เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า

เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า 

 

ผู้เขียน หัวข้อ: แชร์ประสบการณ์ของน้องพิงค์ค่ะ  (อ่าน 1544 ครั้ง)

ออฟไลน์ Pinkkypiggy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 1
แชร์ประสบการณ์ของน้องพิงค์ค่ะ
« เมื่อ: วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2013 เวลา 15:57 น. »
สวัสดีค่ะ เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของคลับนี้ไม่นานนี้ค่ะ อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ชักของน้องพิงค์ เผื่อน้องพิงค์ตอนนี้อายุ 10 เดือนครึ่งค่ะ เมื่อวันที่ 9 ตอนสองทุ่มคุณพ่อกำลังอุ้มน้องอยู่ดีๆ น้องก็มีอาการนิ่งไปค่ะ ยังลืมตาแต่ดูเหมือนไม่มีสติ เรียกก็ไม่หันขยับตัวไม่ได้ ตาน้องก็ดูเหม่อๆ ค่ะ โดยมีอาการอยู่ประมาณ 4-5 นาที (เหมือนจะมีอาการสั่นเล็กๆ) แล้วก็กลับมาเป็นปกติ ที่บ้านก็เลยพาไปหาคุณหมอที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง แต่คุณหมอเห็นว่าไม่มีอาการผิดปกติเลยให้กลับบ้านได้ค่ะ แต่ตอน 23.30 น.(น้องหลับไปตั้งแต่สี่ทุ่ม) อยู่ดีๆ น้องก็ร้องหวีดเสียงดังขึ้นมาแล้วก็มีอาการตาค้าง ปากค้าง มือกับขามีอาการกระตุก หลังจากนั้นตาก็กระพริบปริบๆ น้องชักอยู่ประมาณ 1-2 นาทีได้ค่ะ สักพักอาการสงบก็มีน้ำลายไหลออกมาเล็กน้อย แล้วน้องก็เพลียหลับไป คุณแม่ก็เลยพาไป รพ.อีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้คุณหมอให้ admit เลยค่ะ และเนื่องจากว่าน้องไม่มีไข้คุณหมอคาดว่าคงต้องทำการเจาะน้ำไขสันหลังแต่คุณแม่เห็นว่าดึกแล้วและอยากรอพบหมอประจำก่อนเลยยังไม่ให้ทำค่ะ แต่พอตอน 06.00 น.น้องก็ชักอีกรอบค่ะ ครั้งนี้ชักเหมือนกับตอนห้าทุ่มค่ะ แต่ว่าไม่รุนแรงเท่า ชักประมาณไม่ถึง 1 นาทีค่ะ ตอนเช้าก็มีหมอประสาทเข้ามาและแจ้งว่าอยากให้น้องทำ MRI สแกนคลื่นสมอง และเจาะน้ำไขสันหลัง หลังจากทำเทสต์ทั้งหมดแล้ว ผล MRI,น้ำไขสันหลัง ไม่มีสิ่งผิดปกติ และคลื่นสมองที่เห็นก็เจอแต่คลื่นหลับและแสดงออกมาในลักษณะปกติ ดังนั้นคุณหมอเลยคิดว่าน้องน่าจะมีเป็นโรคลมชัก เพราะมีอาการชักซ้ำ (แต่ผลสแกนคลื่นสมองไม่พบคลื่นที่ผิดปกติ ซึ่งหมอแจ้งว่า 70% ของคนที่เป็นลมชักจะพบคลื่นสมองที่ผิดปกติ และ 30%คลื่นสมองจะแสดงภาพปกติ แต่จริงๆแล้วมีความผิดปกติเกิดขึ้น ซึ่งน้องพิงค์น่าจะเข้าเคสหลังค่ะ)

หลังจากนอน รพ.อยู่ 4 วัน (รวมสังเกตุอาการใน ICU) คุณหมอก็ให้กลับบ้านได้ค่ะ โดยสั่งยา dilantin ให้น้องกินที่ 3 ml. ซึ่งคุณหมอนัดให้มาเจาะเลือดเพื่อตรวจค่าตับและยาว่ามีอยู่เพียงพอในกระแสเลือดหรือเปล่า หลังจากน้องทานยาไปได้ 1 สัปดาห์น้องก็มีอาการปกติค่ะ แต่คุณแม่รู้สึกว่าน้องเหมือนจะมีผื่นขึ้นเป็นเม็ดๆ เหมือนอาการแพ้ เลยคิดว่าน้องน่าจะแพ้ยาค่ะ แต่ได้โทรสอบถามเภสัชห้องยา เค้าก็บอกว่าถ้าไม่มีอาการอย่างอื่นประกอบ เช่น หายใจติดขัด ก็ให้เฝ้าสังเกตุอาการไปก่อน ถ้ารู้สึกว่าอาการไม่ค่อยดีให้มาพอหมอ อย่าหยุดยาเอง

หลังจากครบกำหนดเวลา 1 สัปดาห์ ตอนสี่ทุ่ม (ซึ่งน้องพิงค์หลับไปตั้งแต่สองทุ่มครึ่ง) อยู่ดีๆ น้องก็ลุกขึ้นมานั่งเฉยๆ คุณแม่เห็นท่าไม่ดีเลยเปิดไฟ จึงพบว่าน้องนั่งลืมตานิ่งๆ อยู่ไม่ขยับตัว ตอนนั้นรู้เลยค่ะว่าคงมีอาการชักเหม่อแน่เลย เลยจับนอนราบแล้วก็ให้หน้าตะแคงไว้เผื่อจะมีน้ำลายไหลออกมา แต่ครั้งนี้คุณแม่รู้สึกว่าน้องมีสติแต่ไม่สามารถขยับตัวได้ค่ะ เพราะแววตาก็ดูสดในกว่าชักเหม่อครั้งแรกที่เป็น แล้วน้องพิงค์ก็มีอาการเหมือนคนสั่นเวลาอาการเย็นค่ะ แต่สั่นเล็กน้อย อาการนี้เป็นอยู่ประมาณ 1-2 นาทีค่ะ ตอนเช้าคุณแม่เลยพาน้องไปหาหมอเพื่อเจาะเลือด ผลปรากฎว่าค่าตับน้องสูงขึ้นและค่ายาในเลือดอยู่ในระดับ 3 (ซึ่งปกติต้องอยู่ในระดับ 10-20) นั่นทำให้น้องเกิดอาการชักขึ้นแต่ไม่รุนแรงค่ะแต่เนื่องจากว่าน้องมีอาการเหมือนจะแพ้ยา คุณหมอเลยเปลี่ยนมาให้กิน daipakin ที่ 0.5 ml ตอนนี้น้องพิงค์ทานมาได้สองสามวันแล้วค่ะ ก็ยังไม่มีอาการชัก

อยากถามคุณแม่คุณพ่อท่านไหนเคยมีประสบการณ์น้องชักในลักษณะนี้บ้างมั๊ยคะ คุณแม่ว่าจะพอน้องไปหาหมอที่อื่นดูด้วยเผื่อว่าจะได้คำแนะนำที่ถูกต้องค่ะ อยากให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยแนะนำให้หน่อยค่ะว่าควรไปที่ไหนดี (ตอนนี้ที่ดูๆ ก็มีคุณหมอชาครินทร์)  ตอนนี้ห่วงในเรื่องพัฒนาการของน้องมากค่ะ คุณหมอบอกว่าถ้าคุมชักอยู่ก็อาจจะส่งผลไม่มากต่อพัฒนาการของน้อง แต่ตอนนี้เท่าทีสังเกตุดูน้องเค้าก็ดูปกติค่ะ ถ้าเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน

ตอนนี้น้องทาน daipakin ที่ 0.5 ml อยู่คุณหมอบอกว่าให้เลือกทานระหว่าง kappa กับ daipakin แต่ที่ได้ยินมาถ้าทาน kappa แล้วจะมีผลกับระดับอารมณ์ ไม่แน่ใจว่าคุณแม่คุณพ่อท่านไหนมีให้น้องทาน kappa บ้างมั๊ยคะ แล้วทานแล้วมีอาการข้างเคียงยังไงบ้างเอ่ย

ออฟไลน์ NONG

  • Shoutbox
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1,451
Re: แชร์ประสบการณ์ของน้องพิงค์ค่ะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2013 เวลา 00:25 น. »
ทำไมหมอให้เลือกยาเองตลกดี ยาทุกตัวมีผลข้างเคียงหมอต้องเลือกยาที่คิดว่าคุมชักได้ดีที่สุดโดยมีผลข้างเคียงน้อยสุด ถึงจะถูกต้อง

เรื่องหมอหาท่านไหนก็ได้ที่เป็นหมอลมชักโดยตรงและคุณแม่สะดวกในการพาน้องมารักษา เพราะยังต้องรักษากันอีกนาน และอาจต้องวิ่งมา รพ.บ่อยๆ ถ้าคุมชักได้ พัฒนาการจะดีเอง เด็กลมชักส่วนนึงมีพัฒนาการเป็นปกติค่ะ อย่าเพิ่งกังวลมากไป คอยสังเกตความผิดปกติ และสอน พนก.ให้ตามวัยจะดีกว่าค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2013 เวลา 12:35 น. โดย NONG »

 


Powered by EzPortal