใกล้ถึงเวลาที่หมอนัดวันที่ 12/2/58 คุณแม่ว่าจะพาน้องไปก่อนค่ะ เผื่อว่าจะมีอาการกลับมาอีก ตอนนี้น้องทานยาเดพากินค่ะ 2 เวลา เช้า-เย็น เวลา 08.00น. กับ 20.00น.ทาน 0.5 ซีซี ตอนนี้น้องน้ำหนัก 12.5 กก.ไม่ทราบว่าน้ำหนัก กับ ยา จะได้ขนาดกันหรือเปล่าค่ะ

เมื่อวันที่ 26/12/57 น้องเพิ่งไปตรวจค่าตับมา ก็ปกติดีค่ะ คุณแม่เริ่มกังวลอีกครั้งแล้วค่ะ

 
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: NONG ที่ วันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2015 เวลา 11:37 น.
เด็กลมชักมีชักบ้างเป็นเรื่องปกติค่ะ ชักไม่รุนแรง ก็จดรายละเอียดไว้บอกหมอ ทานเดพากินสามารถตรวจปริมาณยาในเลือดได้ว่าอยู่ในระดับคุมชักได้หรือไม่ เราใช้ตรวจดูค่ะ รพ.เอกชนตรวจประมาณ 1-1.5 ชม. ก็รู้ผลแล้ว
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2015 เวลา 13:26 น.
ขอบคุณพี่น้องมากๆค่ะ ที่ให้ความรู้ ความเข้าใจเสมอมา

ตอนนี้น้องก็รักษาอยู่ที่รพ.ชลบุรี ค่ะ คุณหมอศิริพรเป็นหมอที่ดูแลอยู่ คุณแม่จะถามหมอดูก่อนค่ะว่ายาได้ขนาดหรือไม่
ถ้าไม่ชัดเจนค่อยไปตรวจของเอกชนดูค่ะ เร็วด้วย

ครั้งก่อนที่เข้า รพ.ชลบุรี น้องก็โดนเจาะเลือดไปตรวจหาค่ายา ตอนนั้นน้องทานไดแลนตินอยู่ ทางรพ.ตรวจนานมากกว่าจะรู้ผลใช้เวลา 3-4 วัน ปรากฎว่าค่ายาเยอะแล้วแต่คุมชักไม่ได้ เลยต้องเปลี่ยนมาเป็นยาเดพากินแทนค่ะ

คุณแม่เองก็อยากพาลูกไปรักษาที่รพ.เอกชนค่ะ แต่สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว คืออาศัยว่าไปตรวจดูบางรายการค่ะ แต่ยังไงก็จะรักษา และดูแลลูกให้ดีที่สุดค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2015 เวลา 14:09 น.
พี่น้องค่ะ จะรบกวนสอบถามค่ะ ว่าถ้าลูกท้องผูกจะมีผลต่ออาการชักหรือไม่ค่ะ
เนื่องจากตอนนี้เปลี่ยนนมให้น้องค่ะ มีท้องผูกบ้างแต่ไม่บ่อย แต่ก็ไม่อยากให้ท้องผูกค่ะเวลาน้องเบ่งน่าสงสารค่ะ
แอบกังวลค่ะกลัวว่าเวลาเบ่งไม่ออกแล้วต้องเบ่งแรงๆกลัวเขาจะชักค่ะ ตอนนี้ก็ให้น้องกินผัก ผลไม้เยอะค่ะ แต่น้องกินน้ำน้อยค่ะ พยายามให้กินน้ำเยอะๆอยู่ค่ะ
 
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: popja ที่ วันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2015 เวลา 22:58 น.
เป็นกำลังใจให้คุณแม่น้องข้าวปุ้นนะครับ
ขอให้ทุกอย่างราบรื่นไปในทางที่ดีครับ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: Thanks-Epi ที่ วันอาทิตย์ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2015 เวลา 10:27 น.
คุณแม่เองก็อยากพาลูกไปรักษาที่รพ.เอกชนค่ะ แต่สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว คืออาศัยว่าไปตรวจดูบางรายการค่ะ แต่ยังไงก็จะรักษา และดูแลลูกให้ดีที่สุดค่ะ

ในนี้มีนะค่ะ คุยเอกชน แต่ไป รพ.รัฐซื้อยา ตรวจบางรายการเพราะเครื่องมือรัฐไม่ค่อยดีจริงๆ  ไม่ก็ซื้อยาข้างนอก
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: NONG ที่ วันอาทิตย์ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2015 เวลา 16:28 น.
ตรวจหมอศิริพร ดีแล้วค่ะ แต่ต้องทำใจหน่อยเรื่องเวลา จำได้ว่าหมอมีคลีนิคนอก รพ. ด้วยนะคะ อยู่แถบนั้นใช่ว่า รพ. เอกชนจะตรวจเดพากินได้ทุก รพ. อาจต้องรอเหมือนกัน ขนาด รพ.รัฐ ในกทม บางแห่งยังต้องส่งตรวจนอก รพ. ทำให้ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะรู้ผล

เรื่องท้องผูกนี่ไม่แน่ใจนะคะ แต่ถ้าระบบร่างกายดี ก็น่าจะดีกว่านะคะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันจันทร์ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2015 เวลา 10:33 น.
คุณแม่น้องข้าวปุ้น  ต้องขอขอบคุณทั้ง 3 ท่านเลยค่ะ (คุณpopja,คุณต่ายThanks-Epi,พี่น้อง)
ที่ให้ความกระจ่าง คุณแม่จะได้เลิกกังวลบ้างค่ะ ตอนนี้น้องแข็งแรงดี พัฒนาการดี การกินอาหารดี(กินเก่งทั้งข้าวและนม) หมอเด็กบอกว่าน้องมีน้ำหนักและส่วนสูงเท่ากับเด็ก 2 ขวบค่ะ ตัวใหญ่  ;D

 
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2015 เวลา 15:29 น.
หลังจากน้องชักวันที่ 30/1/58
คุณหมอนัดตรวจ 12/2/58 ก็เล่าอาการให้คุณหมอฟังที่น้องเป็นทั้ง 2 ครั้ง คุณหมอก็บอกว่าอาจจะเป็นที่น้ำหนักขึ้นจึงเพิ่มปริมาณยาเดพากิ้นให้เป็น 0.75 ซีซี เช้า-เย็น

**เมื่อวันที่ 4/3/58 เวลา 18.06 น. น้องมีอาการอีกครั้ง เป็นแบบเหม่อนิ่ง คอหันไปทางซ้าย ตาเหลือกเล็กน้อย ไม่เกร็ง ไม่กระตุก เรียกยังรู้สึกตัวบ้าง แต่ขยับไม่ได้ น้ำลายไหลนิดหน่อย เป็นเวลา 5 นาที จึงรู้สึกตัวและนอนหลับไป ตื่นขึ้นมายังมีอาการเพลีย แต่ไม่มีการชักซ้ำ และไม่ได้พาไปหาหมอ
สาเหตุ น่าจะมาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากน้องง่วงแล้วไม่ยอมนอน และตอนกลางวันก็นอนไป 1 ชม.
        สังเกตุหลายครั้งแล้วว่าถ้านอนน้อยจะมีอาการค่ะ

**เมื่อวันที่ 19/3/58 น้องมีอาการชักอีกครั้ง เวลา 17.30 น. เนื่องจากน้องตาอักเสบ และ มีไข้ 37.2 จึงพาไปหาหมอที่คลีนิค หมอก็ให้ยามาให้เรียบร้อย และคุณแม่กำลังจะให้ยาแก้ไข้ น้องเริ่มมีอาการ คือส่ายหัวไปมา และ ตาเหลือกขึ้นบน เริ่มเหม่อนิ่งไปเรียกไม่ตอบ คุณแม่เลยพาน้องเข้าคลีนิคหมอเพื่อให้ออกซิเจน น้องมีอาการ 2 นาที จึงรู้สึกตัว หมอที่ไปหาที่คลีนิคเคยรักษาตอนเป็นครั้งแรก หมอให้คำปรึกษาดีมากค่ะ หมอจึงบอกว่ากลับไปให้รีบกินยากันชัก และไปตรวจระดับยาที่ ร.พ.สิริกิตต์(หมอประจำอยู่ที่นี่ค่ะ) คุณแม่จึงพาน้องกลับบ้านและให้กินยากันชัก และเช็ดตัวให้น้อง เก็บของเพื่อไป ร.พ.เจาะเลือด ลูกนอน ร.พ. 2 คืนหมอดูอาการไม่มีชักซ้ำ ไม่มีไข้ ให้กลับบ้านได้และรอผล 1 อาทิตย์ ส่วนการเจาะเลือดหาผลอื่นก็ปกติทุกอย่าง แต่พอกลับมาบ้านได้แค่ 1 วันน้องก็มีอาการอีก

**เมื่อวันที่ 22/3/58 วันนั้นน้องให้อุ้มทั้งวันคุณแม่เมื่อยมากๆ ค่ะ พอตอน 18.51 น.น้องก็ร้องให้อุ้มอีก คุณแม่ก็อุ้มขึ้นมาปรากฎว่าน้องมีอาการชัก คราวนี้ชักแบบเกร็ง กระตุกแรงมากด้วยค่ะ ปากเขียว น้ำลายไหล เป็นเวลา 2 นาที พอรู้สึกตัวน้องกลับมีอาการสั่น คุณแม่จีงรีบพาไป ร.พ.ระหว่างเดินทางคุณแม่วัดไข้ได้ 37 กว่า แต่ทำไมลูกตัวไม่ร้อนเลยคุณแม่อุ้มทั้งวัน ไม่คิดว่าลูกจะมีไข้ขึ้นเลย พึ่งออกจาก ร.พ.แท้ๆ พอไปถึง ร.พ.วัดไข้ได้ 38 กว่า ตกใจมากพยาบาลจึงนำผ้ามาเช็ดตัวให้และให้คุณแม่ออกมาข้างนอก เพราะพยาบาลจะต้องเจาะเลือกอีก แต่น้องก็ชักซ้ำอีก พยาบาลเลยต้องช่วยน้องก่อน พอรู้สึกตัว ก็พาน้องไปที่อีกตึกนึง เพื่อเจาะเลือด และนอนที่ตึกนี้ น้องก็มีไข้ขึ้นๆลงอยู่แต่ไม่มาก อยู่ ร.พ. 2 คืน ก็ออก ผลเจาะเลือดก็ปกติดีหมด กินได้ นอนได้ พัฒนาการปกติดีค่ะ

**แต่เห็นหมอที่ตรวจน้องประจำบอกว่าปริมาณยาที่ให้กับน้ำหนักตัว (ปริมาณยาที่กินน้อยไปค่ะ) น้องหนัก 12.5 กก. และผลวัดระดับยาออกมาแล้วค่ะ วันที่ 2/4/58 จะให้หมอศิริพรที่ชลบุรีดูให้อีกครั้งค่ะ

**ตอนนี้หมอให้กินยา เดพากิ้น 1 ซีซี เช้า-เย็นค่ะ**       
**ผลตรวจเลือกวัดระดับออกมาแล้วค่ะ

**
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2015 เวลา 15:38 น.
แต่คุณหมอที่คุณแม่พาน้องไปรักษาประจำ บอกว่ายาคงไม่ได้ผลหรือเปล่า เพราะดูเหมือนยังคุมชักไม่ได้ ให้รีบไปปรึกษาคุณหมอศิริพรด่วนเลยค่ะ และให้เอาผลวัดระดับยาไปให้คุณหมอดูด้วย หรือคุณหมอจะต้องปรับเปลี่ยนยาใหม่หรือเปล่า กรณีแบบนี้ใครพอมีประสบการณ์บ้างมั้ยค่ะ คุณแม่ชักไม่แน่ใจว่าเป็นที่ยา หรือ เป็นที่ตัวกระตุ้นที่ทำให้ชักได้สับสนค่ะ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: apantri choomkote ที่ วันพุธที่ 01 เมษายน 2015 เวลา 17:11 น.
ปิ๊งป่อง...เป็นงัยบ้างน้อ ข้าวปุ้น ข้าวปุ้น ตอบ ตอบแนเด้อ
หัวข้อ: Re: น้องข้าวปุ้นเป็นโรคลมชัก
เริ่มหัวข้อโดย: น้องข้าวปุ้น ที่ วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2015 เวลา 11:13 น.
วันที่ 2/4/58
- คุณแม่พาน้องไปพบคุณหมอก่อนหมอนัดค่ะ โดยเอาผลตรวจวัดระดับยาไปด้วย
  แค่คุณหมอดูก็ถามว่าเจาะเลือดตอนไหน คุณแม่บอกว่าหลังจากกินยา คุณหมอ
  บอกว่าไม่ได้ผลต้องตรวจก่อนกินยา ทำให้ผลวัดระดับสูงมาก ต้องไปเจาะตรวจ
  ใหม่ คุณแม่ยังไม่ได้ไปเจาะใหม่ค่ะ คุณหมอบอกว่าถ้ามีไข้ พักผ่อนไม่เพียงพอ
  เป็นอาการปกติค่ะ ชักได้ ถือว่าไม่รุนแรง และ พยายามอย่าให้มีไข้ พักผ่อนให้
  เพียงพอ
- คุณหมอถามว่าไม่สะบายกินยาลดน้ำมูกหรือไม่ คุณแม่บอกว่าไม่ได้กินค่ะ มีไข้
  แต่ไม่มีน้ำมูก หมอบอกว่าดีแล้วเพราะยาลดน้ำมูกแก้แพ้นั้นมีผลต่อยากันชักค่ะ
  คุณแม่ก็เพิ่งรู้นะค่ะเนี่ยได้ความรู้ใหม่ เพราะมีอยู่ครั้งนึงให้ลูกกินยาลดน้ำมูกแก้แพ้
  เหมือนกันเนื่องจากอากาศเย็นแล้วมีน้ำมูกไหลอยู่ 2-3 วันก็เลยให้กินยา แล้ว
  น้ำมูกก็หายไปแต่ไม่มีไข้ค่ะ
- ตอนนี้น้องทานเดพากิ้น 1 ซีซี เช้า-เย็น ค่ะ สงสัยทานยาเยอะขึ้นเริ่มมีอาการเดิน
   เซๆ แล้วหกล้มเองบ่อยขึ้นค่ะ