ไม่หรอกค่ะ ที่ออยเข้าใจง่ายอาจจะเป็นเพราะหนูเป็นนักศึกษาแพทย์ ได้อยู่กับอาจารย์ เป็นคนไข้ไปด้วย ดูแลคนที่เป็นโรคนี้ไปด้วย พอได้คุยกับคนไข้โดยตรง เห็นอาการ เห็นคลื่นไฟฟ้าสมองตอนที่ชัก เลยทำให้เข้าใจมากขึ้น ถ้าพี่ต่ายมาอยู่ตรงนี้ก็คงเข้าใจเหมือนออยแหละค่ะ คนไข้บางคนลำบากมาก ต้องตื่นตั้งแต่ตี3-4 แค่ค่ารถ เหมามาจากบ้านนอก(แบบนออออกกกกกก...สุดๆ) เข้ามาในเมืองก็สามพันบาทแล้ว มารอหมอ ตรวจไม่นาน รับยา ต้องรอเบิกอีก เพราะรพ.ชุมชนมียาไม่กี่ตัว คนไข้คุมชักไม่ได้ เลยต้องมารพ.ใหญ่ เพื่อให้ได้ยาที่มีประสิทธิภาพดีกว่า
แต่การกินยากันชักมีข้อดีอย่างนึงตรงที่ แต่ก่อนออยจะเป็นคนพูดเร็วมาก จนคนอื่นฟังไม่ทันเด๋วนี้พูดช้าลงแบบกำลังพอดีๆ หวังว่าจะไม่กลับมาพูดเร็วอีกนะคะ
พี่ได้เจออาจารย์ชัยชนด้วย ดีจัง หนูนับถืออาจารย์มาก อยากเจออาจารย์ตัวจริงซักครั้ง แต่อาจารย์ไปบวชแล้ว ส่วนอาจารย์โยธิน หนูก็เคยเจอค่ะ ใจดีมากๆ
ใช่ค่ะที่อาจารย์บอก อาการชักจริงกับชักหลอกเกิดได้ในคนไข้ลมชักหลายๆคน เพราะพี่ควบคุมอาการตัวเองได้ แต่ปกติอาการชักจริงจะควบคุมไม่ได้ค่ะ ของหนูก็ควบคุมไม่ได้(ที่จริงก้อยากควบคุมได้อยู่นะคะ)
ส่วนโรคซึมเศร้า ก็ยังมีอาการอยู่เรื่อยๆ เป็นๆหายๆ ไม่มีอะไรกระตุ้นเลย อยู่ๆก็หดหู่ ท้อ ร้องไห้ รู้สึกไร้ค่า อยากฆ่าตัวตาย บางทีออยมัวแต่ถามตัวเอง ว่าทำไมออยต้องเป็นโรคนี้ เป็นแค่โรคลมชักยังไม่พออีกหรอ สารสื่อประสาทมันยังแกล้งเราไม่สะใจอีกรึไง แต่เดี๋ยวนี้ออยเลิกถามแล้วค่ะ ปล่อยมันไป เศร้าก็เศร้า พยายามมีสติ บอกตัวเองว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไปค่ะ
พรุ่งนี้หนูต้องไปพบจิตแพทย์แล้วค่ะ จะเป็นยังไงไม่รู้ เดี๋ยวกลับมาเล่าให้ฟังค่ะ
อ.ชัยชล พี่เองคิดถึงมาก ตอนที่พี่ท้อง อาจารย์รับปากว่า จะดูแลให้ พี่ไม่ต้องทำแท้งนะ (ตอนนั้นยังชักมากอยู่) ถ้าเด็กเป็นอะไรไป ค่อยมาแก้ปัญหาทีหลัง ทีละเรื่อง
ส่วนอาจารย์โยธิน พี่ไปหาที่ รพ.กรุงเทพ เพื่อทำประวัติใหม่ ตรวจคลื่นกันใหม่อีกที อ.โยธิน อธิบายพี่ดีมากๆ เร็ว แต่ได้ใจความ เป็นหมออีกคนที่พี่รู้สึกว่า ท่านทำงานเพื่อผู้ป่วยอย่างจริงจัง แม้จะอายุมากแล้ว(น้องออยสังเกตุมั้ย หมอที่อายุมาก จะไม่ค่อยกระตืนรือล้น ไฟไม่แรงเหมือนจบใหม่ๆ)
(ท่านประจำที่ พมก.ด้วย แม้จะเป็นรพ.รัฐ ท่านก็ไม่หงุดหงิด อารมณ์ดี ยิ้มง่าย
อธิบายเหมือนอยู่ รพ.เอกชน)
พี่ว่านะ บางคนทีรู้สึกเครียดเหลือเกิน น่าจะไปเจอะผู้ป่วยที่โอกาสน้อยกว่าเราบ้าง บางคนเครียดกับเรื่องเล็กๆเท่านั้น แต่ไม่ได้มองว่า ผู้ป่วยที่มีโอกาสน้อยกว่าเรามีมาก แม้แต่เงินยังไม่มีจะรักษาด้วยซ้ำ
จริงๆ ในเวป พี่ถือว่า ทุกคนโชคดี ที่ยังมีอินเตอเนต เพื่อหาความรู้ ตอนที่พี่เป็น หมอที่รักษา ไม่ยอมรับว่า พี่เป็นลมชัก ไม่รู้จักอาการเหม่อ (แม่พี่ก็เถียงไม่ได้ เพราะไม่รู้จักอาการ ทำให้ช่วงนั้น รักษาลมชักกันแบบตามใจหมอ)
เรื่องกินยามั่วๆ พี่คิดว่า พี่กินมาแล้ว (จำไม่ได้นะ ) เพราะแม่พี่ก็ตัดสินใจอะไรไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูก หมอพูดไม่เข้าใจ หมอบางคนบอก มีอะไรก็กินๆไปเหอะ ( จ่ายยาซ้ำมา ) แม่เล่าให้ฟัง พี่จำอะไรไม่ได้เลย (บางคืนต้องส่งฉุกเฉิน)
overdose ก็หาว่า พี่บ้า เป็นโรคจิต แทนที่จะปรับยา (พี่เป็นคนไข้ยังรู้ว่า overdose )
น้องออยเป็นหมอ จะได้เข้าใจผู้ป่วย ว่าเป็นอย่างไร คนรอบข้างผู้ป่วยทุกข์แค่ไหน
แต่ปัจจุบันจุฬาไม่เป็นเหมือนเดิมแล้วนะ พี่เห็น หมอจบใหม่ตะคอกผู้ป่วย ว่า ชักทำไม เพราะอะไร (ผู้ป่วยก็ตอบไม่รู้สิ) ถ้าไม่ใส่ชุดกราวด์ พี่ไม่คิดว่า เขาเป็นหมอ (เขาเคยนั่งเรียนไปกับ อ ชัยชน พี่จำหน้าได้)
เสียงดังจนพี่ต้องหันไปว่า มีเรื่องทะเลาะอะไรกัน
ออยกินยากันชักแล้วพูดช้าลง แต่พี่เป็นไรไม่รู้อะ เดวนี้ พี่พูดเร็วมาก จนคนฟังไม่ทัน คลื่นชักก็มาจากด้านซ้ายทั้งแถบ (เกี่ยวกับการพูด/ภาษา) และด้านหลังทั้งหมด (อันนี้ไม่รู้ว่า เกี่ยวกับอะไร) พี่ถึงบอกว่า ตอนเห็นคลื่นชักตัวเอง ยังถอดใจหน้าเสีย (อาจารย์โยธิน บอกว่า พี่นะจะชักช่วงหลับ ไม่น่าจะหยุดชักไปได้นานหลายปีขนาดนี้)
เรื่องโรคซึมเศร้า ออยลองอ่านตรงนี้หรือยัง
http://www.lomchakclub.com/v9/index.php/topic,692.0.htmlไม่รู้สินะ พี่เชื่อในพระพุทธคุณ (ออยเคยได้ยินเรื่อง หลวงพี่จรัญคอหักแล้วไม่ตายมั้ย มีความเห็นว่าอย่างไรคะในฐานะแพทย์)
ส่วนโรคซึมเศร้า รักษาไปตามที่จิตเวชบอกแล้วลองอ่านอันนี้ดู
http://www.lomchakclub.com/v9/index.php/topic,741.0.htmlวิธีคิด/ปฎิบัติของจิตเวชแนะนำ ยังไม่ละเอียดเท่าที่พระพุทธเจ้าสอน
ถ้าออยสรุปเรื่องว่า เป็นไตรลักษณ์ อย่าลืมคำสุดท้าย ว่า อนัตตา
ทุกอย่างไม่มีตัวตน บังคับไม่ได้ (ข้อที่ 6) ข้อนี้ละ พี่ว่า เข้าใจยากที่สุด แต่ถ้าเข้าใจและปฎิบัติได้ จะแทบไม่เหลือความทุกข์เลย (พี่ยังทำไม่ได้หมดนะ มักจะเผลอยึดติดในตัวตนอยู่ ยิ่งเวลาโกรธจะเป็นมาก)