เมื่อวันที่ 23/4/2014 น้องวิน มีอาการตาลอย แขนขาเกร็ง ผิดปกติจากที่เป็นอยู่จึงรีบนำส่ง รพ.CGH ไม่มีไข้ หมอจึงฉีดยาให้หยุดชัก จากนั้นดูอาการที่ ICU มีการตรวจเลือดดูระดับน้ำตาลในเลือด(ปกติ),CT Scan(ปกติ), เจาะไขสันหลัง(ปกติ),EEG(พบคลื่นผิดปกติที่สมองฝั่งทัดหูด้านขวา) หมอให้กินยาแก้ชักชื่อ phenobarb วันที่ 24/4/2014 ออกจาก รพ. ทานยาตามแพทย์สั่งครึ่งเม็ดเช้า-เย็น มีนัดพบแพทย์วันที่ 3/5/2014 อาการยังปกติทุกอย่างหลังออกจาก รพ. จนเมื่อวันที่ 5/5/2014 น้องวินมีอาการเกร็งขึ้นมาอีก 1 ครั้ง ตอนเวลาประมาณ 15.00 น. และวันที่ 6/5/2014 เวลา 7.00 น. จึงพาน้องไปพบแพทย์ที่ รพ. ภูมิพล (หมอเจ้าของไข้คนเดียวกับ รพ. CGH) ตอนที่พบแพทย์ก็ยังมีอาการชักเกร็ง แพทย์สั่งให้เพิ่มปริมาณการกินยาจากเดิมครึ่งเม็ดเช้าเย็นเป็นกินทุก 8 ชม. และกลับมาบ้าน ยังคงมีอาการชักเกร็ง เย็นวันเดียวกันจึงพาน้องวินไปพบแพทย์ที่ รพ.เด็ก แพทย์เจาะเลือดดูปริมาณยา และสั่งให้เปลี่ยนจากกินครึ่งเม็ดทุก 8 ชม. เป็น 1 เม็ดเช้า ครึ่งเม็ดเย็น (วิธีการป้อนยาคือละลายน้ำหวานใส่สริ้งฉีดใส่ปาก) ระหว่างนั้นยังคงชักเกร็งเรื่อยๆ ประมาณทุก 3-4 ชม. หมอที่ รพ.ให้กินยา 1 เม็ดก่อนกลับบ้าน และสั่งให้รักษากับหมอคนเดิมที่ รพ.ภูมิพล วันที่ 7/5/2014 อาการชักเกร็งยังคงมีต่อเนื่องและถี่ขึ้นกว่าเดิม จึงพาไปพบแพทย์อีกครั้งที่ รพ.ภูมิพล แพทย์แจ้งว่าระดับยาที่เพิ่มอาจยังไม่ได้ระดับให้รอดูผลประมาณ 1 สัปดาห์
