Forum > การรักษาทางเลือก

ชีวะโมเลกุล กับประสบการณ์น้ำตาตก ภายใน 14 วัน

(1/2) > >>

Thanks-Epi:
        ลูกต่ายเป็นสมาธิสั้นชนิดไฮเปอร์(อาการ ยุกยิกอยู่ไม่นิ่ง เล่นเสียงดัง นอนกินไม่นอน ดื้อ แต่ไม่ก้าวร้าว) และเป็นสมาชิกของเวปสมาธิสั้น
ตั้งแต่เริ่มทานยามาประมาณ 5 เดือน หมอประเมินยาลดยาสมาธิสั้น( Ritarin) ให้ลูกต่ายได้แล้ว (เฉพาะวันหยุด ) เพราในบ้านสิ่งเร้าจะน้อย ก็คือ อาการเขาดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว

ผลที่ได้รับ

-ไม่ดื้อ ฟังคำสั่งครั้งเดียว สามารถช่วยเหลืองานบ้านได้/ รับผิดขอบการเรียนได้ด้วยตัวเอง (ยกเว้นในวิชาเลข) ไม่ต้องประกบตัวตลอดเวลา
-เล่นของเล่นแบบใช้สมาธิได้ / ฝึกตามกำหนดได้
-ยาที่หมอประเมินให้ตอนแรก (ขนาด 3/4 เม็ด ทุก ชม. 4 ชม.  ) ทำให้ซึมมากไป เวลาอยู่ในบ้าน ปากหนักไม่พูด  หมอจึงอนุญาตให้ลดยาช่วงอยู่ในบ้านได้

มีจม.ติดต่อมา



เจ้าของเวปแนะนำว่า ให้ลองไปฟังแล้วรักษาฟรีดู ถ้าไม่ดี ก็ไม่เสียอะไร /ถ้าดีก็น่าจะลอง ไปรับยาฟรีได้ 6เดือน


Thanks-Epi:
-ต่ายให้เริ่มหยอดยาวันที่ 4 ตุลาคม เริ่มสังเกตให้ความผิดปกติของคืนวันที่ 10 ตุลาคม คือ ลูกยุกยิกก่อนที่จะนอน /แต่รู้สึกว่า เขาเสียงดังขึ้น (ไม่คิดอะไร คิดว่าเขาสนุกกับช่วงปิดเทอม)
ส่วนอาการอื่น ๆ สังเกตไม่ค่อยได้ เพราะ ภายในบ้าน การซนจะสังเกตได้ยาก(ไม่ค่อยมีสิ่งเร้า)
 
-อาการยุกยิกก่อนนอนเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ (ไม่เคยเป็นเลยตั้งแต่ไปหาหมอรักษาสมาธิสั้น)
อาการที่เปลี่ยนไป   ซึ่งต่ายต้องปรับยาสมาธิสั้นให้เท่ากับปริมาณเดิมที่หมอเคยให้ไว้
 ( ทานยาหมออยู่ ขนาด 3/4 เม็ด   ทุก 4 ชม.)

-ไม่ทำการบ้านปิดเทอม ดื้อไม่สวดมนต์ ไม่ฝึก

-เล่นของเล่นชนิดต้องใช้สมาธิไม่ได้เลย และบ่นว่ายากไป

-ฝึกได้แค่speech  ต่อล้อต่อเถียง

-ดื้อไม่ช่วยงานบ้าน เล่นบนที่นอนมากขึ้น เสียงดังขึ้นทุกวันๆ ก่อนหยุดยาหยอด แรงถึงกับถีบกำแพง จนต่ายต้องเดินหนีออกมาสงบสติอารมณ์เพราะห้ามไม่อยู่

-คุมอาการซนไม่ได้ เวลาอยู่นอกบ้าน (เหมือนไม่ได้รับประทานยา) และได้รับอุบัติเหตุตอนที่ต่ายหันไปซื้อเสื้อ เพียงเวลาซักครู่เดียว
 
-เล่นของเล่น/ถีบจักรยาน ลูกจะส่งเสียงเชียร์ ดังมาก

-ยาสมาธิสั้นหมดฤทธิ์เร็วกว่าปกติก่อน 4 ชม. ในช่วง แล้วค่อยๆน้อยลงทุกวัน  จนแทบคุมอาการซนไม่ได้

-เมื่อถึง 3 ชม.หลังจากกินยา(ภายในบ้าน)   ลูกจะส่งเสียงดังมากทันที ซึ่งอาการดังกล่าว ได้ดีขึ้นแล้ว (หมอจะประเมินลดยาให้) เพราะเด็กมีอาการของตัวโรคลดลง การหมดฤทธิ์ของยา ไม่ทำให้เกิดความแตกต่างชัดเจน

-อาการส่งเสียงดัง เสียงเชียร์เวลาเล่น เวลาดูทีวี    ลูกต่ายไม่มีนานแล้วค่ะ ประมาณ 9 เดือน ตั้งแต่รับยาตัวแรก Rispadal (ไม่ใช่ยาสมาธิสั้น เป็นแค่ยังปรับอารมณ์ ให้คงที่)

-วันที่18 เพื่อนโทรมาบอกว่า "พี่ ลูกเขากัดเขาด้วย และมีอาการตาขวาง ฯลฯ " อีกหลายอย่างที่เขาเริ่มสังเกตุหลังจากที่ต่ายบอกว่า ลูกต่ายซนขึ้น ลูกเพื่อนก็เริ่มมีอาการหลายอย่างที่ไม่เคยเป็น เลยคุยกัน ตัดสินใจหยุดหยอดยาเมื้อต่อไปทันที

Thanks-Epi:
ต่ายเขียนประสบการณ์นี้ขึ้น เพราะไม่คิดว่า เหตุการณ์จะแย่ขนาดนี้ ลูกต่ายมีสมาธิขึ้นซนน้อยลงแล้ว หมอประเมินยาให้เริ่มลดลงได้แล้ว   แต่ต่ายให้เขากินอะไรไม่รู้ เพียงไม่กี่วัน ทำให้ลูกต่ายลูกเพื่อน เปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ ข้างในเป็นอะไร ทำไมต้านหรือมีผลอะไรกับสารเคมีในสมอง ที่ทำให้อาการที่เริ่มดีขึ้น กลับแย่ลง ถ้าเป็นแพทย์ปัจจุบัน ต่ายคงรีบไปพบหมอแล้วรายงานผล แต่ที่นี่ ต่ายไปอีกครั้ง และบอกว่า ลูกยังไม่ดีขึ้น และดูเหมือนจะซนขึ้นนิดนึง ทางหมอไม่สนใจเท่าไหร่   และยังเชียร์ให้ซื้อ บอกว่า ช่วยได้นะ หากยากิน กินแล้วไม่ได้ผล บอกว่า ได้โปรดซื้อเถอะ เชื่อผม ดีจริงๆ

Thanks-Epi:
ต่ายคุยกับคนในนั้น ที่รักษากันเป็นแสน บอกว่า ดี แต่ตอบต่ายไม่ได้ว่า ดีอย่างไร ดียังไง


จากนั้นเพื่อนต่ายโทรไปหา คนอื่นๆ ได้ความว่า มีเพียง 1 คนเท่านั้นที่อาการดีขึ้น ส่วนอีกคน อาการก็แย่ลงมาก (ส่วนคนอื่นๆยังติดต่อไม่ได้ )
ต่าย ลองสอบถาม เพื่อนที่บอกว่า ลูกอาการดีขึ้น ตอบต่ายไม่ชัดเจนว่า ดีอย่างไร ตีตรงไหน แค่ตอบสั้นๆว่า "อารมณ์ดีขึ้น "    (อาการของโรคสามารถสังเกตได้จากอาการเล็กๆน้อยๆค่ะ ถ้าตั้งใจสังเกตกันจริงๆ และอาศัยการดูนาฬิกาตลอด) 

ระหว่างเวลาผ่านไป 6 วันที่หยุดชีวะโมเลกุล

-บางวันอาการ เป็นแบบ สวิง    ดีขึ้น บางครั้งซึม  ไม่ก็ ไปเลวลงอีก

-ยาช่วงบ่ายๆ เหมือนได้ผลน้อยลง   (ผิดหลักการแพทย์ค่ะ ที่ถูกต้องคือ หลังจากยาเม็ดแรกไป ยาสามารถลดลงได้ หรือ บางคนไม่ต้องกินในมื้อเย็นก็มี หากนอนหลับได้)  เพราะ ยาช่วงเช้ายังอยุ่ในกระแสเลือด

Thanks-Epi:
โปรดใช้การรักษาทางเลือกโดยรอบคอบ และอย่าคิดว่า

-อย่ารักษาลูกเพราะเกรงใจคนอื่น หรือ คำด่าของคนอื่น (แรกๆต่ายไม่เคยคิดจะไปค่ะ แต่แสบหูมากกับคำตะคอก ว่าเราไม่รักลูก ไม่ขนขวาย ฯลฯ ทนฟังอยู่ ครี่งชม.) 

-คนอื่นๆ ยังบอกว่า ดี แต่อาจจะใช้ไม่ได้ผลกับลูกเรา แม้คนๆนั้น จะสนิทกับเราแค่ไหน หรือหวังดีก็ตาม
 
-อย่าคิดว่า ถ้าไม่มีผลอะไร ก็อาการเท่าเดิม เลิกไปก็ไม่น่าจะเป็นอะไร

-อย่าเห็นแก่ของฟรีค่ะ

เพราะสุดท้าย  ไม่มีใครรับผิดชอบ  เพราะตัวเราต่างหากที่สมัครใจเอง

ต่ายเชื่อว่า เจ้าของเวปใจดี หวังดีมากๆ ในการรักษาครั้งนี้ เพื่อเด็กและพ่อแม่ทุกคน แต่ทางชีวะโมเลกุล ไม่ชัดเจน ทำไมไม่บอกว่า อาจจะมีอาการอื่นประกอบได้   เพื่อให้สังเกตแล้วมารายงานแพทย์ แต่กลับเชียร์ให้ซื้อของเขาเพิ่มอีก และยังไม่มีการจดบันทีกอาการเด็กเพื่อเป็นประวัติด้วย

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version