31/5/53 >> กลับเข้าโรงพยาบาลอีกรอบค่า
หลังจากไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการนำน้องกลับมาพักฟื้นที่บ้าน อาการชักยังมีอยู่เรื่อยๆ และน้องมีอาการเพลีย หลับเป็นส่วนมาก ข้าวไม่ค่อยได้กินเนื่องจาก โดนแวเลี่ยมอยู่เรื่อยๆ ทำให้หลับลึกตลอด วันๆ นึงแทบจะตื่นมาทานข้าวแค่มื้อเดียว แกมและที่บ้านเห็นท่าไม่ไหว คิดว่าถ้าอยู่โรงพยาบาลน่าจะหายห่วงกว่านี้ อย่างน้อยก็ให้น้ำเกลือได้และมีออกซิเจนให้ และคุณพ่อน้องเนยค่อนข้างอ่อนลง หลังจากตอนแรกยืนยันคิดว่าออกมาแล้วจะดีกว่าเดิมแต่ก็ไม่ใช่อย่างที่คิด เลยตัดสินใจ admit ฉุกเฉินเข้าโรงพยาบาลตามเดิมในช่วงประมาณ 5 โมงเย็น เพราะน้องเริ่มชักถี่ขึ้นอีก และแกมไม่อยากให้แวเลี่ยมน้องอีกเรื่อยๆ ระหว่างทางไปโรงพยาบาล น้องชักถี่อีก จึงจำเป็นต้องเหน็บแวเลี่ยมอีกในรถค่ะ ก็หยุดชักไปได้ระยะนานพอควรเลยทีเดียว ไปถึงก็เข้าฉุกเฉิน คนป่วยเยอะ น้องเนยนอนรอดูอาการอยู่ ซักพักมีแม่คนนึงอุ้มลูกเข้ามาบอกว่าน้องชัก ตอนนั้นก็ไม่มีเตียงว่างเลย มีแต่เตียงที่น้องเนยนอนอยู่ แล้วตอนนั้นน้องลุกนั่งเล่นได้แล้ว เด็กคนนั้น 11 เดือนเองค่ะ ชักตาเหลือก หน้าซีด ปากม่วง ตัวสั่นมาเลย เห็นแล้วตกใจมากค่ะ ไม่เคยเจออาการขนาดนี้ น้องเนยชักถี่มากแต่ก็ไม่ถึงขั้นเขียวขนาดนี้ เลยเรียกให้อุ้มมาที่เตียง แกมสละเตียงให้เลยค่ะ เพราะลูกเราอาการดีขึ้นแล้ว สงสารมาก ได้แต่ลูบหัวแล้วบอกว่าหายนะลูก...สุดท้ายต้องสอดท่อออกซิเจนแล้วส่ง ICU ทันทีค่ะ มาทราบตอนหลังว่าอาการดีขึ้นแล้ว
หลังจากได้ห้องเป็นห้องพิเศษคู่ นอน 1 คืน ก็ถูกย้ายไปทำ 24-hour video-EEG monitoring อีก 2 คืน (2-3 มิถุนายน 53) และเป็นบุญของน้องเนยที่ตัวยาในการทำ SPECT มาถึงพอดี หลังจากที่รออยู่หลายอาทิตย์กว่าจะนำเข้ามาในประเทศไทยได้ เนื่องจากติดเรื่องควันภูเขาไฟระเบิดที่เมืองนอก ไหนจะติดเรื่องความวุ่นวายในบ้านเราอีก และจำเป็นต้องไปใช้เครื่องตรวจที่ ร.พ.จุฬาฯ
4/6/53 >> ทำ SPECT
* SPECT เป็นการฉีดสารกัมมันตรังสีขณะที่ผู้ป่วยชัก ในขณะที่มีอาการชักจะมีเลือดไปเลี้ยงบริเวณที่เป็นจุดกำเนิดการชักมาก การฉีดต้องฉีดด้วยความรวดเร็ว จำเป็นต้องมีพยาบาลที่ดูแลที่สามารถตรวจพบอาการชักได้ทันท่วงทีและฉีดภายในไม่เกิน 20 วินาทีของการชักเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่นอน แล้วนำผู้ป่วยไปถ่ายภาพด้วยเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ (ข้อมูลจาก thaiepilepsy.com)
ลุ้นมากค่ะ เรามีนัดฉีดสารตัวนี้ตอน 10 โมงเช้า และต้องไปให้ถึง ร.พ.จุฬาฯ ไม่เกิน 13.00 น. เพราะถ้านานกว่านั้นสารจะถูกขับออกทางปัสสาวะหมด ช่วงเวลาก่อนสิบโมง ไม่มีการชักเลยค่ะ แถมน้องยังตื่นดี กินข้าวได้พอสมควร ยังคิดอยู่ว่าถ้าไม่ได้ทำวันนี้ต้องรอคิวอีกนานมากทีเดียว คือเสียโอกาสตรงนี้ไปเลย เพราะทุกอย่างเซ็ตไว้หมดแล้ว เรียกได้ว่าเจ้าหน้าที่เตรียมเอาเข็มที่ใส่ตัวยามาคาไว้กับสายน้ำเกลือแล้ว รอแค่ชักเท่านั้นก็พร้อมฉีดเลย เพราะน้องเนยจะชักเวลาสั้นๆ ค่ะ กลัวไม่ทัน
จน 10.30 น. คุณยายพยายามกล่อมให้น้องหลับให้ได้เพราะเวลาเคลิ้มๆ ทีไรมักจะมีอาการชักทุกที .. ได้ผลค่ะ
หลังจากหลับไปไม่ถึง 5 นาที ก็มาเลย บังเอิญว่าสายน้ำเกลือที่คาอยู่ที่เท้าน้องเนยค่อนข้างยาว และกว่าจะฉีดสารเข้าไปหมด น้องเริ่มใกล้จะหยุดชักพอดี เลยไม่แน่ใจว่าทันหรือเปล่า ..
หลังจากนั้นก็รีบเอาเครื่องมือที่แปะอยู่ที่หัวน้องเนยออก (EEG) แล้วขึ้นรถไป ร.พ.จุฬาฯ ทันทีค่ะ ทุกอย่างแข่งกับเวลามากเลย ระหว่างทางน้องเนยก็ชักอีก 3-5 ครั้ง มีเตรียมแวเลี่ยมไปฉีดก่อนเข้าเครื่องตรวจด้วย เพราะถ้าชักจะไม่สามารถตรวจได้ค่ะ ไปถึงก็เข้าห้องตรวจ แกมรออยู่ข้างนอกเพราะมีน้อง ไม่อยากเข้าห้องฉายรังสี ให้คุณยายเข้าไปแทน เลยบรรยายไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง รู้แต่ว่ามีฉีดแวเลี่ยมอีกครั้ง น้องก็หลับ หยุดชักไป ทำการตรวจประมาณ 40 นาที พอถอดเครื่องมือออก ก็เริ่มชักต่อทันทีเลยค่ะ ... เจ้าหน้าที่บอกว่าโชคดีมากๆ ที่ตรวจเสร็จพอดี
วันก่อนวันที่จะทำ SPECT 1 วัน แกมจดจำนวนครั้งได้ประมาณ 107 ครั้ง มากที่สุดที่เคยจดมาค่ะ ตกใจอยู่เหมือนกัน เวลาชักมากๆ จะเพลียและหลับตลอดเวลาเลย มาช่วงหลังๆ สังเกตว่าบางทีแวเลี่ยมก็เอาไม่ค่อยอยู่แล้วค่ะ บางครั้งฉีดไปแล้ว 1 ชั่วโมงก็ยังคงชักอยู่นั่นแหล่ะค่ะ แต่บางครั้งก็หยุดได้ทันทีเหมือนกัน ได้คุยกับคุณหมอแล้ว แวเลี่ยมที่ฉีดเข้าเส้น ปริมาณจะน้อยกว่าแบบเหน็บทางก้นค่ะ ถ้าเข้าเส้นจะใช้ 0.6 CC แต่ถ้าทางก้นจะใช้ 1 CC คือครึ่งต่อครึ่งเลย เพราะต้องเผื่อหกหรือเข้าไม่เต็มจำนวนด้วย และการใช้ถี่เกินไป จะคุมไม่ค่อยได้ผล ต้องเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ค่ะถึงจะคุมอยู่ค่ะ
ปัญหาที่ทำให้กังวลใจอยู่ตอนนี้คือ ผมร่วงเยอะค่ะ ไม่รู้มาจากสาเหตุอะไร ไม่รู้เป็นเพราะกินยาเยอะมากเกินหรือว่าเป็นช่วงเวลาที่ผมร่วงเอง รอเส้นใหม่ขึ้นมา
ยังไงก็รอลุ้นผลตรวจวันจันทร์นี้ค่ะ (7/6/53) ... ว่าสามารถจะผ่าตัดได้หรือเปล่า