สวัสดีค่ะคุณหน่อง,คุณต่าย
ไม่รู้ว่าบ้านคุณหน่อง,คุณต่ายอยู่แถวไหน แอนได้ยินว่ารร.จิตเมท อยู่แถวพุทธมณฑลดีมากเลย ลูกน้องสาวแอน
เรียนอยู่แต่รับไม่เยอะ ดูแลเด็กดีมากค่ะ เป็นแนวบูรณาการค่ะ
แอน
บ้านที่กรุงเทพฯอยู่แถวปิ่นเกล้าค่ะ แต่จริงๆส่วนใหญ่อยู่สุราษฎร์ แต่ก็ไปๆมาๆกรุงเทพฯ สองสามเดือนครั้ง มาธุระแล้วก็เยี่ยมพ่อกะแม่ด้วย ลูกเพื่อนๆหน่องหลายคนก็เรียนอยู่ที่จิตตเมตต์เหมือนกัน เห็นรูปหรือกิจกรรมของลูกเพื่อนใน FB แล้วน่าเรียนมากเลยค่ะ ความจริงเมื่อก่อนก็เคยคิดให้ไตตั้นเรียนที่นี่ แต่พอมีลูกคนเล็กตามมาก็เลยต้องรอไปก่อน เพราะดูคนเดียวสองคนไม่ไหว (หมายถึงพ่อต้องแยกไปอยู่สุราษฎร์แล้วเราดูลูกคนเดียว)
คุณเกด หน่องยังไม่ได้พาน้องไปหาหมอท่านอื่นเลย จริงๆ plan ว่าจะไปพบคุณหมอมนตรี ที่รพ.กรุงเทพเหมือนกัน แต่พอดีเมื่อวานฟ้าฝนไม่เป็นใจ ฝนตกพรำๆทั้งวันเลยไม่อยากพาลูกออกไปค่ะ กลัวโดนละอองฝน ส่วนวันนี้หมอก็ไม่เข้า คงต้องเลื่อนเป็นอาทิตย์หน้าไปเลย ที่ว่าอยากจะย้ายเพราะที่ผ่านมารู้สึกไม่ค่อยสะดวกในการติดต่อคุณหมอ อย่างตอนไตตั้นมีอาการขึ้นมาตอนอยู่สุราษฎร์ โทรไปที่พญาไทก็ต้องคุยผ่านพยาบาล เพราะหมอออก OPD แค่วันเสาร์วันเดียว เวลาจะ plan เดินทางขึ้นมาก็ไม่ค่อยสะดวก เพราะต้องเลือกให้ตรงกับวันเสาร์ ประมาณนี้ ส่วนถ้าไปหาคลินิกพิเศษนอกเวลาที่ศิริราชก็รอค่อนข้างนาน แล้วค่าใช้จ่ายก็ไม่ค่อยต่างกับเอกชน เพราะหน่องใช้สิทธิเบิกอะไรไม่ได้ ก็เคยถามหมอแล้วว่าจะโทรไปที่ศิริราชได้มั๊ยเวลาน้องมีอาการ คุณหมอก็บอกให้โทรมาที่พญาไทสะดวกกว่า เห็นว่าถ้าเป็นที่ รพ. กรุงเทพ คุณหมอออกตรวจเกือบทุกวัน น่าจะอุ่นใจกว่าค่ะเวลามีอะไร
ส่วนโรงเรียนที่สมัครไว้ให้ไตตั้น ชื่อโรงเรียนอุ่นรักสองภาษา ที่สุราษฎร์ค่ะ ที่เลือกโรงเรียนนี้ เพราะเทียบกับที่อื่นแล้วดูแลเด็กค่อนข้างใกล้ชิด คืออัตราครูต่อเด็กค่อนข้างดี (เมื่อเทียบกับที่อื่น) อย่าง nursery ที่ให้ไปเรียน ห้องนึงก็มีครู 3 คน เด็กไม่ถึง 20 ส่วนอนุบาลก็เห็นว่านักเรียนประมาณ 30 ครู 2 ท่าน อะไรก็โอเคหมดค่ะ แต่ติดตรงที่กันลูกไม่ให้ป่วยไม่ได้ ไปส่งทีไรเห็นเด็กน้ำมูกยืดแล้วอยากจะพากลับบ้าน คิดในใจว่ามันน่าจะมีโรงเรียนที่แยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกตินะคะ หรือถ้าป่วยก็ให้กลับบ้านอย่ามาเรียนรวมกัน เคยได้ยินว่าที่อเมริกาถ้ามีเด็กป่วย ครูให้พ่อแม่พากลับบ้านเลย (ไม่รู้จริงป่าว ถ้าบ้านเรามีงั้นจริงๆก็ดี ดีมากๆเลยแหล่ะ) ก่อนหน้านี้ก็สอนๆเองบ้างค่ะ แต่ไม่ได้จริงจังอะไรเท่าไร เพราะไม่อยากเร่งรัดลูกเกินไป อยากให้เค้าได้เล่นมากกว่ามาเรียนพวกวิชาการ แรกๆไม่ได้รู้สึกว่าเค้ามีปัญหาเรื่องพัฒนาการอะไร เพราะชักไม่ได้บ่อยมาก ที่สังเกตชัดหน่อยก็เรื่องขาที่ดูไม่ค่อยมีแรง เมื่อเทียบกับเด็กปกติอื่นๆ คุณย่าหรือญาติผู้ใหญ่ก็เคยทักอยู่เหมือนกันว่าน้องดูขาไม่แข็งแรง หน่องก็ไม่เคยนึกเลยว่าน่าจะเป็นผลจากการชัก เพราะไปกังวลเรื่องสมอง ความจำ พวกนี้มากกว่า ซึ่งก็คิดว่าเค้าดูปกติ ไม่มีปัญหาอะไร แต่จากการชักระยะหลังที่ถี่ขึ้น ประมาณ 3ครั้งใน 4-5 เดือน เริ่มเห็นชัดเรื่องกล้ามเนื้อขา ทำให้กังวล และกังวลไปถึงสมองด้วยว่าน่าจะกระทบ แลยเริ่มหาข้อมูลจนเข้ามาเจอ web นี้ล่ะค่ะ
มีเรื่องอยากปรึกษาเพื่อนๆพี่ๆเหมือนกัน ถึงเรื่องพัฒนาการของลูกว่าปกติมั๊ย ต้องกระตุ้นพัฒนาการด้านไหนหรือเปล่า
คือตอนนี้ไตตั้นอายุ 3 ปี 4 เดือน
พูดเป็นประโยคได้ เล่าเรื่องราวได้ นับเลข 1-10 ได้ ถึง 100 บางทีก็ได้ แต่ต้องคอยบอกบางตัว เช่น 39 แล้วกลายเป็น 30 เราก็ต้องบอกว่า 40
ท่อง ก-ฮ ได้ A-Z ได้
แต่เรื่องเขียนนี่ยังไม่ค่อยได้ เนื่องจากไม่เคยฝึกให้ลูก บางทีเค้าก็จะเขียนเองตัวง่ายๆ เป็นเลข 0 1 หรือ ก
รู้จักธงชาติหลายประเทศ เพราะชอบธงชาติมาก
คือเรื่องสมองหรือความจำนี่ไม่ค่อยผิดสังเกต แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเด็กในวัยเดียวกันเค้าทำได้มากกว่านี้หรือเปล่า
แต่เรื่องการพูดนี่ บางทีจะพูดติดๆอยู่บ้าง เช่นต้องมีการ Start ซ้ำๆๆก่อนจะหลุดประโยคออกมา ซึ่งอันนี้เคยสังเกตอยู่ครั้งหนีงตอนเค้าชักเมื่อประมาณ 2 ขวบ ว่าหลังชักใหม่ๆ วันสองวันแรก จะพูดคล้ายๆติดอ่าง แต่พอซักพักก็กลับเป็นปกติ ตอนนั้นเลยไม่ค่อยกังวลใจอะไร
ส่วนเรื่องความแข็งแรงของขานี่ค่อนข้างเห็นชัดเมื่อเทียบกับเด็กปกติอื่นๆ คือ เดินดูไม่ค่อยมั่นคง หกล้มบ่อย (โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์แรกๆหลังชัก) ก้าวขั้นบันได หรือ Step ไม่ค่อยไหว ต้องเกาะ กระโดด2 ขาพอได้ แต่ไม่ค่อยขึ้น ปีนป่ายไม่ค่อยได้ อ้อ! เมื่อสิ้นปีทีผ่านมาก็หกล้มฟันหน้ากระแทกพื้น รากฟันหัก ต้องถอนฟันหน้า 2 ซี่ ตอนนี้หลอเรียบร้อยแล้ว ช่วงนั้นเศร้าสุดๆ สงสารลูกมาก ตอนนี้พอมานึกย้อนกลับไป น่าจะเกิดจากที่เค้ามีอาการชักเมื่อ 20 พ.ย. ทำให้ขาอ่อนแรง หลังจากนั้น 1 เดือนก็เกิดอุบัติเหตุล้มฟันกระแทกพี้น
ประมาณนี้ค่ะ ไม่แน่ใจว่าควรจะกระตุ้นพัฒนาการด้านไหนให้เค้าหรือเปล่า เช่น เรื่องความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ หรือการพูด แล้วต้องทำยังไงบ้างคะ
ส่วนอีกเรื่องที่ยังสนใจอยู่คือ Homeschool หากใครมีข้อมูลหรือประสบการณ์ช่วยแนะนำด้วยนะคะ