Forum > ห้องนั่งเล่น

สวดมนต์

<< < (3/3)

popja:

กรณียเมตตสูตร



กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะ
สักโก อุชู จะ สุหุชู จะ
สุวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะติมานี
สันตุสสะโก จะสุภะโร จะ
อัปปะกิจโจ จะสัลละหุกะวุตติ
สันตินทริโย จะ นิปะโก จะ




อัปปะคัพโภ กุเลสุ อะนะนุคิทโธ
นะจะขุททัง สะมาจะเร กิญจิ เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุง
สุขิโน วา เขมิโน โหนตุ สัพเพ สัตตา ภุวันตุ สุขิตัตตา
เยเกจิ ปาณะภูตัตถิ
ตะสาวา ถาวะรา วา อะนะวะเสสา
ทีฆา วา เย มะหันตา วา มัชฌิมา รัสสะกา อะณุกะถูลา
ทิฏฐา วาเย จะอะทิฏฐา




เยจะ ทูเรวะสันติ อะวิทูเร
ภูตา วา สัมภะเวสี วา
สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา
นะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ
นาติ มัญเญะกะ กัตถะจิ นังกิญจิ
พยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญา นาญญะ มัญญัสสะ ทุขะมิจเฉยยะ




มาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข
เอวัมปิ สัพพะภูเตสุ มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
อุทธัง อะโธ จะติริยัญจะ
อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง
ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา




สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ
เอตัง สะติง อะทิฏเฐยยะ
พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ
ทิฏฐิญจะ อะนุปคัมมะ สีละวา
ทัสสะเนนะ สัมปันโน
กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง  นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ




คำแปลบทสวดกรณียเมตตสูตร



กิจที่คนฉลาดในสิ่งที่มีประโยชน์ และมุ่งหมายจะบรรลุทางสงบ จะพึงทำคือ เป็นคนกล้า เป็นคนซื่อ เป็นคนตรง ว่าง่าย อ่อนโยน ไม่เย่อหยิ่ง เป็นผู้สันโดษ เลี้ยงง่าย มีภาระกิจน้อย คล่องตัว ระมัดระวังการแสดงออก รู้ตัว ไม่คะนอง ไม่คลุกคลีในตระกูลทั้งหลาย ไม่ประพฤติสิ่งที่วิญญูชนตำหนิติเตียนได้ พึงแผ่เมตตาจิต ว่าขอสัตว์ทั้งปวงจงมีความสุขกายสบายใจ มีความเกษมสำราญเถิด



ขอสัตว์ทั้งหลายบรรดามี ที่เป็นสัตว์ตัวอ่อน หรือตัวแข็งก็ตาม เป็นสัตว์มีลำตัวยาวหรือลำตัวใหญ่ก็ตาม มีลำตัวปานกลางหรือตัวสั้นก็ตาม ตัวเล็กหรือตัวโตก็ตาม ที่มองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ตาม ที่อยู่ไกลหรืออยู่ใกล้ก็ตาม ที่เกิดแล้วหรือกำลังหาที่เกิดอยู่ก็ตาม ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงนั้นจงสุขกายสบายใจเถิด



บุคคลไม่พึงหลอกลวงผู้อื่น ไม่ควรดูหมิ่นเหยียดหยามใครๆ ใม่ควรมุ่งร้ายต่อกันและกัน เพราะมีความขุ่นเคืองโกรธแค้นกัน



คนเราพึงแผ่ความรักความเมตตา ไปยังสัตว์ทั้งหลาย หาประมาณมิได้ ดุจดังมารดาถนอมและปกป้องบุตรสุดที่รักคนเดียวด้วยชีวิต ฉะนั้น



พึงแผ่เมตตาจิตไปไม่มีขอบเขต ไม่คิดผูกเวร ไม่เป็นศัตรู อันหาประมาณไม่ได้ ไปยังสัตว์โลกทั้งปวงทั่วทุกสารทิศ ผู้เจริญเมตตาจิตนั้น จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน ตลอดเวลา ที่ตนยังตื่นอยู่ พึงตั้งสติอันประกอบด้วยเมตตานี้ให้มั่นไว้ บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวว่า การอยู่ด้วยเมตตานี้เป็นพรหมวิหาร ท่านผู้เจริญเมตตาจิตที่ละความเห็นผิดแล้ว มีศีล มีความเห็นชอบ ขจัดความใคร่ในกามได้ ก็จะไม่กลับมาเกิดอีกเป็นแน่แท้


อ้างอิงจาก
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=bannlangwat&month=07-12-2009&group=21&gblog=1

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version