ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์โรคลมชักกับหญิงตั้งครรภ์นะค่ะ
ตอนปี2551จิ๋วติดเชื้อไวรัสจากขี้นกพิราบขึ้นสมองทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบจนกลายเป็นโรคลมชักเกิดอาการชักที่หน้ามหาวิทยาลัยชักจนหมดสติถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระพอผลจากการเจาะไขสันหลังออกมาว่าติดเชื้อไวรัสจากขี้นกพิราบขึ้นสมองทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบจนชักจึงถูกส่งกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าตอนนั้นรักษากับน.พ.เอกราช เพิ่มศรีได้นอนรักษาที่นั้นอยู่ดีๆท้องเริ่มใหญ่ขึ้นครอบครัวคิดว่าน่าจะไตเป็นอะไรรึป่าวจึงขอให้ทางโรงพยาบาลตรวจหาสาเหตุดูปรากฎว่ามีเด็กอยู่ในท้องซึ่งออกเพศออกแขนขาเรียบร้อยซึ่งประจำเดือนจิ๋วมาตามปกติตลอดไม่มีการแพ้ท้องร่วมด้วยซึ่งเป็นภาวะแท้งคุกคามซึ่งตอนนั้นสมองจิ๋วจำอะไรไม่ได้เลยถึงขั้นเอ๋อเลยที่บ้านทำการจดการกระทำทุกอย่างของจิ๋วไว้ให้ตลอดเพื่อให้จิ๋วได้อ่านพอเริ่มมีสติพอกลับบ้านได้ทางหมอสูติเรียกทางครอบครัวจิ๋วไปคุยว่าตอนคลอดทำใจนะไม่ตายคนใดคนหนึ่งก้ออาจตายทั้งแม่และลูกไม่ต้องเตรียมของใช้เด็กเลยตอนนั้นจิ๋วชักแบบรุนแรงปากเบี้ยวน้ำลายยืดเกร็งกระตุกฉี่ราดแทบทุกวันสมองคล้ายๆคนความจำเสื่อมที่จิ๋วใช้ชีวิตประจำวันโดยไม่เครียดเลยน่าจะผลมาจากการที่จิ๋วจำอะไรไม่ได้ทางครอบครัวจิ๋วใช้วิธีจิตบำบัดโดยการนั่งสมาธิผ่อนคลาย สวดมนต์ก่อนนอนแต่ผลปรากฎว่าพอจิ๋วผ่าคลอดน้องวันที่17กุมภาพันธ์2552ออกมาน้องน้ำหนัก3310กรัมร่างกายปกติไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไรเลยตัวจิ๋วเองก็แข็งแรงดีน้องชื่อเล่นว่าน้องบุญยิ่งเพศหญิงปัจจุบันน้องอายุ7ขวบกว่าแล้วสมองและพัฒนาการปกติสมวัยแถมเก่งภาษาอังกฤษพูดเก่งเหมือนจิ๋วเลยทั้งๆที่น้องโดนทั้งยารักษาไวรัส ยากันชัก การเจาะไขสันหลัง การเอ็กซเรย์ ไม่เคยได้รับการบำรุงครรภ์ด้วยดี แถมอาการชักจิ๋วรุนแรงด้วย น้องบุญยิ่งได้ทานนมแม่แค่2อาทิตย์เนื่องจากจิ๋วแพ้ยาcarbamazepine ขั้น steven johnson syndrome ซึ่งร้ายแรงมากทำให้ไม่สามารถให้นมแม่ได้เนื่องจากแพ้ยาทุกวันนี้น้องอยู่ป.2พัฒนาการดีมากบุญยิ่งสมชื่อจริงๆค่ะแต่ตอนนี้จิ๋วได้ผ่าตัดสมองทางด้านซีกขวาเมื่อปี2557ที่สถาบันประสาทวิทยา กับน.พ.ธีรเดช ศรีกิจวิไลกุล ซึ่งทำให้อาการชักดีขึ้นและหาสาเหตุปัจจัยกระตุ้นการชักได้คือ
เกือบสามารถควบคุมอาการชักได้แล้วแต่ดันตั้งครรภ์ที่2จิ๋วเครียดมากกลัวน้องสมองไม่ปกติจากการที่จิ๋วได้รับยากันชักและกังวลเรื่องน้องขาดออกซิเจนระหว่างจิ๋วชักเนื่องจากตอนนี้จิ๋วมีความรู้เรื่องโรคลมชักมากขึ้นและมีสติในการใช้ชีวิตประจำวันสามารถทำงานได้หาเงินช่วยเหลือครอบครัวได้แต่ต้องมาหยุดการทำงานเนื้องจากอาการชักที่เพิ่มขึ้นทำให้มีความเครียดจิตตกฟุ้งซ่านมากแต่อยากให้คุณแม่หลายๆท่านลดความเครียดลงเพราะถ้าเรายิ่งเครียดไม่ว่าคุณจะป่วยหรือไม่ป่วยทุกอย่างก็ไปลงที่ลูกทั้งหมดลองเอาเวลาที่เครียดมานั่งคุยเล่นกับลูกในท้องหรือตั้งสมาธิสวดมนต์เพื่อตั้งสติทำจิตใจให้ผ่อนคลายดีกว่าค่ะน้องจะได้เป็นเด็กอารมณ์ดีไม่งอแงและมาเตรียมตัวใช้คำว่าแม่ให้เต็มที่กันดีกว่านะค่ะ