Forum > ระดมความคิด ในการเรียกร้องการนำเข้ายา Frisium

ร่วมระดมความคิด ในการเรียกร้องนำเข้ายา Frisium กระทู้นี้เลยครับ

(1/5) > >>

popja:
เนื่องจาก บริษัท SNOFI งดการนำเข้ายาตัวนี้แล้ว พวกเราก็คงทราบกันดีว่า
ยารักษาโรคลมชัก ถ้าถอนออกโดยทันทีมันส่งผลแน่นอนครับ
ขนาดค่อยๆลดลง ถ้ายามันช่วยคุมชักอยู่ ก็เห็นผลได้เลยเช่นกัน
อันตรายและเสี่ยงโดยไม่มีความจำเป็นในการหยุดยาเลย

พวกเรามาช่วยกันระดมความคิดในการเรียกร้องการนำเข้ายา
ว่าควรจะทำอะไรอย่างไรดี ก่อนจะสายเกินไปครับ
เหมือนยาตัวไหนที่ช่วยคุมอาการชักดีๆอยู่แล้วถูกบังคับให้เลิกทาน
กว่าจะเจอยาที่ตรงกับอาการชักซักตัวได้นี่ก็แย่แล้ว

popja:
ขอแสดงความเห็นน๊ะครับ
ผมคิดว่า ผู้ที่ทานยานี้ทุกคน ต้องเข้ามาร่วมแสดงความเห็นกัน
ถ้าอย่างทั่วๆไปที่เห็นในทีวี คงต้องล่ารายชื่อผู้ที่ทาน Frisium ให้มากที่สุด แล้วส่งไปคราวเดียวกัน
โดยต้องระบุผลกระทบจากการลดหรือหยุดยา ของทุกคน

และอีกส่วนหนึ่งก็ต้องเป็นรายชื่อผู้ป่วยโรคลมชักทุกคนที่จะร่วมเรียกร้อง
ก็ต้องช่วยกันลงชื่อด้วย ไม่มีใครรู้ว่าวันนึงเราอาจจะต้องได้ใช้ยา Frisium เพื่อช่วยคุมอาการชักก็เป็นได้ครับ

ก็คือต้องส่งรายชื่อไป 2 ชุด ชุดแรกคือผู้ป่วยลมชักทั้งหมด
ชุดที่ 2 คือเอกสารอ้างอิงคนไข้ที่ใช้ยาตัวนี้อยู่ และผลกระทบจากการลดหรือขาดยาตัวนี้ครับ

และมีเอกสารแนบ ของ อ.โย แนบท้ายไปด้วย ที่ได้ส่งไปก่อนหน้านี้แล้ว
โดยต้องร่างข้อความดีๆปะหน้าไปครับ ในจุดประสงค์ที่เราเรียกร้อง
ให้เห็นถึงผลกระทบและอันตรายต่อผู้ป่วยที่ใช้ตัวนี้อยู่
ผมว่าข้อนี้ คงต้องให้หมอช่วยร่างด้วย เพราะมันเกี่ยวกับการรักษาของแพทย์ ศัพท์แพทย์ต่างๆ
ผมไม่รู้ว่าที่อ.โยส่งไป ละเอียดแค่ไหน ถ้าละเอียดแล้วก็ลอกตัวนั้นปะหน้าไปเลยก็ได้ครับ

อีกอย่างหนึ่ง การส่งหนังสือเรียกร้อง
คงไม่ได้ส่งให้บริษัทที่นำเข้าอย่างเดียว คงต้องส่งไปหน่วยงานราชการที่ควบคุมดูแลเรื่องยาและที่เกี่ยวข้องด้วย
หน่วยงานอิสระหรือสมาคมที่เกี่ยวข้องด้วย
ยิ่งส่งมาก ก็เปิดโอกาสมากขึ้นครับ

ขอจบข้อเสนอครับ
ใครมีความเห็นยังไงบ้าง เห็นด้วยไม่เห็นด้วยยังไงก็ลงในนี้ได้เลยครับ

Thanks-Epi:
ต่ายเองเมื่อกลางวันโทรไป สคบ. แต่ไม่มีคนรับสาย เลยหาเบอร์ที่พอจะปรึกษาได้ คือ 1111 เขาแนะว่า
-หากรวมตัวกันได้มากที่สุดมีชื่อนามสกุล และเบอร์โทร หากมีการค้นประวัติ(คือเรื่องที่เราร้องเรียน)  จะต้องใช้ข้อมูลทางส่วนนี้ค่ะ
-หาเรื่องได้รับพิจารณา  ก็ต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้น อย่าปล่อยเวลาให้นานนะค่ะ  จะช่วยกัน ก็ต้องรีบหน่อยนะค่ะ พักนี้ต่ายเองยังต้องออน ตามแชทแทบตลอดเพราะต้องตามเรื่องนี้


ต่ายโทรไปทางบริษัทSNOFI  ซึ่งบอกว่า ปล่อยให้ยา หมดสต็อก ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว(โดยผู้ใหญ่ประชุมกัน)
ซึ่งตรงนี้ต่ายเห็นว่าไม่ถูกต้อง (สามารถร้องเรียนได้ค่ะ )  เพราะว่า ไม่มีการแจ้งคนไข้ก่อน แม้แพทย์ที่สั่งจ่ายก็ยังไม่ทราบว่ายาหมด
หรือเหตุผลที่น่าจะฟังขึ้นมากกว่า การกำไร-ขาดทุน ทางบริษัทต้องชัดเจนกว่านี้ ไม่ใช่ "ผู้ใหญ่คุยกัน" เพราะเราเอง ถือว่า เป็นผู้บริโภค  ไม่มีคนป่วยลมชัก ยาเขาก็ขายไม่ได้  แล้วพอขายไม่ได้กำไร ก็ไม่นำเข้า ออกจะดูแล้วเห็นแก่ตัวเกินไปค่ะ
เพราะหากปล่อยบริษัทที่คิดแต่เรื่องเงินเป็นหลัก  ต่อไป โรคอื่นๆ ก็ต้องโดนแบบนี้เหมือนกัน 

.............ตกลง ชีวิตคนไข้ ใครจะรักษา  บริษัทที่เห็นแก่ได้ หรือ แพทย์..............


กรุณาช่วยกันออกความเห็น อย่าให้เรื่องเงียบหาย เพียงเพราะเราไม่เคยรับประทานยาตัวนี้ หากวันนึงยาที่คุณใช้อยู่ บริษัทนี้ (เนื่องจากนำเข้ายาหลายตัว  http://www.sanofi-aventis.co.th/l/th/th/index.jsp )กดเครื่องคิดเลขแล้วไม่พอใจ  ก็คงจะซ้ำรอยเดิมค่ะ  อันนี้เป็นเวป http://en.sanofi.com/ บริษัทแม่ ที่ยืนยันได้ยามีขายทั่วโลก (และจากที่ต่ายโทรไปทางบริษัท ซึ่งไม่มีคำตอบชัดเจนว่า ทำไม่ปล่อยให้ยาขาดตลาดโดยไม่แจ้ง ล๊อตสุดท้ายคือนำเข้าปลายปีที่แล้ว)

ann:
  ต้องขอบอกว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมอย่างมาก การกระทำครั้งนี้คงทำให้ผู้ป่วยอาการแย่ลงมากทีเดียว เพราะต้องหยุดยากระทันหัน แอนเสนอให้ทำหนังสือไปที่รายการสฤานีประชาชน หรือรายการอะไรก็ได้ที่รับรู้เรื่องความเดือดร้อนของประชาชนแล้วพร้อมจะให้ความช่วยเหลือหรือรวมตัวกันไปยื่นหนังสือกับรัฐมนตรีสาธารณะสุขโดยแจ้งสื่อมวลชนไปทำข่าวค่ะ

NONG:
บริษัท SNOFI AVANTIS ไม่น่าทำแบบนี้ คนเป็นโรคลมชักก็ลำบากมากอยู่แล้ว ยังมาซ้ำเติมกันอีก ยาตัวนี้ถ้ากำไรน้อยไม่คุ้มค่าก็ขึ้นราคาอีกหน่อยก็ได้ คนไข้ไงก็ต้องยอมรับอยู่แล้วเพราะไม่ใช่ยาในบัญชีไม่สามารถเบิกได้ ปัจจุบันก็ต้องชื้อเองอยู่แล้ว อยากให้คนไข้ที่เดือดร้อนช่วยกันแสดงความคิดเห็นหน่อย แล้วส่งให้บริษัทฯ รู้ถึงความเดือดร้อนที่คนไข้ได้รับ พอลดยาหรือหยุดยาตัวนี้มีอาการกลับมาทันที จะให้ชีวิตคนไข้เสี่ยงไปขนาดไหนกัน

ช่วยคำนึงถึงชีวิตคนไข้ด้วย อย่าห่วงแต่ผลกำไรอย่างเดียว

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version