เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า

เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า 

 

ผู้เขียน หัวข้อ: สวัสดีทุกคน และขอคำปรึกษาครับ  (อ่าน 4447 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yoyo123

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
สวัสดีทุกคน และขอคำปรึกษาครับ
« เมื่อ: วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 00:33 น. »
สวัสดีครับ ผม โยโย่นะครับ ปัจจุบันตรวจพบว่าตัวเองเป็นโรคลมชักระดับที่ 1 ครับ
เริ่มต้นจากผมเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560 ครับ ก็รักษามาเรื่อยๆ จนชักครั้งแรกวันท่ี 16 ตุลาคม 2561 ครบปีพอดีครับ หมอก็ให้ยาฉึดกันชัก ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นยาตัวไหน แล้วตอน 4 ทุ่มของวันเดียวกันก็ชักอีก คราวนี้ได้กินยา Keppra ก็ไม่พบอาการชักอีก กินมาได้ 2 วันเกิดอาการแพ้ เลยเปลี่ยนเป็น Dilantin 3 เม็ด ก็กินมาเรื่อยๆ มีกินบ้างวันไหนที่กลับมาเพลียๆ ก็ไม่เคยชัก จนวันที่ 14 ก.พ. ผมมีถ่ายงานแต่เช้า แล้ว คืนวันที่ 13 ก็ลืมกินยา ก็ไปถ่ายงานตามปกติ ก็ไม่มีอาการชัก จนตอนดึกๆ วันที่ 14 ก.พ. ไปกินข้าวกับครอบครัวตอนกำลังจะกลับบ้าน ก็เกิดชักขึ้นมา ก็นอนโรงพยาบาล 2 วันไม่มีอาการอะไรก็กลับบ้าน ยาก็ยังกินตัวเดิมครับ Dilantin 3 เม็ด ไม่มีตัวอื่นมาเพิ่ม ก็รู้สึกเพลียๆหน่อย แต่อาการอื่นๆยังปกติดี ไม่รู้สึกว่าอะไรแย่ลง ความจำยังอยู่ครบ รู้สึกว่าเรื่องบางอย่างจะจำได้ดีขึ้นด้วย เช่น เมนูอาหารยากๆ ก่อนหน้านี้ต้องเปิดหาใน Google แต่พอชักครั้งล่าสุด รู้สึกว่าจะจำได้ยาวขึ้น ไม่เกิน 10 ตัวอักษรชื่อยากแค่ไหนผมยังจำได้ครับ เหล่ากินบ้างเวลาไปถ่ายงานเลี้ยง ก็ไม่เคยมีอาการชักเลยครับ (แต่วันที่ 14 ที่ชักผมไม่ได้ดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะครับ น่าจะเกิดจากผมเหนื่อยเกินไปและก็ไม่ได้กินยาครับ) อยากจะรู้ว่าอาการอย่างผมควรเพิ่มยาตัวไหนไหมครับ ถามหมอหมอให้คำตอบกว้างมากและไม่ได้แนะนำยาเพิ่มเลยครับ ขอจากประสบการณ์ตรงเลยละกันครับ แล้วลมชักของผมจะมีโอกาสดื้อยาหรือเพิ่มระดับขึ้นไหมครับ ที่สำคัญอีกอย่างคือหลังจากที่ผมชักแม่ผมค่อนข้างกังวลห้ามโน่นห้ามนี่ไปหมดเลยครับ ห้ามนั่งรถเมล์ รถสองแถว นั่งได้แต่แท็กซี่ หรือรถแอร์ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมก็นั่งเป็นเรื่องปกติทุกครั้ง ผมแค่ลืมทานยาแค่ครั้งเดียวแล้วเกิดแจ็กพอร์ต ถ้าวันนั้นผมไม่ลืมกินยาโอกาสชักก็น่าจะน้อยลงอีก ทั้งชีวิตผมชักแค่ 3 ครั้งเองครับ และผมไม่ได้ขับรถ (ขับไม่เป็น) ขนาดเวลาปกติผมยังมีโอกาสชักน้อยมากๆแล้ว และถ้าวันนั้นผมไม่ลืมกินยากันชัก ผมก็คงไม่ชัก คือเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะมาห้ามกันครับ แค่เตือนผมไม่ให้ลืมกินยา ก็จบครับ สรุปจากประสบการณ์แล้วใครพอจะแนะนำผมได้บ้างครับว่าผมควรกินยาตัวไหนเพิ่ม ผมมีโอกาศชักเพิ่มขึ้นไหมถ้ายังกินยาตัวเดิม และผมควรคุยกับแม่ผมยังไงให้เข้าใจเกี่ยวกับโรคลมชักครับ ว่ามันไม่ใช่โรคอันตราย และเปอร์เซนต์การชักของผมยังน้อยอยู่ครับ ไม่ใช่ว่าจะชักได้ทุกเมื่อ ขอคำแนะนำหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
Re: สวัสดีทุกคน และขอคำปรึกษาครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 07:55 น. »
อยากจะรู้ว่าอาการอย่างผมควรเพิ่มยาตัวไหนไหม ถามหมอหมอให้คำตอบกว้างมากและไม่ได้แนะนำยาเพิ่มเลย
-อยู่ที่แพทย์ผู้รักษามองภาพรวมค่ะ หากอาการยังไม่จำเป็น ปกติแล้วการให้ยาลมชักจะจ่ายไม่ต้องมากเกินความจำเป็น มีผลต่อการลดยาในอนาคตหากไม่มีคลื่นชักแล้ว (ยาเยอะลดยาลำบาก)

ลมชักของผมจะมีโอกาสดื้อยาหรือเพิ่มระดับขึ้นไหม
-ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง  ;D ;D ;D ;D
การดูแลตัวเองจึงสำคัญมาก การกินยา ห้ามลดยาเอง (ศึกษาได้จากบอร์ด) วิธีปฎิบัติตัวเยอะมาก

หลังจากที่ผมชักแม่ผมค่อนข้างกังวลห้ามโน่นห้ามนี่ไปหมดเลยครับ ห้ามนั่งรถเมล์ รถสองแถว นั่งได้แต่แท็กซี่ หรือรถแอร์
-เรื่องรถสาธารณะ ขอตอบจากประสบการณ์ตรง
การนั่งรถเมล์ปลอดภัยกว่าในผป.ผู้หญิง เพราะเสี่ยงน้อยต่อการล่วงละเมิดทางเพศ (หากแท็กซี่ โอกาสถูกข่มขืนมีมากกว่า)
แต่จะเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัย เช่นตกรถ ตกเรือได้มากกว่า เพราะอาจจะต้องยืน ต้องหารถเมล์ที่ได้นั่งจะดีกว่า ไม่เหนื่อยมากด้วย
ต้องวัดกันค่ะ ระหว่างแท็กซี่นั่งสบาย (ไม่กระตุ้นชัก) ไม่ร้อนเหมือนรถเมล์
ส่วนการจี้ปล้น รถแบบไหนก็เสี่ยงค่ะ หากมีอาการและคุมไม่ได้ คนธรรมดายังโดนเลย
ของแบบนี้บางทีต้องอยู่ที่ดวงด้วยค่ะ (ไม่อยากใช้คำนี้ แต่จากประสบการณ์จริงๆ)
..ห้ามคุยโทรศัพท์ เล่นเนตระหว่างโดยสารรถค่ะ ไม่ว่าจะป่วยหรือไม่ป่วย เสี่ยงต่อหลายอย่าง ประมาทมากๆคนทำแบบนี้...
การใส่แว่นดำมีประโยชน์หลายอย่างค่ะ สำหรับผป.ลมชักที่ทำงาน "เท่ห์" และช่วยลดการสังเกตุความผิดปกติที่ตา
ถ้าชอบแบบต่าย คาดแมสไปด้วยเลย ปิดมันทั้งหน้านี่ละ ไม่ต้องให้ใครเห็น รักษาสเปซส่วนตัวได้ดีมากๆ ไม่ค่อยมีใครอยากเข้าใกล้ เพราะคนคิดว่าบ้า ไม่ค่อยเต็ม

ควรคุยกับแม่ผมยังไงให้เข้าใจเกี่ยวกับโรคลมชักครับ ว่ามันไม่ใช่โรคอันตราย
-พาไปพบแพทย์ จะว่าโรคนี้ไม่อันตรายก็ไม่ใช่ค่ะ โอกาสเกิดอุบัติเหตุหรือผลจากภายนอกมีเยอะกว่าโรคอื่นๆ เพราะเราคุมตัวเองไม่ได้

ปอร์เซนต์การชักของผมยังน้อยอยู่ครับ ไม่ใช่ว่าจะชักได้ทุกเมื่อ
-ใครบอกคะ มั่นใจขนาดนั้นเลยหรือ

จากคนที่เคยชักหนัก 15ปีเต็ม ไม่มีความหวังที่จะหาย
ปัจจุบันคุมชักได้ดีมาก จนหมอยังไม่เชื่อ
แต่ก็ต้องเชื่อเพราะไม่ชักคือไม่ชัก แต่ใช้ชีวิตไม่ประมาท




It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

ออฟไลน์ Yoyo123

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
Re: สวัสดีทุกคน และขอคำปรึกษาครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 12:30 น. »
เปอร์เซนต์การชักของผมยังน้อยอยู่ครับ ไม่ใช่ว่าจะชักได้ทุกเมื่อ
-ใครบอกคะ มั่นใจขนาดนั้นเลยหรือ
ก็ดูจากสถิติการชักโดยรวมของตัวผมนี่แหละครับ คือตลอดเวลา 1 ปี ผมชักแค่ 3 ครั้ง ที่โรงพยาบาล 2 ครั้งในวันเดียวกัน ตอนนั้นแหละถึงรู้ว่าเป็นโรคลมชัก และข้างนอกอีก 1 ครั้ง โดยตอนที่ชักนอกบ้านเป็นตอนกลางคืน ที่ผมถ่ายรูปเสร็จแล้วเดินทางต่อไปกินข้าวกับครอบครัว กินข้าวเสร็จถึงจะชัก แปลว่าตอนนั้นผมเหนื่อยมากจริงๆ และขาดยาด้วย ถึงได้ชัก ถ้าตอนนั้นผมไม่ได้ไปถ่ายรูป ก็คงไม่ชัก จะว่าเพราะแฟลชจากกล้องกระตุ้นการชักก็ไม่ใช่อีก เพราะตอนที่ผมถ่ายรูปก็เปิดแฟลช แสงก็เข้าตาบ้างเป็นเรื่องปกติ และทุกๆงานผมยิงแฟลชขึ้นเพดานตลอด ก็ไม่มีอาการชักเลยครับ มาชักตอนดึกๆที่ไปกินข้าวกับครอบครัว ผมเลยค่อนข้างมั่นใจครับ แต่ปัญหาคือนี่แหละครับ ผมจะกลับไปเป็นอย่างเดิมได้ยังไง ทำยังไงให้แม่ผมมั่นใจว่าผมจะไม่ชักถ้ากินยาครบ และโดยสารรถอะไรก็ได้เหมือนเดิม (ยกเว้นมอเตอร์ไซค์ ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุมาผมก็ไม่แตะอีกเลยครับ) ติดตรงนี้ที่เดียวเลยครับ ตอนนี้ผมออกไปรับงานไม่ได้เลย งานที่จองคิวไว้ก็ต้องแคนเซิลหมดเลยครับ จะทำยังไงดี อย่างน้อยๆผ่านพ้น 7 วันนี้ไปก็น่าจะเชื่อใจได้แล้วว่าไม่มีอาการชักอีกและไปทำงานต่อได้ครับ วันที่ 26 มีนัดหมอ ผมจะต้องคุยกับหมอว่ายังไงบ้างครับ ถึงจะให้แม่ผมเชื่อใจได้ว่าผมจะไม่ชักอีกหากผมกินยาครบตามกำหนดทุกๆวัน (ส่วนจะดื้อยาไหมและทำไงต่อให้เป็นเรื่องของอนาคต ถึงเวลานั้นแล้วผมก็คงจะมาปรึกษาอีกทีครับ เวลานี้ขอผมได้ไปทำงานที่ผมรักเหมือนเดิมก็พอใจแล้วครับ)

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
Re: สวัสดีทุกคน และขอคำปรึกษาครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 10:55 น. »
เปอร์เซนต์การชักของผมยังน้อยอยู่ครับ ไม่ใช่ว่าจะชักได้ทุกเมื่อ
-ใครบอกคะ มั่นใจขนาดนั้นเลยหรือ
ก็ดูจากสถิติการชักโดยรวมของตัวผมนี่แหละครับ คือตลอดเวลา 1 ปี ผมชักแค่ 3 ครั้ง ที่โรงพยาบาล 2 ครั้งในวันเดียวกัน ตอนนั้นแหละถึงรู้ว่าเป็นโรคลมชัก และข้างนอกอีก 1 ครั้ง โดยตอนที่ชักนอกบ้านเป็นตอนกลางคืน ที่ผมถ่ายรูปเสร็จแล้วเดินทางต่อไปกินข้าวกับครอบครัว กินข้าวเสร็จถึงจะชัก แปลว่าตอนนั้นผมเหนื่อยมากจริงๆ และขาดยาด้วย ถึงได้ชัก ถ้าตอนนั้นผมไม่ได้ไปถ่ายรูป ก็คงไม่ชัก จะว่าเพราะแฟลชจากกล้องกระตุ้นการชักก็ไม่ใช่อีก เพราะตอนที่ผมถ่ายรูปก็เปิดแฟลช แสงก็เข้าตาบ้างเป็นเรื่องปกติ และทุกๆงานผมยิงแฟลชขึ้นเพดานตลอด ก็ไม่มีอาการชักเลยครับ มาชักตอนดึกๆที่ไปกินข้าวกับครอบครัว ผมเลยค่อนข้างมั่นใจครับ แต่ปัญหาคือนี่แหละครับ ผมจะกลับไปเป็นอย่างเดิมได้ยังไง ทำยังไงให้แม่ผมมั่นใจว่าผมจะไม่ชักถ้ากินยาครบ และโดยสารรถอะไรก็ได้เหมือนเดิม (ยกเว้นมอเตอร์ไซค์ ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุมาผมก็ไม่แตะอีกเลยครับ) ติดตรงนี้ที่เดียวเลยครับ ตอนนี้ผมออกไปรับงานไม่ได้เลย งานที่จองคิวไว้ก็ต้องแคนเซิลหมดเลยครับ จะทำยังไงดี อย่างน้อยๆผ่านพ้น 7 วันนี้ไปก็น่าจะเชื่อใจได้แล้วว่าไม่มีอาการชักอีกและไปทำงานต่อได้ครับ วันที่ 26 มีนัดหมอ ผมจะต้องคุยกับหมอว่ายังไงบ้างครับ ถึงจะให้แม่ผมเชื่อใจได้ว่าผมจะไม่ชักอีกหากผมกินยาครบตามกำหนดทุกๆวัน (ส่วนจะดื้อยาไหมและทำไงต่อให้เป็นเรื่องของอนาคต ถึงเวลานั้นแล้วผมก็คงจะมาปรึกษาอีกทีครับ เวลานี้ขอผมได้ไปทำงานที่ผมรักเหมือนเดิมก็พอใจแล้วครับ)
-เข้าใจเลยว่า มือใหม่หัดชักยังไม่รู้จักชักเล็ก(อ่านได้ในบอร์ด)
-บอกแม่ ทำทุกอย่างให้เหมือนปกติที่สุดจะดีกับสภาพจิตใจของผป. ดีกว่าการคุมชักแบบ 100 เสียอีก เพราะหากผป.ไม่มีแรงใจสู้ ทุกอย่างก็จบแล้ว
การทำงาน หาเงินได้ คือทางที่จะสร้าง self esteem ซึ่งมีผลมากที่สุด     แม้จะจะคุมชักไม่ได้ แต่ยังรู้จักการเห็นคุณค่าของตัวเองแม้จะป่วยด้วยโรคอะไรก็ตาม
เด็กที่ self esteem ดีในช่วงเติบโตมา จะมีกำลังใจต่อสู้กับโรคนี้ได้มากกว่า อดทนกว่า สู้กว่า เด็กที่ขาด attachment/self esteem

อย่างน้องอาการน้อย ที่อ่านจากการพิมพ์ การใช้ภาษา (บอกแม่ ผป.ลมชักการันตีได้จากสำนวนการพิมพ์ ความรู้ใหม่ที่คนรอบข้างต้องทราบไว้)

หาแว่นกันแดดไว้ละกัน ถ้ามีแล้วใช้ให้เป็นประโยชน์ พี่ชักไปทำงาน+เข้าแบงค์ได้สบายๆ ไม่มีคนจับได้ด้วย คนสุขภาพปกติยังทำไม่ได้เลย วิ่งเข้าแบงค์วันนึงหลายหน ขึ้นรถสองแถว
ตอนนี้นั่งเฉยๆ  หายใจไปวัน ๆ ว่างเศรษฐกิจไม่ดี
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

ออฟไลน์ Yoyo123

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
Re: สวัสดีทุกคน และขอคำปรึกษาครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 12:12 น. »
ขอลิงค์ความหมายของคำว่า "ชักเล็ก" หน่อยครับ ระบบค้นหาของเว็บนี้ใช้งานไม่ได้ครับ
แล้วทำไมต้องใส่แว่นตาดำด้วยครับ มีความสัมพันธุ์กับโรคลมชักอย่างไรบ้างครับ (ผมทำงานกับแสงแฟลชครับ มองแสงแฟลชกระพริบบ่อยมาก แต่ไม่เคยชักเพราะแสแฟลชครับ วันที่ผมชักผมทำงานถ่ายภาพเสร็จแล้ว ไปกินข้าวกับครอบครัว ตอนกำลังจะกลับถึงได้ชักครับ)

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
Re: สวัสดีทุกคน และขอคำปรึกษาครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 13:03 น. »
ขอลิงค์ความหมายของคำว่า "ชักเล็ก" หน่อยครับ ระบบค้นหาของเว็บนี้ใช้งานไม่ได้ครับ
แล้วทำไมต้องใส่แว่นตาดำด้วยครับ มีความสัมพันธุ์กับโรคลมชักอย่างไรบ้างครับ (ผมทำงานกับแสงแฟลชครับ มองแสงแฟลชกระพริบบ่อยมาก แต่ไม่เคยชักเพราะแสแฟลชครับ วันที่ผมชักผมทำงานถ่ายภาพเสร็จแล้ว ไปกินข้าวกับครอบครัว ตอนกำลังจะกลับถึงได้ชักครับ)
ชักเล็ก เป็นชื่อเรียกกันเองของชักเฉพาะส่วน เช่น กระพริบตาเพียง 1 ครั้ง (แน่นอนว่าผป.คนนั้นสติต้องดีมากพอที่จะแยกระหว่าง การกระพริบตาธรรมดา/กระพริบตาธรรมชาติ)
มือกระดิก/ กระตุกเล็ก
ต้องหาอ่านหาฟังเยอะๆค่ะ เพราะพูดไม่หมดและไม่มีลิ้งค่ะ
---
แว่นกันแดดมีไว้ทำไม

12. แว่นกันแดดเพื่ออำพรางแววตา
 สำหรับต่ายแล้ว การใช้แว่นกันแดดเพื่อปิดแววตาตอนคุมชักไม่ได้ เป็นสิ่งที่ทำให้ไม่มีใครทราบว่าต่ายมีอาการชักอยู่ กำลังเหม่อ และถ้าใช้แว่นกันแดดเป็นปกติแล้ว คนจะยิ่งไม่สังเกตุเห็นว่าเรามีการชักเกิดขึ้นแม้จะชักทุกวันและทั้งวัน
 แถม ถ่ายรูปดูสวย ใช้คู่กับหมวก โครงการ From Hat To Heart ก็แสนเก๋ไก๋


จาก ชัก..อยากจะสวย
http://www.lomchakclub.com/v9/index.php/topic,1818.0.html

เนื่องจาก แววตาเป็นตัวบอกว่า ผป.คนนั้นคุมชักได้ดีจริงหรือไม่ (ก็ตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ  ;D ;D)
สังเกตุอะไรได้เลย ให้สังเกตุแววตาเป็นหลักค่ะ
การใส่แว่นกันแดดจึงมีประโยชน์ถ้าเราต้องการอำพรางว่าเรากำลังป่วย ใส่จนเป็นนิสัยของเรา ทำให้เมื่อเกิดอาการเหม่อ หรือไม่สบายต่างๆ คนจะไม่ทราบ
และเป็นการรักษาสเปซส่วนตัวได้ดีกว่าไม่ใส่ค่ะ

ส่วนแสงแฟรชกระตุ้นชักมั้ย ต้องสังเกตุอาการน้องเองค่ะ
แต่ในการตรวจeeg จะมีการใช้แสงเพื่อกระตุ้นคลื่นชักออกมา
ใน   ชัก..อยากจะสวย   จึงให้ระวังเลเซอร์ด้วย
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

ออฟไลน์ Yoyo123

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
Re: สวัสดีทุกคน และขอคำปรึกษาครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 21:53 น. »
ขอบคุณครับ แปลว่าผมโชคดีที่ยังไม่มีอาการต่อแสงแฟลช และอาการชักเล็ก แล้วแบบนี้เวลาผ่านไปค่อยๆปรับลดยากันชักลงแล้วจะทำให้มีอาการชักกำเริบขึ้นมาอีกไหมครับ แล้วถ้าอาการกำเริบขึ้นมาก็ต้องนับ 1 ใหม่เลยใช่ไหมครับ

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
Re: สวัสดีทุกคน และขอคำปรึกษาครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 08:00 น. »
ขอบคุณครับ แปลว่าผมโชคดีที่ยังไม่มีอาการต่อแสงแฟลช และอาการชักเล็ก แล้วแบบนี้เวลาผ่านไปค่อยๆปรับลดยากันชักลงแล้วจะทำให้มีอาการชักกำเริบขึ้นมาอีกไหมครับ แล้วถ้าอาการกำเริบขึ้นมาก็ต้องนับ 1 ใหม่เลยใช่ไหมครับ
การลดยา
-ยาลมชักต้องทานอย่างต่ำ 3 ปี โดยไม่มีอาการเลย ถึงให้ศึกษาชักเล็กประกอบ ( สมัยก่อนระบุที่ 2 ปี)

-ตรวจ eeg ซ้ำเพื่อลดยาลมชักว่าได้หรือไม่ หากยังมีคลื่นชักหมอจะไม่ตัดสินใจลด
......ปัญหา หลายหมอที่ลดยาโดยไม่ตรวจ eeg
......คนไข้รายงานว่าไม่ชักเนื่องจาก ชักบางอย่างจะมีสติดีและอาการสั้นมาก
......หมออีโก้เกิน ไม่ศึกษาอะไรเลย ฉันจะลดซะอย่าง ไม่ฟังอาการคนไข้ว่า มีอาการอะไรบ้าง รู้จักแต่ชักเกร็งก็หากินกับคนไข้แล้ว

-หากยาเกิน 2ตัว จะไม่ตัดสินใจลดยา เพราะยาก
การจ่ายยาลมชัก ยากกว่าการลดยา เพราะต้องประกอบด้วยหลายอย่าง เช่นความเสี่ยง หากลดยาแล้วเกิดชักใหญ่อาการหนัก ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้ ต้องทานยาตลอดชีวิต ไม่มีการลดยาเด็ดขา
......ปัญหา หมอไม่ทราบตรงนี้ ไม่ใส่ใจ ฉันจะลด แม้แต่ต่ายเองยังต้องหนีจากรพ.เก่า เพราะจะลดยาให้ต่าย หนีไปที่อื่นปลอดภัยกว่า ที่จะมาสั่งจ่ายยาลดลง
......เนื่องจาก ปัจจุบัน ปัญหาการขาดทุนของรพ.เยอะขึ้น ทำให้การจ่ายยาลมชักต้องประหยัดขึ้นมาก การลดยาจะช่วยให้รพ.อยุ่รอดขึ้น
แม้แต่กระทั่งประกันสังคม ยังจ่ายให้ต่ายแค่ 28 เม็ดในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ไม่เคยจ่ายยาให้ 31 เม็ดในเดือนที่ลงท้ายด้วย คม และไล่ออกจากห้องตรวจ เนื่องจากไปต่อล้อต่อเถียงว่า ถ้า 28 จ่ายได้ 31 ก็ต้องจ่ายได้เช่นกัน

-ใช่ค่ะ ถ้าลดแล้วชักต้องนับ 1 กันใหม่ และถ้าหมอดูภาพรวม จะไม่เสี่ยงลดยาค่ะ
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

ออฟไลน์ Yoyo123

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
Re: สวัสดีทุกคน และขอคำปรึกษาครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 12:31 น. »
อ๋อครับ แล้วการตรวจ EEG นี่ต้องหยุดยากันชักก่อนไหมครับ แล้วเราจะรู้ได้ยังไง คลื่นมันจะโดดให้เห็นเลยหรอครับ

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
Re: สวัสดีทุกคน และขอคำปรึกษาครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 10:14 น. »
ต่ายไม่ได้หยุดนะคะ ระหว่างตรวจจะมีการส่องไฟเพื่อกระตุ้นคลื่นชักออกมา
คลื่นจะเป็นคลื่นชักค่ะ หมอต้องอ่านเป็นด้วย
ต่ายเป็นคนนึงที่หมอลงว่าชักแบบไม่มีคลื่น
ปรากฎว่า คลื่นชักเยอะมากเลยค่ะ
ความทันสมัยของเครื่องจึงสำคัญมาก และหมอก็ต้องเก่งด้วย
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

ออฟไลน์ withmysimplelife

  • Jr. Member
  • *
  • กระทู้: 24
Re: สวัสดีทุกคน และขอคำปรึกษาครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2020 เวลา 11:26 น. »
ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณโยโย่เป็ยยังไงบ้างแล้วคะ ได้มีอาการชักเพิ่มหรือเปล่า
ใหม่เองตอนนี้ครบ3ปีแล้วนับตั้งแต่ชักครั้งแรก ตอนนั้นไปออกกำลังกายที่ยิม จำได้ว่าเล่นหนักมาก
พอเล่นเสร็จกลับมานั่งพักรู้ตัวอีกทีก็มีคนรุมเต็มไปหมด
จากนั้นก็เข้าโรงพยาบาล สแกนสมอง ผลออกมาคือเป็นเนื้องอกในสมองค่ะ
ได้รับการผ่าตัดแต่หมอแนะนำให้ไปฉายรังสีต่อ แต่ว่าใหม่ไม่ยอมไปค่ะ หมอบอกว่าต่อให้เนื้องอกหายก็อาจจะชักอยู่ดี
หลังจากนั้นกลับมาทำงานเราชักอีกค่ะะ ชักแบบรู้ตัวในห้องน้ำ
วันนั้นเหนื่อยมากทำงานตลอด ปั่นจักรยานไปนั่นนี่(ทำงานในโรงงาน) ตอนนั้นรู้ตัวค่ะว่าจะต้องมีอะไรผิดปกติ
เพราะว่าตัวเองเข็นจักรยานเข้าออฟฟิตแทนที่จะเอาไปที่จอดรถ จนมีคนถามว่าเป็นอะไรมั้ย
ก็มึนๆรีบกลับมาที่ล็อคเกอร์เตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้า ตัวเองก็เอาของทุกอย่างถือเข้าห้องน้ำหมดเลย
แบบปกติต้องเอาแค่เสื้อผ้า แต่เราเอาปากกา ดินสอ ยาดม หนังสือ มือถืออะไรแบบนี้เข้าไปด้วย
แล้วเราก็ชักไปเลยแบบรู้ตัวน่าจะ1นาที แล้วก็รีบออกจากห้องน้ำไปขึ้นรถบริษัท จากนั้นก็ตื่นมาพร้อมกับคนมุมเต็มไปหมด
ถูกหามส่งโรงพยาบาล วันนั้นมึนมาก จะโทรศัพท์ยังไม่รู้ว่าปุ่มโทรออกอยู่ไหนเลย

ข้างต้นเป็นการชักสลบไปแบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ หลังจากนั้นใหม่ไปหาหมอทางเลือกด้วย
หมอไม่ได้ให้เลิกยากันชักนะคะ เราก็ไม่กล้าเลิกด้วย อย่างน้อยต้องรอ2ปี แต่เราอยากให้หมอช่วยเรื่องที่เราเป็นมาตั้งแต่เด็ก
คือเป็นคนตัวร้อน ธาตุหนัก ไม่ค่อยถ่ายด้วย หมอแนะนำอะไรเราหลายอย่าง เรื่องอาหารการกิน หนังที่ดู การใช้ชีวิต
(เราชอบอ่านเรื่องผี และดูหนังสืบสวน)
เราสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ จริงๆพ่อแม่ก็เป็นห่วงค่ะ ไม่อยากให้ออกจากบ้าน ไม่อยากให้เที่ยว
แต่ใหม่ก็ต้องทำมาหากินเนอะ ไม่งั้นใครจะจ่ายค่าบ้าน ตอนแรกทุกคนดูเศร้าๆค่ะ
หลังๆมาเหมือนเขาเห็นว่าปกติ เขาก็เลยปล่อย(ซึ่งจรงๆแล้วพ่อแม่ไม่รู้ว่า ใหม่เคยชักอีกหลังจากที่เคยชักครั้งแรก)
ตอนนั้นกิจกรรมที่เราชอบ เราทำน้อยลงนะคะ ดำน้ำสกูบ้าไม่ต้องพูดถึงเลย ไม่ได้ลง เวคบอร์ดเคยกลับไปเล่นแค่2ครั้ง
เดินป่าต้องไปกับคนรู้จัก(เราเคยไปกับคนไม่รู้จักบ่อยๆ) เที่ยวชิลๆไปคนเดียวยังพอได้อยู่ค่ะ ไปแบบไม่รีบร้อนไม่มีแผนไม่คิดเยอะ


แต่พอมาหลังๆเราปล่อยตัวเองค่ะโหมทำงาน นอนน้อย กินของไม่มีประโยชน์ ไม่ไปหาหมอ
ช่วงนั้นมีปัญหากับที่ทำงาน โดนกลั่นแกล้ง เราก็ชักอีกค่ะ หลังจากนั้นก็ถี่มาเรื่อยๆ แบบเดือนละครั้ง
แต่มีบางครั้งก็ชักเหม่อค่ะ แบบทำบัตรเอทีเอ็มหายแล้วถูกกดเงินไปหมดเลย แล้วไปแจ้งที่ธนาคาร
ตอนนั้นก็เหม่อต่อหน้าพนักงานเลย น่าจะราวๆ1นาที แบบเราได้ยินเขาทุกอย่างแต่เราโต้ตอบอะไรไม่ได้
เคยคุยโทรศัพท์กับรุ่นพี่เรื่องที่โดนบลูลี่ทางอินเตอร์เนตแล้วชักเหม่อไปเหมือนกัน

จนถึงตอนนี้ก็เริ่มไปโรงพยาบาลอีกครั้งค่ะ ให้ทางโรงพยาบาลช่วยติดตามให้ คอยจ่ายยาให้ ก็ได้ยาเพิ่มมา
แล้วหลังจากนั้นก็มีแบบเหม่อบ้างกระตุกบ้างค่ะ จนถึงตอนนี้ใหม่คุมชักมาได้แล้ว7เดือนค่ะ

จะบอกว่าตัวเองโชคดีก็แปลกๆ
อย่างที่คุณต่ายบอกเลย ชักเล็ก มันมีแน่นอนถ้ามีสติแล้วจับได้นะคะ
ของใหม่แต่ก่อนเคยรู้สึกแปลกๆเป็นอาการBlankที่เราไม่สามารถอธิบายได้
และการดูแลตัวเองสำคัญมากจริงๆ ช่วงที่ใหม่คุมชักได้ก็เพราะดูแลตัวเอง
ตอนนั้นแทบจะไม่กินเนื้อสัตว์ แล้วก็ไปหาหมอทางเลือก สวดมนต์ก่อนนอน
หมอทางเลือกบอกว่าใหม่เป็นคนที่ตัวร้อนมากจนตกใจ หมอบอกให้คุมอุณหภูมิดีๆไม่งั้นจะชักได้
จากคนที่กินเบียร์เยอะมากก็หยุดค่ะ กินบ้างแบบโคตรนานๆทีเลย

Dailantin 100mg 3เม็ดก่อนนอน
VALPARIN 200mg 3เวลาหลังอาหาร
Update :ไม่ชักมา5เดือนแล้ว

 


Powered by EzPortal