เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า

เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า 

 

ผู้เขียน หัวข้อ: โรคลมชักไม่ควรชมภาพยนตร์ 3D  (อ่าน 4179 ครั้ง)

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
โรคลมชักไม่ควรชมภาพยนตร์ 3D
« เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2011 เวลา 10:40 น. »
มกราคม / 2010, เป็นชายชาวไต้หวันที่เสียชีวิตหลังจากได้ดูหนัง 3D Avatar สาเหตุสำหรับโรคหลอดเลือดสมองที่เป็นความดันโลหิตสูง ตั้งแต่นั้นมาจนถึงขณะนี้เป็นคำเตือนจากผู้มีอำนาจของประเทศใด ๆ รวมทั้งเวียดนาม, อันตรายที่คนชมภาพยนตร์ 3D อาจจะพบ

ความเสี่ยงจากการไม่ได้ถูกแจ้งเตือน

ยังคงเสียชีวิตอย่างกะทันหันในครั้งแรกที่เกี่ยวข้องกับมุมมอง 3 มิติแพทย์คนดังกล่าวที่มีประวัติของความดันโลหิตสูงและมีแนวโน้มว่าจะตื่นเต้นเกินไปในขณะที่ชมภาพยนตร์ อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ คนได้รับเหนื่อยและมีสัญญาณของความผิดปกติ หลังจากที่อาการโคม่าและถูกนำไปห้องฉุกเฉินผู้ป่วยไม่ได้สติและเสียชีวิตในวันต่อมา 11

แต่ก็ไม่ได้จังหวะ แต่มีหลายกรณีของผู้ชมกล่าวว่าพวกเขารู้สึกเหนื่อยหลังจากได้ดูหนัง 3D อันตรายคือคนไม่เพียงชมภาพยนตร์ 3D ผู้ใหญ่ทุกคน แต่ยังเด็กและผู้สูงอายุ สำหรับผู้ใหญ่ที่รู้สึกและสะท้อนถึงความผิดปกติจะเห็นได้ชัด แต่เด็กที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ทราบว่าบุตรหลานของตนกำลังมีปัญหาโดยเฉพาะเมื่อเด็กไม่ได้บอกว่า หรือเด็กที่ไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนของการแสดงออกที่ออก

Anh มินห์เจ้าของของเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นที่นิยมในฮานอยกล่าวว่าลูกชายของเธอเท่านั้นเมื่อ 8 ปีที่เป็นของเขาผิดปกติเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ใหม่และการเรียกร้องว่าเธอจะเป็นเหมือนวันถัดจากวันเพื่อไปชมภาพยนตร์ Avatar 3D ที่มีการประกาศไปก่อนหน้าเพียงหนึ่งสัปดาห์ ดร. เจสสิก้าที่โรงพยาบาลตากลางเด็กจะอยู่ภายใต้ผลกระทบมากที่สุดเมื่อดูภาพยนตร์ 3D ระบบประสาทของเด็กไม่ได้เป็นความรู้ที่สมบูรณ์พร้อมไม่สมบูรณ์เกี่ยวกับความเมื่อยล้าที่เด็กรู้สึกว่าผิดพลาดเพียงความเมื่อยล้าตามปกติ ในขณะเดียวกันพ่อแม่ผู้ปกครองจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนอย่างเต็มที่ของอันตรายที่เด็กและแม้กระทั่งตัวเองอาจพบเมื่อดูหนัง 3D

เจสสิก้ายังอยู่ภายใต้แพทย์อาการ"3D"กลายเป็นเด่นชัดมากขึ้นและอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูภาพเคลื่อนไหว 3D ที่ความเร็วสูงและในระยะเวลานาน ปัจจุบันในเวียดนามไม่ได้มีกรณีใด ๆ ของโรคหลอดเลือดสมองหลังจากได้ดูหนัง 3D แต่กรณีของการมองเห็นความเหนื่อยล้าและด้อยคุณภาพที่ไม่ได้ผิดปกติ บางทีไม่มีแบบอย่างเพื่อให้ห่างไกลกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้มีคำเตือนใด ๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงที่ผู้ชมอาจพบว่ามีหนัง 3D

ในขณะที่หนัง 3D ที่เริ่มต้นโพสต์บล็อกบัสเตอร์ได้รับการแสดงในประเทศเวียดนามตั้งแต่ปลายเดือน 11/2009 ที่ มีคนจำนวนมากเยาวชนส่วนใหญ่ถูก, ถูกทาส - ซ่ามาให้ชมภาพยนตร์ 3D Avatar ส่งผลให้ค่าเป็นผลงานภาพยนตร์ในการดำรงชีวิตโดยผู้กำกับเจมส์คาเมรอน ผู้ชม intrigued และแปลกเป็นฉากในภาพยนตร์ที่มีผลกระทบ 3D ที่งดงามความรู้สึกเหมือนพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้

บรรดาผู้ที่ไม่เห็น 3D?
สัญญาณของเมื่อไปดูหนัง 3D :
การเปลี่ยนแปลงวิสัยทัศน์ +;
+ หน้ามืดวิงเวียน;
+ Shaken;
ตา + และปรากฏการณ์ของการชักไม่ได้ตั้งใจที่
+ ลาเวนเดอร์ e;
+ มีความผิดปกติ;
+ ปวด;
คลื่นไส้ +;
+ แนวโน้มเชิงลบ

ตามคำแนะนำของแพทย์วิชาเช่นเด็กผู้สูงอายุ, สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่มีประวัติของความดันโลหิตสูงหรือโรคลมชักไม่ควรชมภาพยนตร์ 3D หรือจะปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะดู . โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบอย่างใกล้ชิดสัญญาณของความผิดปกติในระหว่างและหลังมุมมอง 3 มิติและการปรับเปลี่ยนที่จำเป็นเช่นแบ่งในขณะที่ดู หากคุณมีอาการผิดปกติใด ๆ เช่น lightheadedness, วิงเวียน, ปวดหัว ... ต้องไปพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำการรักษาอย่างถูกต้อง

นอกจากนี้แพทย์ยังแนะนำให้ผู้ชมที่เด็กและผู้สูงอายุโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงการดูภาพ 3 มิติที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง เมื่อระบบประสาทจะถูกกระตุ้นให้สูงสุดและมีแนวโน้มที่ส่วนใหญ่จะมีความเมื่อยล้าหรือความเครียด ในขณะเดียวกันผู้ปกครองควรตรวจสอบเด็กและถามว่าพวกเขามีปัญหาทางจิตวิสัยทัศน์และอาการอื่น ๆ ของความผิดปกติหรือไม่

อาการเหล่านี้มักจะเห็นเมื่อชมภาพยนตร์หรือเล่นเกม 3D อาจรวมถึง : ความเมื่อยล้า, การสูญเสียประสาทสัมผัสความรู้สึกไม่ดีกับทิศทางของความเครียดภาพสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่จะต่ำ, ปวดหัว, อาการวิงเวียนศีรษะ ใบหน้าหรือความเมื่อยล้า หากมีอาการเหล่านี้คุณควรดูหนังและส่วนที่เหลือจนกว่าจะมีความรู้สึกปกติอีกครั้ง เวลาปิดจะต้องเป็นอย่างน้อย 30 นาทีหลังจากได้ดู

จาก
http://windowsz.net/th/f68/xem-phim-3d-co-gay-dot-tu-ac-8259.html

ขอให้เพื่อนสมาชิกช่วยเพิ่มเติมในสิ่งกระตุ้นการชักด้วยค่ะ
-เครียด อดนอน ตื่นเต้น เหนื่อยเกินไป
-ประจำเดือน/อาหารเสริม น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส เป็นตัวกระตุ้นการชัก
-ชักแล้วเครียด เครียดแล้วชัก เหงา ซึมเศร้า
-หัตการที่มีไฟฟ้าเกี่ยวข้อง (เลเซอร์ทุกชนิด /ไอออนโต/เลสิค ฯลฯ)
-การทำงานเสี่ยงอันตราย/ ระมัดระวังการตั้งครรภ์/ข้ามถนน
-ทานยาไม่สม่ำเสมอ
-เหล้า กาแฟ
-แสงสว่าง (ส่วนตัวต่าย จะไม่นั่งหน้ารถเบาะเลยค่ะ หรือไม่เคยเที่ยวเธคเลย ตั้งแต่เป็นลมชัก)
-คอมพิวเตอร์
ฯลฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน 2011 เวลา 17:25 น. โดย Thanks-Epi »
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
Re: โรคลมชักไม่ควรชมภาพยนตร์ 3D
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2011 เวลา 10:56 น. »
สังเกตนะค่ะ เนื้อข่าวไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

ออฟไลน์ NONG

  • Shoutbox
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1,451
Re: โรคลมชักไม่ควรชมภาพยนตร์ 3D
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2011 เวลา 12:15 น. »
บางคนอาจคิดว่าไม่ตื่นเต้นอะไรเวลาดูภาพยนตร์ 3 มิติ แต่ความจริงคือสมองทำงานหนักเกินไป โดยเฉพาะผู้มีปัญหาโรคลมชักในสมองส่วนการรับภาพ ประมวลภาพ จะได้รับการกระตุ้นอย่างมากแน่นอน เอาให้แน่ใจ คนเป็นลมชักก็อย่าเพิ่งดูหนัง 3 มิติ  จนกว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้ากว่านี้ เป็นที่ยอมรับว่าไม่กระทบกับการทำงานของสมอง จะปลอดภัยกว่า ;)

ออฟไลน์ jelly

  • Meeting
  • จอมพลัง
  • *
  • กระทู้: 487
Re: โรคลมชักไม่ควรชมภาพยนตร์ 3D
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2011 เวลา 15:41 น. »
เพิ่งเคยได้ยินนะครับ ต้องระวังแล้ว
เคยพาเยลลี่ไปดูด้วยอะ 3D ขอบคุณมากครับ
โรคลมชัก Infantile sapsms
Diagnosed IS 10 June 2009
รักษาด้วย Sabril+Dapakine
Seizure free since 11 June 2009
Meds free since 1 Sept 2011
Dr.มนตรี แสงภัทราชัย
รพ.กรุงเทพ

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
Re: โรคลมชักไม่ควรชมภาพยนตร์ 3D
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: วันพุธที่ 17 ตุลาคม 2012 เวลา 08:50 น. »
ปิดเทอมนี้ต่ายลองพาลูกเข้าไปดู 4D  แล้วลองสังเกตุอาการว่า จะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า
(ตอนนี้ ทานฟริเซี่ยม เป็น 2 เม็ดแล้วเพราะสามารถคุมอาการได้ดีมาก ในสิ่งกระตุ้นหลายๆอย่างพร้อมกัน แม้แต่ลืมกินยาด้วย)
-ไม่มีอาการชักในส่วนไหน
-แต่มีอาการปวดหัวตามมา
-ที่ด้านหน้า ไม่มีการติดป้ายเตือนผู้ป่วยถึงข้อควรระวัง
ไม่ทราบว่า พี่น้อง กับคุณหมู ได้ถามลูกหรือเปล่าว่า มีอาการอะไรหรือเปล่าหลังชมภาพยนต์

อันนี้เป็นคลิปที่เพิ่งเจอะมา ใครเอ่ย ที่กำลังเก็กหล่ออยู่
<iframe width="640" height="385" src="//www.youtube.com/embed/4ZcPXCKPFwE?fs=1&start=" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เวปนี้ดีมีเตือนไว้ด้วย



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันพุธที่ 17 ตุลาคม 2012 เวลา 09:14 น. โดย Thanks-Epi »
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
Re: โรคลมชักไม่ควรชมภาพยนตร์ 3D
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2017 เวลา 08:47 น. »
เสริชคำว่า ปัญหาทางสุขภาพจากการใช้จอภาพ 3 มิติ - Engineering Journal  ในกูเกิ้ลค่ะ

4. อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้จอภาพ 3 มิติ
เป็นเวลา 10 กว่าปีแล้วที่ได้มีการนาภาพยนตร์ 3 มิติเข้ามาฉายในประเทศไทย โดยในช่วงแรกนั้น ไม่ได้เกิดปัญหาด้านสุขภาพให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งทั้งนี้อาจเป็นเพราะ 1. กลุ่มผู้ดูหนังเป็นเพียงประชากรกลุ่มน้อยเนื่องจากตั๋วมีราคาแพง และยังมีจานวนโรงหนัง 3 มิติอยู่น้อย 2. ภาพยนตร์ 3 มิติส่วนมากฉายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 1 ชั่วโมง รวมทั้ง 3. ระยะห่างของฉากกับผู้ดูหนังในโรงภาพยนตร์มีระยะห่างกันมากจนเกือบเป็นอนันต์ แต่ปัจจุบันปัจจัยเหล่านี้กลับตรงกันข้ามกับในอดีต เมื่อจอโทรทัศน์ตามบ้านสามารถฉายภาพยนตร์ 3 มิติได้ ทาให้กลุ่มผู้ดูหนังเพิ่มจานวนมากขึ้น ระยะเวลาในการชมก็นานขึ้นเช่น หนังบางเรื่องใช้เวลาฉายมากกว่า 3 ชม. รวมทั้งระยะห่างระหว่างผู้ชมกับจอแสดงภาพก็ใกล้มากขึ้น คือไม่เกิน 5 เมตร (ความกว้างของห้องดูภาพยนตร์ หรือห้องรับแขกทั่วไป) ปัจจัยเหล่านี้ที่ทาให้ลักษณะรูปแบบการใช้งานเปลี่ยนไป ส่งผลให้ภาระงานในการใช้ลูกตาและสมองทางานหนักขึ้น จนเริ่มพบปัญหาทางสุขภาพมากขึ้น
มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ได้ศึกษาการดูภาพสามมิติ ด้วยผู้ทดสอบช่วงอายุ 18-30 ปี โดยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ภาพสามมิติของมนุษย์กับการสร้างภาพสามมิติเสมือน และได้พบปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นกับผู้เข้าร่วมทดสอบ ที่มักจะรู้สึกอ่อนเพลีย ตาพร่า ปวดหัว และปวดตาอย่างมาก [5] แม้นว่าจะยังไม่มีรายงานทางการแพทย์ยืนยันอย่างชัดเจนแต่ก็ได้มีการป้องกันปัญหาด้านสุขภาพจากบริษัทที่ผลิตทีวี 3 มิติ เช่น บริษัทซัมซุงได้ออกเอกสารเตือนการใช้งานทีวี 3 มิติ [6] โดยระบุปัญหาด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ปวดตา ปวดหัว เวียนหัว หรือเกิดความล้าต่างๆ ขึ้น และ อาจทาให้เสียการควบคุมร่างกายชั่วขณะ สูญเสียความสามารถในการกะระยะด้วยการมอง เสียการทรงตัวได้คล้ายกับอาการเมารถ
นอกจากนี้ในเอกสารการเตือนยังได้เน้นถึง ข้อควรระวังกับผู้ใช้งานที่เป็น ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์, ผู้สูงอายุ, ผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการนอนหลับและผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ และให้เฝ้าระวังเด็กและวัยรุ่น เพราะอาจจะเกิดผลกระทบได้ไวกว่าผู้ใหญ่ ที่สาคัญคือให้ผู้เป็นโรคลมชัก หรือโรคทางสมอง หรือมีประวัติว่าคนในครอบครัวเป็นโรคลมชัก หลีกเลี่ยงการดูทีวีสามมิติ หรือควรมีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ดูแลให้คาแนะนาในการใช้งาน [6] คาดการว่าการสร้างภาพเสมือน 3มิติ นี้น่าจะมีผลกระทบกับเด็กที่มีอายุต่ากว่า 6 ปี [7] เนื่องจากการพัฒนาการทางสมอง ระบบประสาทและกล้ามเนื้อยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่

------
5. คาแนะนาในการดูจอภาพ หรือทีวี 3 มิติ
เนื่องด้วยทีวี 3 มิตินั้นเป็นเรื่องใหม่ ยังไม่ได้มีการศึกษาผลกระทบที่ชัดเจน แต่อยู่ในช่วงของการเริ่มมีเสียงร้องเรียนหรือเสียงบ่นจากผู้ใช้งานหลายคน ดังนั้นทางผู้เขียนบทความจึงได้ขอเสนอคาแนะนาในการดูจอภาพ 3 มิติดังนี้
1. ไม่ควรให้เด็กเล็กที่มีอายุต่ากว่า 6 ขวบชม
2. สาหรับเด็ก วัยรุ่น สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ ควร
2.1. ตรวจสอบข้อมูลสุขภาพ และโรคทางสมองของผู้ใช้ โดยเฉพาะโรคลมชัก ซึ่งไม่แนะนาให้ชม
2.2. เริ่มให้ชมจากระยะเวลาน้อยๆ ก่อน เช่น 5-10 นาที เพื่อสังเกตอาการ เช่น การทรงตัวหลังการชม
2.3. มีผู้ดูแลที่สามารถปฐมพยาบาลอาการชัก วิงเวียน เป็นลม หน้ามืด อาเจียร อยู่ใกล้ชิดตลอดเวลา
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

 


Powered by EzPortal