การสวดมนต์เพื่อให้ได้อานิสงส์สูงสุด
1.อย่าสักแต่ว่าสวดเป็นนกแก้วนกขุนทอง คือท่อง ๆ บ่อย ๆ ไปตามอักขระที่อ่านหรือนึกได้ ข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าต้องให้รู้ความหมายด้วย ไม่จำเป็นขนาดนั้น เพราะการรู้ความหมายเป็นเพียงส่วนเสริมเท่านั้น(แต่ถ้ารู้ความหมายด้วยก็เป็นเรื่องดี)จะรู้ความหมายหรือไม่รู้ความหมายก็ไม่สำคัญเท่ากับการสวดมนต์อย่างมีสมาธิ
2.ต้องสวดมนต์อย่างมีสมาธิ หมายความว่า เวลาที่จะสวดมนต์นั้นต้องรู้ก่อนว่าสวดมนต์บทไหน(จะรู้ความหมายหรือไม่รู้ก็ได้) แต่เวลาที่สวดมนต์นั้นให้รู้ว่าอักขระหรือตัวหนังสือที่เรากำลังจะท่องนั้นคือตัวอะไร ฟังดูอาจจะเข้าใจยาก เอาอย่างนี้ เวลาที่จะสวดมนต์ เช่น นะโม ตัสสะ ฯลฯ ก็ต้องรู้ว่าตอนนี้ กำลังสวดคำว่า นะ คำว่า โม คำว่า ตัส คำว่า สะ คือให้รู้ตัวทุกตัวอักขระว่ากำลังสวดคำไหน ทำได้มั้ยครับ ถ้าทำได้..คือรู้ตัวว่าสวดอักขระตัวไหน เราก็จะมีสติใจจดจ่อกับคำสวดตามอักขระ เมื่อมีสติเราก็จะมีสมาธิ การมีสติและมีสมาธิในเวลาสวดมนต์นั้น จะได้รับ "พลังงาน" ที่ดี ทำให้ได้ แล้วจะได้รู้ว่าสวดมนต์เวลาที่มีสติและสมาธิ จะ "ดีกว่า" สวดมนต์แบบนกแก้วนกขุนทองอย่างมากมายมหาศาล
สวดมนต์ถูกวิธีทำอย่างไร...
"เอาตำรามาดูกันก็ไม่ได้ผล แต่ดูตำราเพื่อให้ถูกวรรคตอนและให้คล่องปากแล้วจะได้คล่องใจ เป็นสมาธิ"
การวางจิตเมื่อสวดมนต์ได้ถูกวรรคตอนเป็นสมาธิดีแล้วก็วางจิตให้ถูกต้อง
สวดมนต์เป็นนิจ อธิษฐานจิตเป็นประจำ (ลิ้นปี่)
อโหสิกรรมเสียก่อนและเราก็แผ่เมตตา (ลิ้นปี่)
มีเมตตาดีแล้วได้กุศลแล้ว เราก็อุทิศเลย (อุณาโลม)
"แผ่ส่วนกุศลทำอย่างไร อุทิศตรงไหน ทำตรงไหนและวางจิตไว้ตรงไหนถึงจะได้ อย่าลืมนะ ที่ลิ้นปี่ หายใจยาว ๆ สำรวม เวลาสวดมนต์นั้นน่ะได้บุญแล้ว ไม่ต้องเอาสตางค์ไปถวายองค์โน้นองค์นี้หรอก แล้วสำรวมจิต ส่งกระแสจิตที่หน้าผาก อุทิศส่วนกุศล..."
สวดมนต์เป็นนิจ (ลิ้นปี่)
"ลิ้นปี่ จะอยู่ครึ่งทางระหว่างจมูกถึงสะดือ"
".....อธิษฐานจิตหมายความว่า ตั้งสติสัมปัชชัญญะไว้ที่ลิ้นปี่ สำรวมกาย วาจา จิตให้ตั้งมั่นแล้วจึงขอแผ่เมตตาไว้ในใจ สักครู่หนึ่งแล้วก็อุทิศให้มารดา บิดาของเราว่าเราได้บำเพ็ญกุศล ท่านจะได้บุญได้กุศลแน่ ๆ เดี๋ยวนี้ด้วย ผมเรียนถวายนะ มิฉะนั้นผมจะอุทิศไปยุโรปได้อย่างไร...."
อธิษฐานจิตเป็นประจำ (ลิ้นปี่)
"แผ่เมตตากับอุทิศมันต่างกัน ทำใจให้เป็นเมตตาบริสุทธิ์ก่อน ไม่อิจฉา ริษยา ไม่ผูกพยาบาทใครไว้ในใจ ทำใจให้แจ่มใส ทำใจให้สบาย คือเมตตาแล้วเราจะอุทิศให้ใครก็บอกไป มันจะมีพลังสูง สามารถจะอุทิศให้ คุณพ่อคุณแม่ของเรากำลังป่วยไข้ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ เช่น วีโก้ บรูน ชาวนอร์เวย์ที่เคยมาบวชที่วัดนี้เป็นต้น..."อโหสิกรรมก่อนแล้วค่อยแผ่เมตตา
"หายใจยาว ๆ ตั้งกัลยาณจิตไว้ที่ลิ้นปี่ ไม่ใช่พูดส่งเดช จำนะ ที่ลิ้นปี่ เป็นการแผ่เมตตา จะอุทิศก็ยกจากลิ้นปี่สู่หน้าผาก เรียกว่า อุณาโลมา ปจชยาเต..."
แผ่เมตตา (ลิ้นปี่) อุทิศส่วนกุศล (อุณาโลม)
---------------------------------------------------------------------
จากหนังสือกฏแห่งกรรมเล่ม ๖ เรื่องการอุทิศส่วนกุศล โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธัมโม)
วัดอัมพวัน ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
http://www.oknation.net/blog/benjaporn/2009/09/11/entry-1