Forum > ห้องฝึกพัฒนาการ
อุทาหรณ์จากการส่งลูกฝึกกิจกรรมบำบัด
Thanks-Epi:
https://www.facebook.com/Autistic2/photos/a.535684729780587.145821.535668413115552/949220418427014/?type=1&comment_id=968529623162760&offset=0&total_comments=154¬if_t=photo_comment
รายละเอียดตามลิ้งเลยนะค่ะ ขอแสดงความเสียใจกับน้องด้วย
คล้อยหลังไปแค่ ๓๐ นาทีครูก็โทรมาบอกว่า
น้องหมดสติครูได้นำส่งโรงพยาบาล
แล้วให้คุณแม่ตามมาด่วน จากห้องฉุกเฉิน
ต่อไปห้องไอซียู รักษานาน 54 วัน
น้องโปเต้ก็สิ้นลมไปอย่างสงบ
เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๕ น.
ใครจะคิด ใครจะคาดว่า แค่ไปส่งลูกทำกิจกรรมบำบัด
นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ แม่มุ๋ยจะได้เห็นลูกโบกมือบ๊าย บาย
นั่นคือวันสุดท้ายที่แม่ได้เห็นรอยยิ้มของลูกที่ยังมีลมหายใจ
หมอระบุในใบชันสูตรว่า
" หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน "
Thanks-Epi:
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=763989760313266&set=a.101378433241072.611.100001067468951&type=1&theater
" การจับมัดคว่ำหน้าไว้บนแผ่นไม้สี่เหลี่ยมที่แขวนอยุู่
แล้วจับหมุนอยุ่ราวๆครึ่งชั่วโมง โดยบอกว่าเพื่อทำให้เด็กสงบ
พอเอาลูกออกมาคุณแม่ถามว่าทำแบบนั้นทำไมเขาตอบว่า
เพื่อทดสอบว่าเด็กมีการตอบสมองต่อการหมุนมากน้อยแค่ไหน
อันนี้ใช้ common sence ก็น่าจะรู้แล้วว่า ไม่ควรจับเด็กก้มหน้า (การแกว่ง การโยก ไม่ผิดค่ะ) แต่การตัดการรับรู้เด็กทางสายตา เป็นสิ่งที่ผิด เด็กอาจจะตกใจ ผวา
ในส่วนของการสงบเด็กด้วยวิธีนี้(ตามที่เขียน) ต่ายไม่ขอวิจารณ์เนื่องจากละเอียดอ่อนเกินไปค่ะ + ลงรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ( แบ่งแยกย่อยเป็นเด็กไว/เฉื่อย)
สรุปว่า ต่ายฝึกมาด้วยใจของความเป็นแม่ค่ะ ใช้ใจแม่เข้าไปฝึกลูก
Thanks-Epi:
การฝึก SI สำหรับเด็กมีปัญหาทุกกลุ่มนับว่าจำเป็นมาก แต่อย่างน้อยคุณพ่อแม่ควรหาข้อมูลบ้างค่ะ อย่าเชื่อไปทั้งหมด เรามีสิทธิ์ถาม (มีคนโพสต์บอกว่า ขอดูใบอนุญาตได้ อันนี้ไม่แน่ใจค่ะ รบกวนใครมีข้อมูล ขอด้วยค่ะ)
สำหรับต่าย ต่ายจะไม่ส่งฝึกสำหรับ
--เก็บเงินเป็นคอร์ส (เหมือนจะราคาถูก เสียน้อยเสียยาก)
--เชิงบังคับ เชิญชวนเกินเหตุ มาบ่อยๆ หลายครั้งแต่อาทิตย์ เช่น ฝึกกับเขาแล้วดีกว่าฝึกเอง อันนี้เถียงค่ะ เพราะการที่เด็กจะดำรงชีวิตอยู่ได้ ไม่ใช่บรรยากาศห้องฝึก แต่เป็นชีวิตจริง การฝึกจึงต้องมีหลักจากครูห้องฝึก และได้ใช้ในบรรยากาศสถานที่จริงไปด้วย
--ไม่มีการบ้าน ทุกอย่างเป็นความลับ
--ครูฝึกตอบคำถามต่ายไม่ได้ ฝึกอะไรได้อะไร หรือเลี่ยงไม่ตอบ (เพราะไม่รู้ 5555)
มีสถานที่นึงเคยบอกว่า "ลูกต่ายไม่มีทางพัฒนาได้หรอก"
--แบบดูถูกเด็กอันนี้ก็ผิด ดูถูกกันตั้งแต่ยังไม่ฝึก แล้วจะฝึกได้มั้ยเนี่ย
ถ้าใครมีข้อมูลเพิ่มรบกวนตอบต่อด้วยนะค่ะ ยังไงช่วยกันสอดส่องดูแลเพื่อความปลอดภัยด้วยค่ะ แอบอ้างกันเยอะ
จากบทสนทนาทางโทรศัพท์
ต่าย..โห..สถาบันได้รับหลักสูตรจากมหิดลด้วยหรือ
คนรับ..ใช่ค่ะ
ต่าย..เป็นยังไงคะ
คนรับ..บอกไม่ได้ค่ะ เป็นความลับ คริคริ
ต่าย..คร้าาาาา แล้วจะส่งลูกไปนะคะ (โหยยยยยย ของดีเป็นความลับ ;D ;D)
แทนที่จะบอกว่า ได้รับหลักสูตรรับรองโดยใคร อย่างไร ฯลฯ โฆษณาได้เลยค่ะ อย่าแปะหน้าเวปเฉยๆ
หรือสถาบันดังกล่าวจะได้รับความร่วมมือจาก ม.มหิดลจริงๆ ก็ไม่ทราบเพราะ " เป็นความลับ"
ก่อนตัดสินใจ กรุณาหาข้อมูลมากๆ อย่าเชื่อถือเพียงแค่ ชื่อเสียง / เขาแนะนำมา
เพราะการฝึกที่ผิดวิธี ส่งผลร้ายแทนที่จะดีขึ้น กลับกลายเป็นเด็กกลัว ถดถอย ยิ่งโดยเฉพาะมีอาการชักต้องดูแลใกล้ชิด หากผู้ฝึกไม่มีความละเอียดพอ (เช่นในกรณี เคสเสียชีวิต ) อย่างน้อยต้องดูอาการเด็กเป็นว่าเริ่มถดถอย อาการทางกายเริ่มฟ้องว่าไม่ไหวแล้ว ไม่ใช่รอให้เกิดเรื่องค่อยโทรไปบอกผู้ปกครอง
NONG:
เป็นอุทาหรณ์จริงๆ ระวังๆ กันไว้บ้าง อะไรก็ต้องทำแต่พอควร และต้องสังเกตผู้ป่วยให้มากๆ เขาไม่สามารถพอที่จะบอก จะทำอะไรได้อย่างคนปกติ
Thanks-Epi:
--- อ้างจาก: NONG ที่ วันอังคารที่ 23 กันยายน 2014 เวลา 13:00 น. ---เป็นอุทาหรณ์จริงๆ ระวังๆ กันไว้บ้าง อะไรก็ต้องทำแต่พอควร และต้องสังเกตผู้ป่วยให้มากๆ เขาไม่สามารถพอที่จะบอก จะทำอะไรได้อย่างคนปกติ
--- End quote ---
ขอเน้นให้เลยนะค่ะ ผป.ลมชัก ปากจะหนัก สมองไม่ไป ไม่สามารถสื่อสารความรู้สึกออกมาได้ตรงทันเวลา ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร คิดอะไร การสังเกตุที่ทันท่วงทีจึงจำเป็นมาก และต้องเชี่ยวชาญด้วย เช่น ชักเล็ก หรือ แววตาที่เริ่มเปลี่ยน
สำหรับลูกต่าย ถ้าเล่นกัน ต่ายจะสังเกตุแววตาค่ะ ถ้าแววตาเปลี่ยน ต้องมีอะไรในใจเขาแน่ๆค่ะ เช่น กลัว นึกไม่ออก (ถดถอย หันเห เฉไฉ) เช่นเดียวกับผป.ลมชักที่อาจจะไม่สามารถแสดงออกทางสีหน้าได้
ต่ายต้องรีบคุมสถานการณ์ให้อยู่ เพื่อไม่ให้ลูกถดถอยไปกว่าเดิม (แค่แววตาก็รู้ค่ะ)
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version