เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า

เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า 

 

ผู้เขียน หัวข้อ: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ  (อ่าน 29115 ครั้ง)

ออฟไลน์ NONG

  • Shoutbox
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1,451
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: วันพุธที่ 04 สิงหาคม 2010 เวลา 12:32 น. »
ชื่อน้องค่ะ ฉีดปีละครั้งค่ะ คุณเกดอย่าเครียด เราดูแลให้ดีที่สุด ทำสิ่งที่ดีที่สุด เกิดอะไรก็แก้กันไป มีอะไรป้องกันได้เราก็ทำ ร่าเริงเข้าไว้ค่ะ จะได้คิดอะไรออกหมด

ออฟไลน์ kedy

  • Meeting2
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 174
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: วันพุธที่ 04 สิงหาคม 2010 เวลา 13:57 น. »
ขอบคุณค่ะพี่น้องที่มาเตือนสติ จะบอกว่าหลังจากลูกชักครั้งที่ 2 รู้สึกไม่ดีกับตัวเองมากๆ เพราะเราประมาทกับลูกเกินไปค่ะ คือแฟนเค้าซื้อของเล่นเป็นเสือ เปิดแล้วมีเพลง มีไฟแว็บๆ เราก็เห็นมันน่ารัก เปิดให้ลูกดูบ่อยๆ ลืมนึกไปว่า มันจะกระตุ้นเรื่องชัก จนลูกชักซ้ำจนได้ แต่หมอก็บอกว่า บางที ไม่มีปัจจัยกระตุ้น ก็ชักได้ แต่เกดคิดว่า น่าจะเพราะของเล่นตัวนี้ด้วย

ตอนนี้พยายามทำใจ เข็มแข็ง เพราะเราห่วงลูกมาก ไม่อยากให้เค้ามีอาการอีก ทำอะไรต้องมีสติ และทำให้ดีที่สุด แต่ถ้าอะไรมันจะเกิด เราก็ต้องยอมรับมันใช่มั๊ยค่ะ ยิ่งได้อ่านเรื่องของคุณพ่อคุณแม่ในห้องนี้เลี้ยงลูกอย่างดี ใจชื้นขึ้นค่ะ ว่าเค้าเกิดมาอยู่กับเราแล้ว เราต้องดูแลเค้ให้ดีที่สุด

ออฟไลน์ NONG

  • Shoutbox
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1,451
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: วันพุธที่ 04 สิงหาคม 2010 เวลา 14:45 น. »
พี่ก็เคยคิดเหมือนที่คุณเกดคิด คือคิดว่าที่ลูกเป็นอย่างนี้เพราะเรา เราดูแลไม่ดี เธอถึงต้องมาเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้ไม่คิดมากแล้ว เมื่อเป็นแล้วตอนนี้จะทำอย่างไรนั่งโทษตัวเองไม่ได้ช่วยอะไร
ตอนลูกสาว status ครั้งแรกพี่ยังไม่เข้าใจคิดว่าเธอชักเหมือนที่เคยก็ไป รพ.เหมือนทุกครั้งเดี๋ยวลูกก็ลุกขึ้นมากลับบ้านได้ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม พี่ถึงเพิ่งรู้ว่าโรคนี้มันหนักหนานัก แล้วก็เริ่มศึกษามาตั้งแต่นั้น อ่านแต่เรื่อง epilepsy ทุกคืน จนแฟนว่าพี่หมกมุ่นมากไป หมอดูแลอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ รู้เลยว่าถ้าพี่ไม่รู้เรื่องลูกคงผ่านมาไม่ได้ ศึกษามากขึ้นเริ่มฟังที่หมอบอกเข้าใจ รู้ว่าต้องระวังอะไร เรื่องการพยาบาลที่ไม่เป็นเลยก็หัดทำ มีแต่เจาะเลือดนี่แหละที่หมอไม่ให้ทำ ขอเลยว่าอย่า อันตรายเกินไป นอกนั้นที่ต้องใช้ดูแลผู้ป่วยหนักพี่ก็หัดหมดให้พอช่วยเบื้องต้นฉุกเฉินและดูแลเธอได้ ตอนหลังเวลาลูกเข้า ICU แล้วหมอทำหัตถการ หมอบอกคุณแม่ไม่ต้องออกไปรอข้างนอกอยู่ในนี้ช่วยดูด้วย   เมื่อต้นปี 52 พี่ทำใจไว้เลยแต่พี่ก็ยังคงดูแลเต็มที่ คือถ้าไม่อยู่จริงๆ ก็ทำใจแล้ว
ตอนนี้ก็ใช่ว่าจะวางใจ คิดเสมอว่ากลับมาเป็นได้ตลอดเวลา ก็ยังคงระวังอยู่เสมอ ดูการเปลี่ยนแปลงของเธอทุกวัน เพียงแต่ไม่เข้มงวดเหมือนเดิม

พี่ถึงบอกสมาชิกใน web นี้เสมอว่ายังมีโอกาสเสมอ อดทน และพยายาม ไม่ใช่แค่หมอกับพยาบาล  เราต้องช่วยด้วย

ออฟไลน์ kedy

  • Meeting2
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 174
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 09:46 น. »
พี่น้องค่ะ เกดถามรายละเอียดของลูกสาวพี่นิดนึงค่ะ ตอนเด็กๆที่น้องเริ่มชักเพราะมีไข้ และพอชักแบบไม่มีไข้ คุณหมอเค้าให้กินยากันชักตัวไหนค่ะ แล้วมันคุมอยู่ได้ประมาณกี่ปี ถึงมีอาการอีกค่ะ แล้วได้มีการตรวจคลื่นสมองหรือเปล่า

ลูกเพื่อนแฟนเกด เค้าเคยชักตอนมีไข้สูงตอน 2 ขวบ และมาชักซ้ำตอนไข้สูงตอน 4 ขวบ หมอเลยให้เริ่มกินยากันชัก มาตอนนี้ปีกว่า ยังไม่มีอาการ หมอบอกว่าเกิน 2 ปี น่าจะหาย อายุประมาณ 6 ขวบ แล้วกรณีลูกสาวพี่น้อง มันประมาณไหนค่ะ หรือหยุดมา 2ปี แล้วก็อาจเป็นอีกได้

ออฟไลน์ NONG

  • Shoutbox
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1,451
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 12:10 น. »
คุณเกด
ลูกสาวพี่ครั้งแรกที่ชักประมาณ 1-2 ขวบ เพราะไข้สูง ทุกครั้งที่มีไข้ก็ชัก แต่ไม่ได้เป็นบ่อยๆ สมัยนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นโรคอย่างนึง คิดว่าไข้สูงแล้วชัก หมอให้ทานยากันชักซึ่งก็จำไม่ได้แล้วว่าเป็นยาอะไรพอดีตอนนั้นอยู่ต่างจังหวัดด้วย หมอไม่ได้อธิบายอะไรเลย เข้าใจว่าโรคลมชักตอนนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ทางการแพทย์เองก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องนี้มากนัก หมอให้ยากันชักมา พี่ก็คิดว่าพอตัวร้อนจะชักก็ให้ทานยากันชักไว้ พอประมาณ 2.5 ขวบเข้ากรุงเทพ ก็ชักชุดใหญ่เลยเข้า ICU รพ.ภูมิพล โดยไม่มีไข้ และสแกนสมองจึงรู้ว่ามีแผลในสมอง หมอก็ให้ทานยากันชักมาตลอด ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น phenobarb ตอนนี้ถึงเพิ่งรู้ว่ายากันชักต้องทานต่อเนื่อง และรักษาประจำอยู่ที่ภูมิพลอยู่ประมาณ 3-4 ปี จนหยุดยาไปหมดแล้ว มาเริ่มชักอีกครั้งเมื่อประมาณ 10 ขวบ เข้ารักษาใหม่ที่ รพ.กรุงเทพ ยังคงคุมด้วย phenobarb และใช้ frisium ช่วยในกรณีมีอาการเหมือนจะชัก ซึ่งของเธอจะมีอาการเหมือนอาการเตือนมาก่อน ก็มีชักประปรายไม่หนักหนา มาเริ่มชักมากขึ้นเมื่ออายุประมาณ 13-14 ปี เริ่มได้ยามากขึ้น เพิ่ม depakine, topamax ซึ่งก็คุมได้ดีขึ้นจนกลางปี 50 ไม่มีอาการชักเลยจนถึงเดือน เมษายน ปี 51 ก็มี plan ว่าจะปรับลดยากันชักลงเนื่องจากไม่มีอาการชักมาตลอดหลายเดือน แม้แต่อาการเตือนก็หายไปจนหมด สภาพร่างกายดีมาก ร่าเริง สดใส ตอนนั้นเธอเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เก็บหน่วยกิตตอน summer ผ่านไปด้วยดี จำได้เลยตอนตรวจเดือน พฤษภาคม อาจารย์บอกว่าถ้าไม่มีอาการเลยเจอกันเดือนหน้าเริ่มลดยา  ผ่านมาได้ไม่ทันเดือนก็ status  แทบไม่รอด  แบบไม่มีอาการอะไรเลยอยู่ๆ  ขึ้นรถแล้วหลับไปเฉยๆ  ถ้าวันนั้นไม่ทันสังเกตกลับบ้านเลยไม่รู้เป็นอย่างไร หลับไปเกือบสัปดาห์ กว่าอาจารย์จะเอากลับมาได้ 2 ปีที่รักษาหลัง status ครั้งแรก ทำหมดทุกอย่างคุณเกดลองดูเรื่องขั้นตอนการรักษา ลูกสาวพี่ทำหมดทุกอย่าง เพียงแต่ผ่าตัดไม่ได้  แต่เราก็ยังลองใช้ gramma knife ซึ่งเป็นการผ่าตัดอีกแบบที่ไม่ต้องเปิดกะโหลก เป็นการยิงรังสีแกมม่าทำลายจุดเกิดการชัก ไม่คิดว่าจะทำให้หาย ขอแค่บรรเทาการชักลง  แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น

EEG ทำบ่อยมากเพราะมาหลังเธอชักแบบนิ่งเหมือนคนนอนหลับ  ทำบ่อยจนพี่พอดู EEG เองได้ รู้ว่า wave ขนาดไหนหนักหนา ขนาดไหนต้องให้ยาแล้วอะไรประมาณนี้ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ฮืออากันในแผนกที่รักษาเธออยู่ จนพี่มีชื่อเสียงพอควรเชียว   55+  คุยอีก

พี่ขอบอกเลยโรคนี้ไม่แน่นอน ทำใจไว้เลย  หยุดชักก็กลับมาใหม่ได้  ตอนนี้รักษาด้วย ketogenic diet เหมือนยากันชักอื่นๆ ตามทฤษฎีบอกว่า ทาน 2 ปี ไม่มีอาการชักก็หยุดได้  จนถึงวันนี้ไม่มีอาการชักแต่พี่ก็ยังไม่เชื่อว่าจะทำให้หายได้ ถึงบอกว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด เราได้ทำแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

เอา เขียนซะเยอะเลยอ่านจนงงแล้วสิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 13:42 น. โดย NONG »

ออฟไลน์ kedy

  • Meeting2
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 174
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 13:56 น. »
ชัดเจนเลยค่ะพี่น้อง ได้คุยกะพี่น้องแล้ว รู้เรื่องโรคนี้เยอะขึ้นค่ะ เพราะหมอที่ศิริราช ยังไม่ค่อยให้ความกระจ่างเท่าไหร่ แบบว่าคงไม่ได้รักษาประจำกับหมอท่านเดียว เปลี่ยนหมอไปอ่ะค่ะแต่เป็นแผนก Neuro เวลานัดไปตรวจก็ดูประวัติกันที

แล้วแผลในสมองที่สแกนเจอมาจากสาเหตุอะไรค่ะ เพราะลูกสาวเกด เค้าตรวจทั้ง CT,MRI ก็ปกติอ่ะค่ะ

เกดก็เคยดูเจ้าเครื่อง EEG ตอนติดใน ICU ค่ะ ยังช่วยหมอกดเลยเวลาลูกมีคลื่น แต่หมอบอกของน้องเอินเอินมีแป๊ปเดียว แทบวิเคราะห์ไม่ได้ หลังจากหยุดชัก ก็ไม่มีคลื่นอีกเลย

แต่ที่ยังสงสัยว่าทำไม เวลาน้องเอินเริ่มชักแล้ว จะชักซ้ำประมาณ 1 ชม.บ้าง 2 ชม.บ้าง ครั้งนึงกินเวลาไม่เกิน 2 นาที ล่าสุดเล่นเอาประมาณเกือบ 30 ครั้ง วันกว่าๆเลย ต้องเข้า ICU ถึงจะสงบ

ออฟไลน์ NONG

  • Shoutbox
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1,451
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 14:22 น. »
เรื่องแผลในสมองนี่แหละที่พี่เคยบอกว่าเป็นสาเหตุที่พี่โทษตัวเอง คาดว่าแผลในสมองเกิดจากการชักเมื่อตอนเด็กคือชักจากไข้สูงแล้วเกิดพยาธิสภาพในสมองเป็นแผลเป็นขึ้นมา  เป็นจุดที่ก่อให้เกิดการชักในครั้งถัดๆ ไป แต่มามีปัญหาเนื่องจาก แผลตอนแรกมีนิดเดียว ตอนนี้กระจายทั่วไปหมด ทำให้ไม่สามารถผ่าตัดได้ส่วนที่ว่าทำไมถึงมีมากขึ้นมากขึ้นเรื่องนี้ก็ไม่มีคำอธิบาย

รักษากับหมอหลายท่านน่าจะมีปัญหา พี่ไม่เข้าใจทำไมศิริราชไม่ให้รักษาประจำกับหมอท่านเดียว เปลี่ยนไปมามีปัญหาแน่การวินิจฉัยแต่ละครั้งเป็นคนละเรื่องแน่นอน ถ้าให้แนะนำคุณเกดลองคุยดูทีดีกว่ารักษาประจำเพียงคนเดียว ถ้าไม่ว่างไม่อยู่แล้วมีอาการต้องเข้ารับการรักษาค่อยให้หมอท่านอื่นมาดูแทนชั่วคราว น่าจะดีกว่ามาก
คลื่นชักมีแป๊บเดียวแต่ดูรูปแบบคลื่นโดยรวม (background)ได้ ไม่จำเป็นต้องเห็นคลื่นชักทุกครั้งค่ะ หมอคงไม่อยากอธิบายกระมัง

เรื่องของสมองเป็นเรื่องที่ทำนายไม่ได้ ไม่มีรูปแบบแน่นอนตายตัว ไม่เหมือนพอได้เชื้อไวรัสหวัดเข้ามา 2-3 วันจะมีไข้  อะไรประมาณนี้   ส่วนใหญ่เมื่อชัก 1 เต็มรูปแบบ มักมี 2 3 4 ตามมา จึงต้องทำให้หยุดแน่ๆ หรือเมื่อเริ่มมีอาการเตือนต้องป้องกันอย่าให้มีชักขึ้นมาเต็มที่ ส่วนแค่ไหนเรียกว่าเต็มรูปแบบอันนี้ก็บอกไม่ได้อีกเหมือนกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 19:44 น. โดย NONG »

ออฟไลน์ Namsai

  • Meeting2
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 114
  • น้องน้ำใสค่ะ
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 16:08 น. »
เหมือนกันเลยค่ะ   พี่น้อง
อาจารย์ก็บอกว่าน้ำใสมีแผลเต็มสมองเหมือนกันค่ะ เกิดจากครั้งแรกที่มีการคุมชักไม่ดีพอทำให้มีครั้งต่อๆไปอีกแผลก้จะเหมือนไฟฟ้าช็อต ลามออกไปเรื่อยๆ  จริงๆ ถ้าเจออาจารย์ตั้งแต่ชักครั้งแรก น่าจะดีกว่านี้ค่ะ เพราะครั้งแรกน้ำใสชักแค่ครั้งเดียวตอนแปดเดือนและหยุดสนิทตั้งหนึ่งปี มาเริ่มชักอีกครั้งตอน 1.8 ปี   ครั้งนั้นปิ่นโทษตัวเองจริงๆ เพราะไม่คิดว่าน้ำใสจะเป็นโรคนี้ ไม่เคยค้นคว้าหาความรู้มาใส่ตัวเลย  น้ำใสน้ำหนักขึ้นจนยากันชักคุมไม่ได้ และพี่เลี้ยงน่าจะลืมให้ยากันชักด้วย ไว้ใจเค้ามากเกินไป  เป็นบทเรียนจริงๆ หัวใจแทบวายเพราะไม่เคยเห็นลูกชักถี่ขนาดต้องเข้าไอซียู   
เวลาเฝ้าไข้ลูกที่รพ. แล้วเห็นพ่อแม่มือใหม่สติแตกเมื่อเห็นลูกชัก เลยนึกสงสารเพราะเราเคยอยู่สภาพนั้นมาก่อน เลยต้องให้คำแนะนำเขาไปเท่าที่จะแนะนำได้  ก็พยายามแอบเจริญรอยตามพี่น้องนี่ล่ะค่ะ อิอิ

ออฟไลน์ kedy

  • Meeting2
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 174
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 16:23 น. »
พี่น้อง คุณปิ่นค่ะ

แล้วแผลในสมองเนี้ย เรารู้ได้จากการตรวจตัวไหนอ่ะค่ะ

น้องน้ำใสชักเพราะไข้สูงหรือเปล่า แล้วหยุดไปตั้ง 1ปี ตอนนั้นทานยาตัวไหนค่ะ แล้วที่ชักถี่นี่ ยังงไงเอ่ย เหมือนของเอินเอินหรือเปล่า แล้วน้องน้ำใสหยุดชักได้ยังไงค่ะ ของเอินเอินตอนชักครั้งแรกใช้ฟีโนบาทเต็มที่เลยใน ICU ถึงหยุดค่ะ พอมาชักครั้งที่ 2 หมออีกทีม พวกนักศึกษาอ่ะค่ะ ใส่ยาตัวอื่นเสริม ก็ยังสงสัยว่าทำไมไม่ทำแบบตอนแรก จนต้องใช้ไม้ตายแบบเดิม เราก็ไม่กล้าถามมาก เด๊ยวหาว่าเรารู้ดีกว่าหมอ แล้วถ้าลูกมีแผลในสมอง ใครจะรับผิดชอบอ่ะค่ะ เศร้าจัง

ออฟไลน์ NONG

  • Shoutbox
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1,451
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 16:26 น. »
เรื่องแผลในสมองนี่ อ.ไม่ได้บอกว่าเกิดจากอะไร พี่คิดของพี่เองค่ะ นี่ก็ตั้งใจจะคุยเรื่องโภชนากรของน้ำใสกับ อ.แน่ๆ แบบอึดอัดใจไม่คุยไม่ได้ พี่เสียดายโอกาสจริงๆ ไม่รู้จะโดนทำหน้าดุ ดุ ใส่รึเปล่า ชอบจุ้นนัก 55

บอก อ.ด้วยว่าจะเจริญรอยตามพี่ อ.ท่าจะเครียดหนักเลย คนเดียวก็ตามจิกแทบแย่แล้ว ฮิฮิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 18:37 น. โดย NONG »

ออฟไลน์ NONG

  • Shoutbox
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1,451
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 18:34 น. »
พี่น้อง คุณปิ่นค่ะ

แล้วแผลในสมองเนี้ย เรารู้ได้จากการตรวจตัวไหนอ่ะค่ะ


ทำ CT หรือ MRI ค่ะ ส่วนน้ำใสยังไม่หยุดชักค่ะ คุณปิ่นถึงมีอาการหงอยๆ อยู่ไง (จริงมั้ยค่ะ) ลองดูอาการน้ำใสได้ในกระทู้ keotgenic diet ของน้ำใสค่ะ ยังน่าสงสารอยู่มาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 19:44 น. โดย NONG »

ออฟไลน์ Namsai

  • Meeting2
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 114
  • น้องน้ำใสค่ะ
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 21:56 น. »
วันนี้น้ำใสชักไปสองครั้งค่ะ  เค้าเล่นจนเหนื่อยมากไป 
น้ำใสยังไม่เคยทำ MRI นะคะ คุณหมออยากให้หายจากปอดอักเสบให้สนิทก่อน แล้วจะทำให้ค่ะ  แผลในสมองนี่ทราบจากอาจารย์นี่แหละ อธิบายละเอียดจนเห็นภาพ ตอนนั้นฟังแล้วจะช็อคเพราะรพ.รัฐไม่เคยอธิบายเราละเอียดขนาดนี้เพิ่งรู้ว่าโรคนี้รุนแรงจากอาจารย์นี่ล่ะค่ะ ว่าน้ำใสมีคลื่นลมชักเต็มศรีษะแล้วและหมายถึงสมองก็มีแผลที่เกิดจากการชักมาตั้งแต่ตอนเริ่ม ลักษณะเหมือนไฟฟ้าสปาร์คแตกไปเรื่อยๆ แต่อาจารย์ก็ปลอบใจนะคะว่าพยายามรักษาให้ดีที่สุด ตอนนั้นปิ่นกับแฟนนี่มองหน้า พูดไม่ออก ไม่คิดว่าลุกเราจะเป็นหนักขนาดนี้ เฝ้าแค่โทษตัวเองที่ไม่หาข้อมูลและมาพบอาจารย์ตั้งแต่เนิ่นๆ  เฮ้อ พูดแล้วก็เศร้าค่ะ
น้ำใสทรดลงตอน 1.5-2.5 ขวบค่ะ เป็นเพราะเปลี่ยนพี่เลี้ยง แล้วความรับผิดชอบเค้าไม่ดีพอ ลืมยากันชักไปบ้าง บางทีก็แอบรักษาน้ำใสเองโดยการปรับเพิ่มลดยากันชักเอง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ปิ่นอยุ่ที่กทม. ทิ้งลูกให้อยู่กับพี่เลี้ยง  ตอนนั้นน้ำใสเสมหะเยอะ เค้าเอามะนาวหยอดปากแล้วเอาลุกยางแดงดูดเสมหะมา น้ำใสตกใจสำลักตัวเขียว ยังไม่หยุดค่ะเอานมป้อนเข้าไปอีก นั่นคือจุดเริ่มที่พัฒนาการของน้ำใสถดถอยลงและชักถี่ขึ้น  ต้องเข้านอนรพ.เกือบเดือน อยู่กับพี่เลี้ยงคนนี้เข้าออกรพ.ตลอด  ปิ่นรู้สึกผิดมากๆ  เลยยกน้ำใสไปให้ป้าแท้ๆของเค้าเลี้ยงแทน ยอมตัดใจให้ลูกห่างตัว ทุกวันนี้น้ำใสมีความสุขขึ้นมากเลยค่ะ ตอนนี้กำลังให้ป้าเค้าศึกษาเรื่องคีโตฯเตรียมพร้อมไว้ค่ะ

ออฟไลน์ NONG

  • Shoutbox
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1,451
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 05 สิงหาคม 2010 เวลา 22:17 น. »
ว้าว! เจอพี่เลี้ยงอาการหนักขนาดนี้ แย่มากๆ เลย น่าเศร้าจริงๆ คุณปิ่นคุยกับพี่ คุยเล่นซะมาก อย่าเครียดนะคะ
CT เห็นความผิดปกติแต่ไม่ชัด ชัดๆเลยต้องทำ MRI ดูจากคลื่น eeg ก็บอกได้ว่าการชักเกิดจากสมองบริเวณไหน อ.อ่านคลื่นไปสอนไปดูออกขึ้นบ้างรึยังคะ
คุณป้าได้ศึกษาคีโตฯ อีกคน ดีค่ะ จะได้มีคนดูแลหลายคนหน่อย ตอนนี้พี่ให้ลูกสาวหัดทำอาหารของตัวเองแล้ว บางครั้งพี่ไม่ว่าง ไม่อยู่จะได้ช่วยเหลือตัวเองได้
ไม่รู้ว่าเอินเอิน จะใช้คีโตฯ ได้รึเปล่า น่าลองเหมือนกันนะเนี่ย 

ออฟไลน์ sorada

  • Meeting2
  • Full Member
  • *
  • กระทู้: 83
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 06 สิงหาคม 2010 เวลา 14:30 น. »
พี่น้องคะคุณแม่น้องกรขอถามหน่อยคะถ้าน้องกรทำMRIแล้วไม่พบความผิดปกติการตวจแบบนี้เรียกว่าeggหรือเปล่าคะ

ออฟไลน์ NONG

  • Shoutbox
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1,451
Re: ลูกกลับมาชักอีกครั้งหลังจากไม่ชักมา 6 เดือนมเต็มค่ะ
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 06 สิงหาคม 2010 เวลา 15:26 น. »
ไม่ใช่ค่ะ  MRI เป็นการเอ็กซเรย์คลื่นแม่เหล็กสมอง น้องกรเคยตรวจ MRI มาแล้ว คุณ sorada คงเคยเห็นรูปที่ได้จาการทำ MRI แล้ว  ส่วนการตรวจEEG คือการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง รูปแบบคลื่นไฟฟ้าในช่วงที่ชักจะมีรูปแบบผิดไปจากคลื่นไฟฟ้าปกติ ใช้ตรวจดูว่าคนไข้มีอาการชักจริงหรือไม่ (บางครั้งเป็นชักหลอก เกิดกับคนไข้ที่มีอาการทางจิต) หรือใช้ในกรณีคนไข้ชักแบบนิ่ง (เหมือนลูกสาวเวลาชักจะเหมือนนอนหลับ แต่ปลุกไม่ตื่น) หรือตรวจดูช่วงเวลา รูปแบบการชัก ความรุนแรง เกิดที่ส่วนใดของสมอง ฯลฯ แต่ไม่สามารถบอกตำแหน่งที่ชัดเจน หรือพยาธิสภาพที่เกิดขึ้น เช่น มีแผล มีหินปูน มีพยาธิ อยู่ภายในสมองได้ถึงต้องทำ CT scan หรือ MRI

แนบไฟล์กราฟ และรูป eeg monitor มาให้ดูค่ะ
 
  










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันศุกร์ที่ 06 สิงหาคม 2010 เวลา 15:29 น. โดย NONG »

 


Powered by EzPortal