เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า

เชิญร่วมงาน รวมพลังสายใย...เสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยลมชัก วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.62 เวลา 9.00-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 5 รพ.พระมงกุฎเกล้า 

 

ผู้เขียน หัวข้อ: อาชาบำบัดเหมาะกับเด็กลมชักหรือเปล่า  (อ่าน 1724 ครั้ง)

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
อาชาบำบัดเหมาะกับเด็กลมชักหรือเปล่า
« เมื่อ: วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม 2014 เวลา 10:23 น. »
http://www.happyhomeclinic.com/alt13-hippotherapy.htm

อาชาบำบัด หรือการนำม้ามาช่วยในการบำบัด เรียกว่า Hippotherapy ซึ่งคำว่า Hippo มาจากภาษากรีก แปลว่า ?ม้า? ส่วนคำว่า therapy แปลว่า ?การบำบัด?

มีงานวิจัยที่สนับสนุนให้เห็นถึงผลดีของอาชาบำบัดมากพอสมควร โดยมักได้ผลดีกับเด็กพิเศษกลุ่มที่มีความผิดปกติด้านระบบการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและข้อต่อ เช่น โรคสมองพิการหรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ซีพี (C.P. ย่อมาจาก cerebral palsy)

นอกจากนี้ยังมีการนำมาใช้ในการบำบัดกลุ่มเด็กออทิสติกที่มีปัญหาทางด้านการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจเช่นกัน

การอยู่บนหลังม้าได้ดี จะต้องมีการทรงตัวที่ดี มีสัมผัสที่แนบแน่นกับตัวม้า คือขาต้องหนีบไว้ข้างลำตัวม้าตลอด และมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการขี่ม้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นทักษะที่ได้เพิ่มขึ้นจากการขี่ม้าโดยอัตโนมัติ

จังหวะการก้าวย่างของม้าใกล้เคียงกับจังหวะการก้าวเดินของมนุษย์ เมื่อเด็กพิเศษได้มีโอกาสนั่งบนหลังม้า ก็เปรียบเสมือนกับการได้ฝึกเดินด้วยตัวเอง นอกจากนี้การนั่งบนหลังม้า ยังเป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ให้เคลื่อนไหวเป็นจังหวะ เพราะต้องขยับอิริยาบถตลอดเวลา ซึ่งสามารถช่วยลดอาการเกร็งต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เสมือนการทำกายภาพบำบัดรูปแบบหนึ่ง

นอกจากนี้เด็กยังได้ฝึกฝนการปรับตัวของสภาพร่างกายให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ได้รับจากการประคองตัวให้สามารถนั่งอยู่บนหลังม้าได้นั่นเอง โดยร่างกายจะมีการปรับตัวเองเป็นเสมือนกลไกอัตโนมัติ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นสัญชาตญาณความอยู่รอดของมนุษย์ที่พยายามจะรักษาสมดุลของร่างกายไม่ให้ตกลงมาจากหลังม้านั่นเอง

อาชาบำบัด เราจำเป็นต้องพิจารณาความเหมาะสมและปัจจัยแวดล้อมอื่นๆประกอบด้วย ในเด็กบางรายที่มีอาการกระตุกมากๆ ก็ไม่ควรใช้วิธีการนี้ในการบำบัด เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายกับเด็กได้ขณะทำการขี่ม้า
ม้าที่นำมาใช้ในการบำบัดมักเป็นม้าลูกผสม (pony) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ตัวไม่ใหญ่มากนัก ความสูงไม่เกิน 14 แฮนด์ (1 แฮนด์ สูงประมาณ 10 เซนติเมต ) เหมาะสำหรับเด็กเป็นอย่างยิ่ง และจำเป็นต้องมีการฝึกฝนม้าเป็นอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญด้วย

อาชาบำบัด เริ่มมีการนำมาใช้ตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ โดยการขี่อยู่บนหลังม้าเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ ความภาคภูมิใจ และลดความกลัว และเริ่มแพร่หลายในยุโรป และอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 โดยเน้นในเชิงของกายภาพบำบัดเป็นส่วนใหญ่

สำหรับในประเทศไทยเอง เริ่มมีการนำม้ามาช่วยในการบำบัดกลุ่มเด็กพิเศษ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 โดยกองกำกับการตำรวจม้า ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากที่เคยดำเนินการสอนคุณ พุ่ม เจนเซ่น ขี่ม้าและบำบัด ตามรับสั่งของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

ออฟไลน์ Thanks-Epi

  • Meeting2
  • Hero Member
  • *
  • กระทู้: 902
Re: อาชาบำบัดเหมาะกับเด็กลมชักหรือเปล่า
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม 2014 เวลา 10:35 น. »
ความรู้สึกต่ายตอนช่วงคุมชักยังไม่ได้ แม้แต่การนั่งชิงช้าเตี้ยๆของเด็กยังรู้สึกกลัว เวิ้งว้าง เครียด เพราะต้องบังคับตัวเองตลอดเวลา
อ.โยธินเคยบอกว่า การทรงตัวไม่ดี เกิดได้จาก ยาลมชัก และการคุมชักไม่ได้ ทั้ง 2อย่างรวมกัน

ปัจจุบันคนนิยมใช้การบำบัดหลายประเภทเข้าช่วยในพัฒนาการ ซึ่งต่ายกลับมองว่า อาชาบำบัดสำหรับเด็กลมชักที่ยังคุมชักไม่ได้ดีจริงๆ เป็นเรื่องน่าเสี่ยงพอๆ กับการห้ามขับรถ (เพียงแต่ม้ามีคนจูง) แต่คนจูงก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องลมชัก หรือสังเกตุอาการเป็น
อาชาบำบัดนั่งราวๆ 1/2 - 1 ชม. ถือว่า ระยะเวลานานมากที่จะก่อให้เกิดความเครียด

การฝึกการทรงตัวมีหลายแบบ เริ่มตั้งแต่ง่ายๆที่สุดและปลอดภัย
-เดินบนเส้นตรงของกระเบื้อง หรือถ้าไม่มีใช้เทปคาดแล้วให้เด็กเดิน (ให้เด็กกางแขนเพื่อปรับสมดุลช่วยจะดีมากค่ะ) ถ้าล้มก็ไม่เจ็บมาก
-การฝึกเดินบนสะพานตามตลาด หรือปูนก่อรถกันไหล (  ;D ต่ายใช้วิธีนี้...ฟรี..และได้ทุกวันด้วย ;D) หรือทำสะพานให้เด็กเดิน
-การปีนป่ายเชือกผูกแล้วเด็กไม่เกิดอาการเกร็งตัว มีความคล่องแคล่วพอที่จะหาทางปีนต่อไปเรื่อยๆ
-ถีบจักรยาน 2 ล้อได้ดีหรือยัง

ต่ายคิดว่า การใช้อาชาบำบัดต้องใช้วิจารณญาณอย่างมากๆ สำหรับเด็กที่มีอาการชักร่วมด้วย แม้จะคุมชักได้แล้วหลายปี ต่ายก็ยังไม่สามารถนั่งชิงช้าเร็วๆได้ ต้องค่อยๆฝึกจนชิน (ปัจจุบันคือเล่นเครื่องเล่นที่ดรีมเวลด์ได้ปกติแล้ว)

ทั้งนี้ทั้งนั้นออกตัวว่า ไม่ได้ต่อต้านวิธีอาชาบำบัดนะค่ะ เพราะมีงานวิจัยรองรับมากมาย  แต่ผปค.ควรระมัดระวังอย่างมาก

ถ้าในเด็กที่ฝึก SI ค่อยข้างได้ผลดีแล้ว นักกิจกรรมแนะนำให้ไปเล่นกีฬา ต่ายแนะนำปิงปองค่ะ เพราะ
-มีอัตราส่วนในการบาดเจ็บน้อยกว่ากีฬาทุกชนิด (อันนี้น่าจะสำคัญสำหรับเด็กลมชัก)
-ฝึกหลายระบบรวมกัน แขน ขา มือ จำกัดแรง สายตา ฯลฯ พร้อมกัน ใช้สมาธิค่อนข้างมาก
-กรณีที่เด็กยังเข้าสังคมไม่ได้ดี การเล่นแบบ 1 ต่อ 1 ทำให้เด็กกล้ามากกว่า การลงสนามที่มีเพื่อนเล่นหลายคน เป็นการฝึกความมั่นใจ (จากเดิมเล่นฟุตบอลแบบกลุ่มเข้าไปปะทะไม่ได้  จนกลายเป็นกล้าเข้าไปแย่งเตะบอลแม้อีกฝ่ายจะตัวโตกว่า)  และการเล่นสมมติ theme บาดเจ็บก็ดีขึ้นในช่วงที่ฝึกปิงปอง รู้จักแปลงร่างโดยใช้ของอื่นมาแต่งตัว คือเด็กมีจินตนาการว่า ตัวเองมีพลังมากขึ้น  (ซึ่งตรงนี้พัฒนาต่อยอดมาจากอย่างอื่นด้วยไม่ใช่จากปิงปองอย่างเดียวค่ะ)

สำหรับลูกต่าย การเล่นปิงปองได้ผลดีมากสำหรับอาการเขา ยาค่อยๆลดลงเรื่อยๆ อีกแล้ว  ;D 
It?s what you do in the dark, that puts you in the light
สิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณอยู่ในความมืดมิด ก็ทำให้คุณดูสว่างจากสิ่งนี้เช่นกัน

Tegretol CR(200mg)2*2
Keppra(250mg)1*2
Phenobarb(60mg)1*1
Folic(5mg)1*1
Frisium(5mg)1*2
  @@@ over dose  Tegretol CR 1000 mg @@@

 


Powered by EzPortal