เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า

เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า 

 

ผู้เขียน หัวข้อ: ลมชักกับกรรมพันธุ์  (อ่าน 5506 ครั้ง)

ออฟไลน์ Someday

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
ลมชักกับกรรมพันธุ์
« เมื่อ: วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2011 เวลา 12:46 น. »
วันก่อนได้ยินมาว่าโรคลมชักเป็นกรรมพันธุ์ เพื่อนๆสมาชิกคิดเห็นกันอย่างไรบ้างคะ ตอนนี้กำลังเครียดเลย สามีเป็นลมชักแต่เด็กคะคุมอาการดีมาตลอดเพิ่งมาแย่ลงมากเอาเมื่อปลายปีที่แล้วจนตอนนี้ยังไม่ดีเลยคะMRIสมองเริ่มฝ่อแล้วคะ ที่สำคัญตัวเองเพิ่งคลอดลูกปลายปีเช่นกัน ตอนนี้ดูทั้งลูกดูทั้งสามีได้แต่สร้างกำลังใจให้ตัวเองว่าเดี๋ยวเค้าก้อดีขึ้นทันสอนลูกเดินหรือเล่นกับลูกได้ ส่วนลูกแข็งแรงคะ เว้นแต่เป็นเด็กขี้แพ้แพ้สารพัด นมไข่,ปลา,ผัก,ผลไม้,ถั่ว และอีกมากมาย ถ้าได้รับสิ่งที่ไม่รู้มาก่อนว่าแพ้แต่แพ้เข้าไปจะตัวร้อน ท้องเสีย ผื่นขึ้น ตาบวม ที่สำคัญหายใจไม่ออก คลอดเดือนแรกเนี่ยวิ่งเข้าออกรพ.เกือบทุกอาทิตย์มาตลอด พอได้ยินว่ากรรมพนธุ์จะแสดงอาการหลังหกขวบ ใจหล่นหายหาไม่เจอเลยคะ หมอเด็กได้แต่บอกว่าห้ามไข้สูง ที่ผ่านมาเวลาแพ้อาหารใหม่ๆเช็ดตัวกันทั้งวันกินยากันไปสงสารลูกคะ
ใครพอจะรู้ข้อเท็จจริงยังงัยรบกวนแชร์ด้วยนะคะ ขอบคุณคะ

ออฟไลน์ ann

  • Meeting2
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 236
Re: ลมชักกับกรรมพันธุ์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2011 เวลา 15:11 น. »
   ยินดี่ที่มาเป็นสมาชิกค่ะคุณsomedayเรื่องลมชักกับกรรมพันธ์แอนไม่ทราบแต่เข้ามานี่ มาให้กำลังใจเพราะตอนนี้คุณเป็นคนที่เป็นเสาหลักของครอบครัว อยู่กับปัจจุบันทำวันนี้ให้ดีที่สุด อย่าไปกังวลถึงอนาคตจะทำให้เครียดและหมดกำลังใจเปล่าเปล่า แอนเองมีลูกเป็นดาวน์มีลมชักด้วยพัฒนาการก็ยังไม่ไปไหนเลย ถ้ากังวลสงสัยบ้าไปแล้ว ยิ่งตอนนี้ยังไปตรวจเจอว่าลูกสาวคนโตเป็นเทอร์เนอร์ซินโดรมอีก ทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะนอกจากทำใจให้สู้ต่อไปอย่าท้อถอย ทำบุญเยอะเยอะอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรของครอบครัวเราทั้งหมดแหละค่ะ

ออฟไลน์ NONG

  • Shoutbox
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1,451
Re: ลมชักกับกรรมพันธุ์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2011 เวลา 19:51 น. »
สวัสดีค่ะคุณ someday เหมือนจำได้ว่าเราเคยคุยกันมาครั้งหนึ่งประมาณเดือนมาแล้ว
ที่ว่าโรคลมชักเป็นกรรมพันธุ์ก็มีจริงแต่ถ้าโรคลมชักนั้นเกิดจากพยาธิสภาพในสมองที่เกิดขึ้นภายหลังไม่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมค่ะ คุณหมอเคยบอกหรือไม่ค่ะว่าโรคลมชักที่สามีเป็นอยู่เกิดจากอะไร  ทำอย่างไรจะควบคุมอาการชักได้ คุณหมอวางแผนการรักษาอย่างไรบ้างคะ

ส่วนเด็กน้อยก็คงเป็นภูมิแพ้อย่างหนัก ไม่น่าเกี่ยวกับโรคลมชักของพ่อ ตอนนี้ลูกยังไม่ได้เป็นลมชักไม่ต้องเครียดไปก่อนค่ะ พยายามอย่าให้ลูกมีไข้สูงจนชักแต่เล็กตอนนี้จะดีที่สุดเพื่อไม่ให้มีโอกาสเกิดรอยโรคในสมองลูกได้  อยู่กับปัจจุบัน ทำตอนนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า ถ้าเป็นจริงก็ต้องรักษากันไปค่ะ รู้สึกเห็นใจคุณ someday มากที่ต้องดูแลผู้ป่วยอันเป็นที่รักถึงสองคน ยังไงก็ขอให้เข้มแข็งไว้ อย่าท้อนะคะ

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
Re: ลมชักกับกรรมพันธุ์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม 2011 เวลา 08:15 น. »
มาให้กำลังใจนะค่ะ (ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องนี้จึงไม่มีข้อมูลค่ะ)

เรื่องภูมิแพ้นั้น คงต้องปรึกษาหมอกุมารเวชด้วยนะค่ะ ถ้ายังไม่ชักนั้นอย่าเพิ่งกังวล อะไรจะเกิด เราห้ามมันไม่ได้ และอะไรไม่เกิด มันก็ไม่เกิดค่ะ

เข้มแข็งนะค่ะ จะได้มีกำลังใจ ถ้าสำหรับผู้ดูแลนั้น ท้อไม่ได้นะค่ะ
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

ออฟไลน์ popja

  • Administrator
  • จอมพลัง
  • *****
  • กระทู้: 871
  • น้องวินลูกพ่อป๊อปแม่โบว์
    • แบ่งปันความรู้โรคลมชัก
Re: ลมชักกับกรรมพันธุ์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม 2011 เวลา 09:59 น. »
มาให้กำลังใจคุณ someday ครับ


เรื่องภูมิแพ้ นี่น่ากลัวครับ ผมเองก็เป็น แต่เริ่มเป็นตอน 15 ปีครับ
อาการก็คือ ถ้าแพ้น้อยๆ จะรู้สึกเลย อวัยวะข้างใน มันแปลกๆครับ
ปากจะบวมเจ่อๆ
แต่ถ้าแพ้มากๆ ก็หน้าบวมทั้งหน้า หายใจลำบากมากครับ


อ้อ ที่ผมแพ้คือผมแพ้ กุ้ง กับ ปูครับ เมื่อก่อนที่จะแพ้ ทานเยอะมากๆ เพราะบ้านย่าอยู่ชลบุรี
กินปูกับกุ้งตลอดเลย ชอบมากด้วย
ตอนที่แพ้ตอนแรก ไม่แน่ใจว่าเราจะแพ้ได้อย่างไร ทานมาตั้ง 15 ปีแล้ว ไม่เห็นมีอาการ
ก็ลองกินซ้ำแล้วซ้ำอีก บางคนบอกว่า ถ้าแพ้ก็กินเข้าไปมากๆ
สรุป คือยิ่งกินยิ่งอันตรายมาก เพราะมีอาการหายใจไม่ออกด้วยครับ


ก็ต้องระวังเรื่องนี้มากๆเลยครับ แต่ผมรู้แล้วว่าแพ้อะไรบ้างจึงหลีกเลี่ยงได้ครับ ไม่ทราบว่า คุณแม่ จดไว้หมดแล้วใช่ไหมครับว่าน้องแพ้อะไรบ้าง
จะได้ไม่ไปกระตุ้นน้อง  ส่วนลูกผมแพ้นมวัวครับ ตอนแรกก็ไม่รู้ ไปหาหมอเด็ก หมอก็ว่า อาบน้ำอุ่นบ่อยหรือเปล่า เพราะเป็นตรงข้อพับ หรืออาจจะร้อน ก็เลยขึ้นผื่น
ตอนแรกก็ทำตามที่หมอบอก  ก็ได้ยามาทา ก็ทาไปก็ดีขึ้น ทาได้ซักระยะก็ขึ้นผื่นใหม่ ก็ไม่หายซักที
จนสุดท้ายเริ่มเห่อขึ้นที่แก้ม ที่รอบๆปาก  ไปหาหมอใหม่ หมอก็ว่า แพ้น้ำลายหรือเปล่า


กินมา4 เดือน จึงรู้ว่าแพ้นมวัว ก็เลยได้นม นูตรามิเจนมาทานครับ
ก็ลองนมอื่นๆมาหลายตัว คิดว่าแพ้หมดเหมือนกัน เหลือนูตรามิเจนตัวเดียว เป็นนมสำหรับเด็กที่มีอาการแพ้นมวัวเลยครับ


ก็ขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปน๊ะครับ
เอาบารมี 10 ประการมาบอกครับ อย่างอนุโมทนาบุญนี่ทำได้เลยทันทีครับ ทำเรื่อยๆ ผลบุญจะค่อยๆส่งผลให้เราฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ครับ


บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ

บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ คือ สิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ หรือกล่าวอย่างง่ายๆว่า การกระทำที่เกิดเป็นบุญ เป็นกุศล แก่ผู้กระทำดังต่อไปนี้

บุญสำเร็จได้ด้วยการบริจาคทาน (ทานมัย) คือการเสียสละนับแต่ทรัพย์ สิ่งของ เงินทอง ตลอดจนกำลังกาย สติปัญญา ความรู้ความสามารถ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นโดยส่วนรวม รวมถึงการละกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ ออกจากจิตใจ  จนถึงการสละชีวิตอันเป็นสิ่งมีค่าที่สุดเพื่อการปฏิบัติธรรม

บุญสำเร็จได้ด้วยการรักษาศีล (สีลมัย) คือการตั้งใจรักษาศีล และการปฏิบัติตนไม่ให้ละเมิดศีล ไม่ว่าจะเป็นศีล ๕ หรือศีล ๘ ของอุบาสกอุบาสิกา  ศีล ๑๐ ของสามเณร  หรือ ๒๒๗ ข้อของพระภิกษุ  เพื่อรักษากาย วาจา และใจ ให้บริสุทธิ์สะอาด  พ้นจากกายทุจริต ๔ ประการ คือ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ ละเว้นจากการลักทรัพย์  ละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม  และเสพสิ่งเสพติดมึนเมา อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท    วจีทุจริต ๔ ประการ คือไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดปด ไม่พูดเพ้อเจ้อ และไม่พูดคำหยาบ   มโนทุจริต ๓ ประการ คือ ไม่หลงงมงาย ไม่พยาบาท ไม่หลงผิดจากทำนองคลองธรรม

บุญสำเร็จได้ด้วยการภาวนา (ภาวนามัย ) คือการอบรมจิตใจในการละกิเลส ตั้งแต่ขั้นหยาบไป จนถึงกิเลสอย่างละเอียด  ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นโดยใช้สมาธิปัญญา  รู้ทางเจริญและทางเสื่อม  จนเข้าใจอริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค  เป็นทางไปสู่ความพ้นทุกข์ บรรลุมรรค ผล นิพพานได้ในที่สุด

บุญสำเร็จได้ด้วยการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ (อปจายนมัย) คือการให้ความเคารพ ผู้ใหญ่และผู้มีพระคุณ ๓ ประเภท คือ ผู้มี วัยวุฒิ ได้แก่พ่อแม่ ญาติพี่น้องและผู้สูงอายุ  ผู้มี คุณวุฒิ หรือคุณสมบัติ ได้แก่ ครูบาอาจารย์ พระภิกษุสงฆ์ และผู้มี ชาติวุฒิ ได้แก่พระมหากษัตริย์ และเชื้อพระวงศ์

บุญสำเร็จได้ด้วยการขวนขวายในกิจการที่ชอบ (เวยยาวัจจมัย) คือ การกระทำสิ่งที่เป็นคุณงามความดี ที่เกิดประโยชน์ต่อคนส่วนรวม โดยเฉพาะทางพระพุทธศาสนา เช่น การชักนำบุคคลให้มาประพฤติปฏิบัติธรรม มีทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น ในฝ่ายสัมมาทิฎฐิ

บุญสำเร็จได้ด้วยการให้ส่วนบุญ (ปัตติทานมัย) คือ การอุทิศส่วนบุญกุศลที่ได้กระทำไว้ ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งปวง   การบอกให้ผู้อื่นได้ร่วมอนุโมทนาด้วย ทั้งมนุษย์และอมนุษย์ ได้ทราบข่าวการบุญการกุศลที่เราได้กระทำไป

บุญสำเร็จได้ด้วยการอนุโมทนา (ปัตตานุโมทนามัย) คือ การได้ร่วมอนุโมทนา เช่น กล่าวว่า ?สาธุ? เพื่อเป็นการยินดี ยอมรับความดี และขอมีส่วนร่วมในความดีของบุคคลอื่น ถึงแม้ว่าเราไม่มีโอกาสได้กระทำ   ก็ขอให้ได้มีโอกาสได้แสดงการรับรู้ด้วยใจปีติยินดีในบุญกุศลนั้น ผลบุญก็จะเกิดแก่บุคคลที่ได้อนุโมทนาบุญนั้นเองด้วย

บุญสำเร็จได้ด้วยการฟังธรรม (ธัมมัสสวนมัย) คือ การตั้งใจฟังธรรมที่ไม่เคยได้ฟังมาก่อน หรือที่เคยฟังแล้วก็รับฟังเพื่อได้รับความกระจ่างมากขึ้น บรรเทาความสงสัยและทำความเห็นให้ถูกต้องยิ่งขึ้น จนเกิดปัญญาหรือความรู้ก็พยายามนำเอาความรู้และธรรมะนั้นนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ สู่หนทางเจริญต่อไป

บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม (ธัมมเทสนามัย) คือ การแสดงธรรมไม่ว่าจะเป็นรูปของการกระทำ หรือการประพฤติปฏิบัติด้วยกาย วาจา ใจ ในทางที่ชอบ   ตามรอยบาทองค์พระศาสดา ให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่บุคคลอื่น   หรือการนำธรรมไปขัดเกลากิเลสอุปนิสัยเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น ให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา มาประพฤติปฏิบัติธรรมต่อไป

บุญสำเร็จได้ด้วยการทำความเห็นให้ตรง (ทิฏฐชุกัมม์) คือ ความเข้าใจในเรื่อง บาป บุญ คุณ โทษ สิ่งที่เป็นแก่นสารสาระหรือที่ไม่ใช่แก่นสารสาระ ทางเจริญทางเสื่อม  สิ่งอันควรประพฤติสิ่งอันควรละเว้น  ตลอดจนการกระทำความคิดความเห็นให้เป็นสัมมาทิฏฐิอยู่เสมอ

บุญกิริยาวัตถุทั้ง ๑๐ ประการนี้  ผู้ใดได้ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือยิ่งมากจนครบ ๑๐ ประการแล้ว ผลบุญย่อมเกิดแก่ผู้ได้กระทำมากตามบุญที่ได้กระทำ   ยิ่งได้มีการเตรียมกาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์ ตั้งใจจรดเข้าสู่ศูนย์กลางกาย  หยุดในหยุด  เข้าไปแล้วก็ยิ่งได้รับบุญมหาศาลตามความละเอียดประณีตที่เข้าถึงยิ่งๆ ขึ้นไป


ขอนำมารวมในกระทู้นี้ด้วยน๊ะครับ

อ้างอิงจาก
http://www.dhammakaya.org/dhamma/boon01.php








สู้สู้

ออฟไลน์ Someday

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
Re: ลมชักกับกรรมพันธุ์
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม 2011 เวลา 14:06 น. »
ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกคนเลยคะสำหรับกำลังใจ เพิ่งจะว่างได้เข้ามานี้แหละคะ
@คุณแอน ขอให้น้องทั้งสองคนแข็งแรงขึ้นทุกๆวันนะคะ สู้สู้เช่นกันคะ
@คุณน้อง ใช่คะเราเคยคุยกันแบบนินจาผลุบโผล่คะ ดีใจคะที่จำกันได้ยินดีที่ได้คุยกันคะ
@คุณThanks-epi ใช่คะคำนี้เรียกสติเลยคะผู้ดูแลท้อไม่ได้ เพราะหมายถึงชีวิตของคนที่เรารักคะ
@คุณpopja อนุโมทนาบุญด้วยคะที่คุณได้สร้างสิ่งดีดีไว้ให้พวกเราได้เรียนรู้และแบ่งปัน ชื่นชมคะและขอบคุณคะสำหรับแนวทางบุญ :) ลูกก้อแพ้นมวัวด้วยคะทานนมนีโอเคต เพราะนมนูทราไมเยนเอาไม่อยู่คะแต่ปัจจุบันทานนมแม่ล้วนแล้วคะ แม่ใช้วิธีอดอาหารเอาคะผลที่ได้ ลูกดีขึ้นถ้าแม่ไม่กินอะไรที่ต่างไปจากปกติ คือหมูไก่ ผักสีขาว ผลไม้สีขาวเท่านั้นคะ น้ำมันมะกอกเท่านั้นคะ อาหารนอกบ้านไม่มีสิทธิ์คะตัวแม่ประหยัดตังค์ได้หลายคะเพราะไม่ต้องไปเข้าคอรส์ลดน้ำหนัก เพราะอดจนผอมเท่าก่อนท้องคะ 17โลเท่านั้นเอง ;D
เรื่งแพ้นมวัวกับอาการต่างๆของลูกถ้าสงสัยถามได้นะคะ ดูแลจนชำนาญ+ลูกชายแพ้เยอะมากจนจะเป็นพยาบาลได้อยู่แล้วคะ

ออฟไลน์ yotin

  • Meeting2
  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
Re: ลมชักกับกรรมพันธุ์
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2011 เวลา 01:02 น. »
ไม่ควรกังวล โรคลมชักและพันธุกรรมส่วนใหญ่ไม่ใช่ถ่ายทอดทางยีนเด่น มักจะเป็นยีนที่แฝงอยู่โอกาศที่จะถ่ายทอดไปในรุ่นลูกน้อยมาก ยกเว้นมีการแต่งงานในญาติพี่น้องกันเอง และโรคภูมแพ้ก็ไม่เกี่ยวกับโรคลมชักแต่เป็นภาวะเรื้อรังที่เกิดเนื่องจากการแพ้สารที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม

ดร.น.พ.โยธิน

ออฟไลน์ Someday

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
Re: ลมชักกับกรรมพันธุ์
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2011 เวลา 11:59 น. »
ว้าว..ดีใจจังค่ะ อ.เข้ามาตอบให้ด้วย ขอบพระคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ NONG

  • Shoutbox
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 1,451
Re: ลมชักกับกรรมพันธุ์
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2011 เวลา 12:11 น. »
ไม่บอกด้วยเลยหละคะ ว่าเป็นคนไข้ อ.โยธิน เอง อ.ไม่รู้หรอกค่ะ
 ;)

 


Powered by EzPortal